เฟ่ยเข่อซินถามด้วยความไม่รู้ : “คุณเย่ ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้นละ? เท่าที่ฉันรู้มา บนโลกใบนี้แม้จะซ่อนอยู่ด้วยตระกูลที่ร่ำรวยมากมาย แต่ด้วยความสามารถของตระกูลเฟ่ย ไม่กล้าพูดว่าจะอยู่ในห้าอันดับแรกของโลก แต่ในสิบอันดับนั้นไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ด้วยทรัพย์สินของคุณในตอนนี้ ก็ไม่ได้อยู่ใต้ตระกูลเฟ่ย คนที่แข็งแกร่งกว่าพวกเรา นั้นน้อยมาก
เย่เฉินส่ายหน้าเบาๆ มองผ่านหน้าต่างเห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่อยู่สูงกว่าหมื่นเมตร แล้วถอนหายใจเบาๆ ความรู้ของพวกเราถูกจำกัดด้วยสายตา เมื่อก่อนผมคิดว่า ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกนี้ ก็คือตระกูลรอธส์ไชลด์ คนอื่นๆ ก็อาจจะมีทรัพย์สินแค่สิบล้านล้านหยวน หรือยี่สิบล้านล้านหยวน แต่ว่าตั้งแต่ครอบครัวคุณปู่ถูกทำร้าย ทำให้ผมรู้ว่า โลกใบนี้ แตกต่างจากความเข้าใจของผมในเมื่อก่อน "
เฟ่ยเข่อซินรีบถาม “ความหมายของคุณคือ ในโลกนี้ยังมีตระกูลที่แข็งแกร่งกว่าตระกูลรอธส์ไชลด์?”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้ตอบคำถามของเฟ่ยซินเข่อ กลับถามไปว่า คุณคิดว่าเราควรใช้อะไรมาวัดความแข็งแกร่งของตระกูลหรือองค์กรเหรอ?
เฟ่ยเข่อซินครุ่นคิด แล้วพูดอย่างจริงจัง “วัดจาก กำลังคน สิ่งของ ทรัพย์สินเหล่านี้มั้ง แต่ทรัพย์สินน่าจะสำคัญที่สุด”
เย่เฉินพยักหน้า “แต่ก่อนผมก็คิดว่าทรัพย์สินสำคัญที่สุด อย่างไรเสีย การจัดอันดับความร่ำรวยล้วนวัดจากจำนวนเงินทั้งนั้น”
พูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงของเย่เฉินก็เปลี่ยนไปในทันที และพูดอย่างเคร่งขรึม “แต่ว่า อยู่ๆผมก็มีความถามขึ้นมา หากตระกูลที่มีเงินมากมาย เงินสำหรับเขา ไม่ได้กลายเป็นตัวเลขที่มากมายนานแล้ว และไม่มีความหมายใดๆอีก เขาพวกจะทำอะไรต่อไป?”
เย่เฉินตอบอย่างจริงจัง “ตัวอย่างที่ง่ายที่สุด ตระกูลรอธส์ไชลด์ที่มีทรัพย์สินมากว่าสิบล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ล้วนเอาไปลงทุนในธรุกิจที่สามารถแสดงมูลค่าออกมา อย่างเช่นการลงทุนพวกหิน ลงทุนเหมืองแร่ ลงทุนกับบริษัทหลักทรัพย์ห้าร้อยอันดับแรกของโลก หรือลงทุนตั้งธนาคารเองโดยตรง โดยอาศัยธนาคารในการปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทเพื่อกินดอกที่สูงหรือเป็นผู้ถือหุ้น”
“เงินพวกนี้ถึงแม้จะใช้จ่ายไปแล้วก็ยังนับเป็นสินทรัพย์ได้อยู่ มันก็คือการแปลงสินทรัพย์ในรูปแบบหนึ่งเท่านั้น เช่นผมมีเงินหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ แล้วใช้เงินห้าสิบล้านดอลลาร์สหรัฐซื้อบ้านหรูหนึ่งหลังที่นิวยอร์ค สินทรัพย์ของผมก็จะกลายเป็นเงินสดห้าสิบล้านดอลลาร์ อสังหาริมทรัพย์อีกห้าสิบล้านดอนลาร์………..”
“หรือบางที ผมอาจจะใช้เงินยี่สิบล้านดอลลาร์ไปแลกเปลี่ยนเป็นบ้านหนึ่งล้าน หรือเปลี่ยนเป็นหุ้นยี่สิบล้าน หรือเปลี่ยนเป็นหุ้นยี่สิบล้านเพื่อให้ได้เป็นผู้ถือหุ้น20%ของบ่อน้ำมัน หรือใช้เงินยี่สิบล้านในการซื้อภาพวาดที่วาดโดยศิลปินที่มีชื่อเสียง จากนั้นผมก็เก็บเงินยี่สิบล้านไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียน จริงๆแล้วมันก็คือการแปลงเงินสดเป็นสินทรัพย์เท่านั้นเอง มันอาจเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...