พลังสยบพวกนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้วิสาหกิจใหญ่ ๆ ของประเทศยุโรปพวกนี้เงียบกริบต่อพวกเขา ถึงขนาดที่แม้กระทั่งรัฐบาลของประเทศยุโรปพวกนี้ รวมทั้งแผนกการทำงานระดับต่าง ๆ ค่อนข้างหวาดกลัวพวกเขาอีกด้วย
นี่ก็คือผลประโยชน์ที่ยืนอยู่บนจุดสูงของระบบศีลธรรม พวกเขามีบารมีทางศีลธรรมพวกนี้แล้ว ก็สามารถใช้ศีลธรรมเป็นอาวุธ โจมตีคนที่พวกเขาอยากจะโจมตีได้ตามใจชอบ
หากว่าเขาอยากให้วิสาหกิจแห่งใดแห่งหนึ่งปิดกิจการลง ก็จะจัดคนกองใหญ่พุ่งไปประท้วงหน้าประตูบริษัทแห่งนี้ พวกเขาอยากให้รัฐบาลให้ผ่านหรือไม่ก็ปฏิเสธญัตติใดญัตติหนึ่ง ก็จัดคนกลุ่มหนึ่งไปตั้งขบวนบนถนนเอา
เอาเป็นเพียง ขอเพียงหน้าผากเขียนว่า “ผู้พิทักษ์ศีลธรรม” นี้เอาไว้ โดยพื้นฐานแล้วก็สามารถราบรื่นได้ทุกที่
ก็เป็นเพราะรัศมีพิเศษพวกนี้ ทำให้พวกเขามีความสะดวกสบายที่ไม่ธรรมดามาก ๆ อยู่ที่ยุโรป จากอุบายที่เหนียวแน่นขององค์กรนี้ หากว่าต้องการขนส่งของต้องห้ามบางอย่างผ่านแอร์ไลน์ ก็ใช้ประโยชน์จากองค์กรนี้ โดยแขวนป้ายว่าเป็นของการกุศล ค่อยเลือกเวลาที่ค่อนข้างเร่งด่วนโดยเฉพาะ เพื่อไปขอให้สนามบินและศุลกากรปล่อยผ่านไปไว ๆ ใช้วิธีการพวกนี้ นอกเหนือจากปืนใหญ่เครื่องบินที่เอาเข้าเครื่องบินไม่ได้แล้ว อย่างอื่นนั้นแทบจะไม่มีปัญหาเลย
ดังนั้น ตามแผนการของพวกเขา หลังจากทหารม้ากล้าพวกนั้นจับตัวหลินหว่านเอ๋อร์สำเร็จแล้ว ต้องมอบหลินหว่านเอ๋อร์กับคนใช้ข้างกายของเธอให้ผู้ประสานขององค์กรมนุษยธรรมนี้ไปพร้อมกันเลย โดยให้ผู้ประสานซ่อนตัวพวกเขาไว้ในของการกุศล ผ่านศุลากรอย่างรวดเร็ว แล้วขนขึ้นเครื่องบิน
หลังจากเครื่องบินจอดลงพื้น กัปตันก็จะพูดรายงานกับเบื้องบนของตัวเองผ่านช่องพิเศษ : “บุรุษไปรษณีย์มาถึงกอเทนเบิร์กแล้ว ไม่ทราบว่าของมาถึงเมื่อไหร่ ?”
ในช่องทางการสื่อสารที่เข้ารหัสลับพิเศษ มีเสียงเคร่งขรึมของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น : “ทหารม้ากล้าเกิดปัญหานิดหน่อยแล้ว เดิมทีพวกเขาควรเปลี่ยนยานพาหนะที่ขอบแดนของยุโรปเหนือกับสวีเดน เมื่อสี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ เพื่อรุดหน้าไปรวมตัวกับนายที่กอเทนเบิร์กต่อ แต่จนถึงตอนนี้พวกเขายังไม่โผล่หัวมาเลย”
สีหน้าของกัปตันอึ้งไป รีบยุติหัวข้อสนทนานี้ แล้วพูดอย่างหนักแน่นและจริงจัง : “งั้นหากว่าพวกเขาไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ที่เขตแดน งั้นแถบผมควรทำอย่างไรดีครับ ? รอต่อไป หรือว่าขอบินกลับทันที ? เวลาบรรทุกของที่สนามบินให้ผมมีแค่สามชั่วโมงเท่านั้น หลังจากสามชั่วโมงหากว่าไม่สามารถออกบิน เกรงว่าจะทำให้การจัดวางเดิมทียุ่งเหยิงเอาครับ”
“รอ” อีกฝ่ายพูดด้วยความเด็ดเดี่ยว : “ผู้มีพระคุณมีคำสั่ง พวกนายรอทหารม้ากล้าที่กอเทนเบิร์กสามชั่วโมง พอสามชั่วโมงแล้ว หากว่ายังไม่เห็นใคร งั้นก็เริ่มแผนบี”
กัปตันพูดโดยไม่ต้องคิดเลย : “รอสามชั่วโมง รับทราบ !”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...