แพทย์หญิงส่ายหน้าไปมา กล่าวขึ้น: “ต้องขออภัยด้วยคุณผู้หญิงหม่า นี่คือเรื่องของหลักการที่ยึดถือ ฉันช่วยเหลือคุณไม่ได้จริงๆค่ะ”
หม่าหลันกัดฟัน กล่าวขึ้น: “เช่นนั้นเอาแบบนี้ คุณทำกระดูกซี่โครงของฉันให้หักอีกท่อนไปเลย ถ้าฉันกระดูกซี่โครงหักสองท่อนละก็ พวกคุณก็จะได้ไม่ต้องนำฉันไล่ออกจากโรงพยาบาลอีกแล้วมั้ง?”
แพทย์หญิงเอ่ยกล่าวด้วยความอึดอัด: “คุณผู้หญิงหม่า ถ้าหากฉันทำอย่างนี้จริงๆ เช่นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องของการถูกเพิกถอนคุณสมบัติประกอบอาชีพทางด้านการแพทย์แล้ว ดีไม่ดีฉันอาจจะเข้าไปในนั้นเร็วกว่าคุณ ถึงเวลานั้นพวกเราทั้งสองคนอาจจะเป็นเพื่อนกันในเรือนจำได้”
พูดจบ เธอรีบเอ่ยกล่าวเบี่ยงเบนหัวข้อสนทนาทันที: “ใช่แล้วคุณผู้หญิงหม่า อาหารเช้าของคุณต้องการทานข้าวฟ่างตุ๋นโสมยังมีโจ๊กกุ้งมังกรด้วยใช่ไหมคะ? ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ คุณรอสักครู่นะคะ”
เมื่อพูดจบประโยคนี้ แพทย์หญิงไม่รอให้หม่าหลันเอ่ยปาก รีบกลับหลังหันแล้วเดินออกจากห้องผู้ป่วย
ตอนที่หม่าหลันกำลังสิ้นหวัง เจมส์ ไวท์ทนายความคดีอาญาที่สุดยอดที่สุดในนครนิวยอร์ก เคาะห้องแล้วเดินเข้ามา เมื่อมองเห็นเธอ ก็ยิ้มขึ้นแล้วเอ่ยถาม: “คุณผู้หญิงหม่า เมื่อคืนวานนี้คุณพักผ่อนเต็มอิ่มหรือไม่?”
ทันทีที่หม่าหลันเห็นทนายเดินเข้ามา ความหวังก็ลุกโชนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง รีบเอ่ยปากถาม: “ทนายไวท์ ฉันได้ยินว่าแพทย์บอกว่าวันนี้ตอนกลางวันก็ให้ฉันออกจากโรงพยาบาลได้ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
เจมส์ ไวท์กล่าวอธิบาย: “ฝ่ายตำรวจทางนั้นวันนี้ตอนเช้ามาสอบถามอาการป่วยของคุณ แล้วก็ได้พบกับแพทย์เจ้าของไข้ของคุณแล้ว ตามคำแนะนำของแพทย์เจ้าของไข้ของคุณ ฝ่ายตำรวจคิดว่าตอนนี้คุณไม่จำเป็นต้องรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นให้คุณออกจากโรงพยาบาลวันนี้ตอนกลางวัน”
เจมส์ ไวท์กล่าวอธิบาย: “ถ้าหากตลอดเวลาที่ยังจับพวกเธอไม่ได้ ผมก็จะพยายามปกป้องความบริสุทธิ์ของคุณอย่างสุดความสามารถ แต่ว่าเวลาอาจจะยาวนานสักหน่อย อย่างไรก็ขอให้คุณโปรดเข้าใจ”
หม่าหลันมองเจมส์ ไวท์อย่างไม่ละสายตาเลยสักนิด เมื่อรู้ว่าวันนี้ตนเองจะต้องเข้าสถานกักกังอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยง ภายในใจก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
มีประสบการณ์ครั้งก่อนหน้า เธอก็หวาดกลัวสถานกักกันสถานที่แบบนั้นจริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งครั้งนี้ยังอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาต่างแคว้นแดนไกลที่ชีวิตนี้ไม่คุ้นเคย ดังนั้นความหวาดกลัวและไม่สบายใจที่มีต่อสถานกักกันของประเทศสหรัฐอเมริกาภายในใจของเธอก็มากยิ่งขึ้น

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...