แม้ว่าบรรพบุรุษของหัวเซี่ยจะสั่งสอนมาแต่นานแล้ว ว่าเงินเป็นสิ่งนอกร่างกาย แต่ว่า หลายคนยังให้ความสำคัญกับเงินมากกว่าชีวิต
คนเลวทรามอย่างเหมยอวี้เจิน ที่ละทิ้งความตายมาเป็นเวลานาน สำหรับเธอ การแสวงหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอคือการหาเงินให้มากขึ้นเพื่อให้ครอบครัวของเธอสามารถเจริญรุ่งเรืองสืบทอดต่อไป
หากในอนาคตลูกหลานของเธอสามารถกลายเป็นคนรุ่นที่สองและสามของความมั่งคั่งและเจริญรุ่งเรืองต่อไปได้ นั่นจะเป็นเป้าหมายสูงสุดในชีวิตของเธอสำหรับเธอ
เป้าหมายสูงสุดในชีวิตของเธอไม่ใช่ทายาทใดทายาทหนึ่งเพียงคนเดียว แต่คือการช่วยให้ทั้งตระกูลสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้อย่างสมบูรณ์
พูดตรงๆคือเสียสละฉันคนเดียว เพื่อความสุขของรุ่นต่อไป
ดังนั้น หากเธอถูกฆ่าตายในเวลานี้ และครอบครัวของเธอจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆทั้งนั้น เธอจะไม่ลังเลเลย
แต่ตอนนี้ เรื่องนี้ได้พัฒนาไปในทิศทางที่เธอไม่อยากเห็นมากที่สุด
รากฐานที่เธอทุ่มเทสร้างมันขึ้นมาอย่างหนัก ได้แตกสลายลงในพริบตาเดียว
เธอกับจ้าวเปิ่นซานมีความเห็นที่เหมือนกัน เมื่อเปรียบเทียบกับสองสถานการณ์ ที่คนตายแต่มีเงินและคนเป็นแต่ไม่มีเงิน
เธอรู้สึกว่า การที่คนตายแล้วแต่ใช้เงินไม่หมดนั้นไม่ใช่โศกนาฏกรรมแต่เป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ เพราะเหล่าตระกูลใหญ่ในสหรัฐอเมริกาที่ตกทอดมาหลายร้อยปี ล้วนแล้วเสียชีวิตแต่เงินยังใช้ไม่หมด
แต่คนที่เร่ร่อนบนท้องถนนแม้แต่จะนอนเต้นท์ยังไม่มีเงิน ได้แต่นอนขดตัวอยู่ใต้สะพานในสหรัฐอเมริกานั้น ล้วนแล้วเป็น "คนที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่เงินหมด"
ดังนั้น เมื่อความพยายามทั้งหมดสูญเปล่าและรากฐานทั้งหมดของเธอพังทลาย สำหรับเธอแล้ว มันคือโศกนาฏกรรมของมนุษย์ที่แท้จริงและเป็นหายนะที่แท้จริง!
ในขณะนี้ เหมยอวี้เจินรู้สึกสิ้นหวัง และอาเจียนทุกอย่างออกมาจากกระเพาะของเธอ เธอก็ล้มลงบนพื้นหญ้าที่ริมถนน กอดศีรษะและร้องไห้
อีกสามคนไม่คาดคิดว่า ปีศาจหญิงผู้นี้ที่ไม่รู้เคยทำให้คนตายมากี่คน นั่งร้องไห้อยู่ริมถนนอย่างไร้หนทาง
มีช่วยพริบตาหนึ่ง ในใจของหม่านจินซานมีความรู้สึกมึนงง
เดิมที เขาคิดว่าคนอย่างเหมยอวี้เจินที่มีจิตใจแข็งกระด้างและไม่สนใจชีวิตและความตายในเวลาเดียวกัน ชาตินี้จะไม่เกรงกลัวอะไรอีกแล้ว
แต่นึกไม่ถึงว่าเธอที่ไม่กลัวแม้แต่ความตายนั้น กลับกลัวความจน
แต่ว่า ตอนนี้ในใจของหม่านจินซานมีความรู้สึกสะใจโดยไม่รู้ตัว
เขารู้สึกอคติต่อเหมยอวี้เจินมานานแล้ว
ในอีกด้านหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้มีสิทธิ์ควบคุมทีมของพวกเขาอย่างเด็ดขาด และเธอไม่เคยแสดงสีหน้าที่ดีต่อพวกเขาเลย วันๆเอาแต่ชี้นิ้วสั่งการ บางครั้งถึงขั้นต่อว่าและลงไม้มือลงมือ
และอีกด้านหนึ่ง เป็นเพราะเธอเป็นผู้หญิง จึงสามารถทำเงินได้มากกว่าเขา
บางครั้ง เห็นคนอื่นทำเงินได้ อึดอัดมากกว่าตัวเองเสียเงิน
ตัวเองยอมเสีย100 ดีกว่าเห็นคนอื่นได้10,000
หม่านจินซานเป็นกรณีแบบนี้
หม่านหยิงเจี๋ยที่อยู่ข้างๆนั้นรีบชักจูง:"ป้าเหมย คุณอย่าพึ่งรีบร้อน! เรายังมีธุระที่ต้องทำ และสิ่งสำคัญที่สุดของคุณในตอนนี้คือรีบหาเงินให้มากที่สุด ไม่เช่นนั้น ในอนาคตสามีและลูกชายของคุณออกมา ถ้าไม่มีเงินจะกลับมาตั้งตัวได้อย่างไร? ! "
หม่านจินซานพยักหน้าและกล่าวว่า:"ใช่ พี่เหมย คดีฟอกเงินนั้น โทษจำคุกสูงสุดแค่สิบปีใช่ไหม? ถ้าประพฤติตนดีและได้ลดโทษลง เมื่อออกมา ก็แค่40กว่าไม่ถึง50ปี ถือว่าไม่แย่มาก! นอกจากนี้ คุณมีหลาน8คน ไม่สิ หลาน9คน ถ้าคุณไม่ลุกขึ้นสู้ ในอนาคตพวกเขาจะทำอย่างไร……"
เมื่อเหมยอวี้เจินได้ยินแบบนี้ สติกลับมาทันทีและพึมพำว่า:"ใช่……ฉันต้องหาเงิน…..ฉันต้องหาเงินเพิ่ม……ถ้าฉันสามารถหาเงินได้เพียงพอ ฉันจะอพยพไป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทยอยรับลูกๆหลานๆไป……"
เมื่อพูดอย่างนั้น เธอรีบลุกขึ้นยืนและสั่งว่า:"ขึ้นรถ ขึ้นรถเร็ว! เราต้องไปถึงเม็กซิโกให้เร็วที่สุด!"
หม่านจินซานพยักหน้าอย่างรวดเร็ว กำลังจะพยุงเหมยอวี้เจินให้กลับขึ้นรถ แต่โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นทันที
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าโดยไม่รู้ตัว เห็นว่าเป็นลูกสะใภ้ของเธอโทรมา ในขณะนั้น หัวใจของเขาขึ้นมาถึงลำคอของเขา
เขาไม่กล้ารับสาย แต่บ่นว่า:"ทำไมลูกสะใภ้ของฉันโทรมา……นี่……นี่……มีบางอย่างเกิดขึ้นหรือเปล่า……"
รูม่านตาของเหมยอวี้เจินหดตัวลงอย่างกะทันหัน โพล่งออกมา:"ต้องเกิดเรื่องอย่างแน่นอน!"
หม่านจินซานรนรานทันที กดรับสายอย่างสั่นเทา และโพล่งออกมา:"ไห่......ไห่อิง......เธอ……ทำไมเธอถึงโทรมาในเวลานี้……"
ยังไม่ทันพูดจบ ลูกสะใภ้ที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์ก็ร้องไห้ออกมาและพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า:"พ่อ…...แม่กับเจียหมินถูกตำรวจจับ ตำรวจบอกว่าพวกเขาถูกสงสัยว่าฟอกเงิน……พวกเขายังบอกอีกว่าต้องยึดทรัพย์สินของในบ้าน ทำอย่างไรดี…... คุณช่วยกลับมาและคิดวิธี……ฉันเองไม่รู้จะทำอย่างไรจริงๆ……"
เมื่อกี้หม่านจินซานที่ยังคงหัวเราะเยาะเหมยอวี้เจินในใจ และเฝ้าดูท่าทางตลกของเหมยอวี้เจินนั้น รู้สึกหน้ามืดและหมดสติในทันที ล้มตัวลงกับพื้น

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...