ชายที่มีชื่อว่าเฮกเตอร์พยักหน้าให้เล็กน้อย จากนั้น เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เปิดโหมดวิดีโอ แล้วเดินเข้าไปข้างในเพียงลำพัง
หน่วยรักษาการณ์ลับกับน่วยรักษาการณ์ที่อยู่บริเวณห้องผ่าตัดต่างก็รู้จักเฮกเตอร์ ดังนั้นเมื่อเฮกเตอร์ปรากฏตัว พวกเขาต่างก็ทักทายเฮกเตอร์เหมือนทุกครั้ง ส่วนเฮกเตอร์ก็คอยสอดส่องไปรอบๆบริเวณอยู่ตลอด อีกทั้งก็ยังคอยสังเกตทุกคนที่พบเจออย่างระแวดระวัง เมื่อพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ก็พูดกับหัวหน้าที่ดูแลในส่วนบริเวณนี้ว่า“ปิดสัญญาณป้องกัน ฉันจะส่งวิดีโอไปให้ลูกพี่”
คนคนนั้นไม่กล้าชักช้า รีบปิดตัวตัดสัญญาณการสื่อสารที่นี่ในทันที
เฮกเตอร์รีบส่งวิดีโอที่ถ่ายเสร็จไปให้ฆัวเรซในทันที ไม่นานฆัวเรซก็โทรวิดีโอคอลเข้ามาหา
เมื่อกดรับสายวิดีโอคอล เสียงของฆัวเรซก็ดังลอดเข้ามา ถามว่า “คนแซ่เย่คนนั้นอยู่ที่ไหน ?”
เฮกเตอร์ตอบ“ได้ยินว่าอยู่ห้องผ่าตัดชั้นใต้ดินครับ”
ฆัวเรซออกคำสั่ง“นายลงไปดู อย่าวางสาย ”
“ครับ!”
เฮกเตอร์รับคำ แล้วเดินลงไปที่ห้องใต้ดินชั้นล่างพร้อมโทรศัพท์มือถือในมือ จากนั้นก็เดินตรงเข้าไปด้านใน
ส่วนฆัวเรซก็นั่งในรถแล้วสำรวจมองดูภาพวิดีโอที่ถูกส่งมาให้ทางมือถือ เขาต้องมั่นใจว่าภาพในวิดีโอนั้น เป็นลูกน้องของตัวเองหรือไม่
โชคดีที่มีเย่เฉินเพียงคนเดียว ดังนั้นฆัวเรซก็จึงไม่สังเกตเห็นความผิดปกติอะไร
และในตอนนี้เอง เฮกเตอร์ก็ได้มาถึงที่ห้องผ่าตัดชั้นใต้ดิน มองเห็นเย่เฉินที่ท่าทีองอาจ อยู่ตรงหน้าหม่าขุย
ในตอนนี้เองหม่าขุยก็เห็นเฮกเตอร์ด้วยเช่นกัน รีบพูดกับเย่เฉินว่า“คุณเย่ บอดี้การ์ดส่วนตัวของลูกพี่เรามาถึงแล้ว เชื่อว่าลูกพี่ก็น่าจะมาถึงในไม่ช้า!”
วิทยุสื่อสารมีเสียงตอบรับกลับของหัวหน้าทีมทั้งหกดังขึ้นในทันที
จากนั้น ฆัวเรซก็เปิดประตูแล้วลงจากรถ ภายใต้การคุ้มกันของบอดี้การ์ด เดินตรงไปที่ห้องผ่าตัด
ในขณะที่ฆัวเรซคิดว่าตัวเองนั้นควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างไว้ได้แล้ว ไม่มีข้อผิดพลาดใดๆแล้วนั้น เขาคงคาดคิดไม่ถึงมาก่อนว่า บนท้องฟ้า มีโดรนได้บันทึกภาพการเคลื่อนไหวทุกอิริยาบถของเขาไว้อย่างชัดเจน
ทันทีที่ว่านพั่วจวินเห็นเขาปรากฏตัว ก็ตระหนักรู้ถึงตัวบุคคลนี้ ว่าต้องเป็นผู้นำขององค์กรอาชญากรรมทั้งหมดนี้
ดังนั้น เขาก็จึงทำตามคำที่เย่เฉินได้สั่งการเอาไว้ ออกคำสั่งกับลูกน้องของตัวเอง“ทุกคนระวัง เริ่มการกระชับวงล้อม ทันทีที่เป้าหมายเข้าไปในบริเวณลานที่คุณเย่อยู่ นับถอยหลังห้านาที ครบกำหนด จัดการกับกลุ่มคนที่อยู่ด้านนอกให้หมด ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว!”
……

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...