ณ ตอนนี้
ด้านในที่จอดรถของนอกเขตขนส่งสนามบินกอเทนเบิร์ก
คนรับผิดชอบขององค์กรมนุษยธรรม กำลังนั่งคอยอยู่ที่ข้างคนขับของรถบรรทุกคันหนึ่งอย่างร้อนใจ
ครั้งนี้ ทั้งหมดมีของสามคันรถบรรทุกที่ต้องขนส่งไปที่ไนจีเรีย
ตามเวลาที่กำหนดไว้เดิมที ในตอนนี้ทหารม้ากล้าน่าจะขับรถขนส่งที่ใช้โดยเฉพาะมาส่งคนแล้ว จากนั้นให้พวกเขาพาเข้าสนามบินพร้อมกัน จากนั้นเร่งศุลกากรให้ปล่อยผ่านไว ๆ ส่งบุคคลเป้าหมายไปบนเครื่องบิน
เพื่อรับประกันว่าครั้งนี้จะสามารถส่งคนผ่านศุลกากรได้อย่างราบรื่น ผู้รับผิดชอบขององค์กรมนุษยธรรม ยังเรียกเอาไพ่คิงของพวกเขา ซึ่งก็คือเด็กสาวปกป้องสิ่งแวดล้อมที่เคยมีชื่อเสียงระดับโลกคนนั้นมาด้วยโดยเฉพาะเลย เตรียมที่จะพาเธอมาอยู่ข้างกายด้วย เพื่อมารับประกันว่าภารกิจในครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วงอย่างราบรื่น
แต่ว่า จนถึงตอนนี้ พวกเขายังไม่ได้ระดับข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับทหารม้ากล้าเลย
รอไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ก็ยังคงไม่มีข่าวคราวใด ๆ ส่วนเบื้องบนเพียงแค่ให้พวกเขารอต่อไปต่อเท่านั้น
ผู้รับผิดชอบจนปัญญา ทำได้แต่นั่งบนรถบรรทุก มองเวลาผ่านไปทีละนิด ๆ
ในจังหวะนี้เอง คนขับรถบรรทุกด้านหลังกระโดดลงจากรถ เคาะประตูข้างคนขับ ถามด้วยนอบน้อม : “ท่านบารอน กระผมขึ้นไปคุยด้วยได้ไหมครับ ?”
คนรับผิดชอบกัดฟันพูด : “นายไปบอกเธอต่อ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็ต้องรออยู่ที่นี่สามชั่วโมง บอกเธอว่าของที่บริจาคให้ไนจีเรียในครั้งนี้ ฉันเชิญสื่อมวลชนมาไม่น้อยเลย สามารถเสนอข่าวเธอให้โดยละเอียดได้พอดีเลย”
คนขับรถพูดโดยที่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี : “ท่านบารอน เรื่องนี้ผมได้บอกเธอไปแล้วครับ แต่เธอไม่เห็นอยู่ในสายตาเลยสักนิด เธอบอกว่าสื่อยุโรปที่เมื่อก่อนเธอให้ความสำคัญเพียงอย่างเดียวคือ BBC แต่หลังจากเบร็กซิต ทั้งยุโรปก็ไม่มีสื่อที่เธอสามารถให้ความสำคัญได้แล้ว เธอยังบอกว่าตัวเองเกือบจะเป็นคนที่ได้รับรางวัลโนเบลแล้ว หากว่า CNN หรือ BBC มาสัมภาษณ์ เธอยังพอไว้หน้าได้บ้าง งดคุยอย่างอื่นทั้งหมด……”
“แม่ง เธอนึกว่าเธอเป็นใคร ? หากไม่ใช่ว่าเราออกเงินออกแรงประคองเธอ ห่อหุ้มเธอ ปฏิบัติการให้เธอไว้อยู่เบื้องหลัง เธอมันเอาแต่โดดเรียนไปวัน ๆ พูดจาไม่รื่นหู แม่ง เป็นนักเรียนชั้นมัธยมขยะที่แม้กระทั่งสอบปลายภาคยังไม่ผ่านสักวิชาเลย ! ตอนนี้เธอมีชื่อเสียงหน่อย ถึงกับวางมาดกับฉัน ไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้จักความเหมาะสมเลยจริง ๆ เลยใช่ไหม ? !”
คนขับรถพูดอย่างจนปัญญา : “ท่านบารอน สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือให้เธออยู่ ไม่อย่างนั้นหากว่าเธอสะบัดมือไปจริง เราก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว……”
คนรับผิดชอบครุ่นคิดด้วยความโมโหไม่หยุดอยู่นาน คราวนี้จึงจะพูดด้วยเสียงเย็นเยือก : “นายไปบอกเธอ ขอเพียงวันนี้เธอให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ หลังจากจบเรื่องฉันจะมอบหิมาลายาแอร์เมสให้เธอใบหนึ่ง”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...