คำสั่งนี้ง่ายมาก และไม่ต้องการให้ต้วนลี่เย่มาขบคิดอะไร และยิ่งไม่ต้องให้เขามาเป็นตัวแปรใดๆ ดังนั้น จุดสังเกตทางจิตวิทยาที่ลึกซึ้งนี้ ก็จึงส่งผลกระทบกับต้วนลี่เย่น้อยที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น เย่เฉินยังได้ใช้จุดสังเกตทางจิตวิทยานี้เน้นย้ำกับเขาว่าให้ทำตัวตามปรกติ เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะไม่มีใครพบข้อพิรุธใดๆ
ทว่า นอกจากต้วนลี่เย่แล้ว ที่บนเรือเมื่อคืน เย่เฉินก็ยังได้ควบคุมคู่ขาชายของเขาเอาไว้ด้วย
ตอนนี้ ต้องใช้จุดสังเกตทางจิตวิทยากับคู่ขาชายของเขาคนนั้นด้วยเหมือนกัน
ดังนั้น เขาจึงพูดกับต้วนลี่เย่ว่า“คุณไปที่เรือ แล้วพาคู่ขาชายคนนั้นของคุณมา ผมมีเรื่องที่จะต้องสั่งการกับเขา”
“ครับ”ต้วนลี่เย่พยักหน้าให้อย่างไม่ลังเล จากนั้นก็เปิดประตูแล้วเดินออกไป
หลังจากที่ต้วนลี่เย่ออกไปแล้ว เย่เฉินก็ได้เรียกว่านพั่วจวิน หลี่เนี่ยนจง ซ่าจิ่วหลิง ห้าสี่เจ็ดกับชิวจื้อหยวนอาจารย์ของว่านพั่วจวินมาที่ห้องทำงาน
รอทุกคนเข้ามากันแล้ว เย่เฉินก็จึงพูดขึ้นว่า“ทุกคน ผมจัดการปัญหาเรื่องต้วนลี่เย่ไปแล้ว ตราบใดที่เขายังเป็นทูตพิเศษ สถานที่แห่งนี้ก็ยังจะปลอดภัยจากองค์กรพั่วชิงอยู่ แต่หากว่า มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น สถานที่แห่งนี้ก็จะใช้งานไม่ได้อีกต่อไป ถึงตอนนั้นทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่องค์กรพั่วชิงจะระดมกำลังพลมายังสถานที่แห่งนี้ ถึงเวลาต้องอพยพออกไปจากที่ไซปรัสนี้ทันที
หลี่เนี่ยนจงถามอย่างนอบน้อม“ท่านครับ พวกเราทั้งหมดมีกันรวมๆแล้วกว่าสี่พันคน หากจำเป็นต้องอพยพกันจริงๆขึ้นมา จะอพยพไปที่ไหนได้ครับ ?”
เย่เฉินยกยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดอย่างสงบ“เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นกังวล สำนักว่านหลงที่อยู่อีกฟากหนึ่งของซีเรีย กำลังก่อสร้างฐานที่มั่นที่สามารถจะรองรับคนกว่าแสนคนอยู่ หากจำเป็นจริงๆ ผมจะให้เขาย้ายทุกคนไปที่ตรงนั้นในซีเรีย”
คำพูดของว่านพั่วจวิน ทำเอาหลี่เนี่ยนจงกับซ่าจิ่วหลิงและคนอื่นๆต่างพากันโล่งใจ เพราะพวกเขาก็ล้วนมีครอบครัว และตอนนี้ก็เพิ่งจะมาได้เห็นแสงสว่างในชีวิต ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ในใจส่วนลึกก็จึงย่อมต้องอยากจะเห็นความหวังที่มี และความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
หากข้างหลังยังมีสำนักว่านหลงคอยหนุนอยู่ อย่างนั้นทุกคนก็อยู่ยืนหยัดกันที่นี่อย่างสบายใจได้
เย่เฉินในตอนนี้ก็พูดขึ้นมา“มีเรื่องหนึ่งที่ทุกคนต้องตระหนักรู้ ต่อให้เราจะเก็บซ่อนมันไว้อย่างดีแค่ไหน ฐานที่มั่นนี้ยังไงก็ต้องถูกเปิดเผยในสักวัน แต่หากถูกเปิดเผยแล้วก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร ขอแค่เราเตรียมการรับมือไว้อย่างเต็มที่ ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่ไม่จำเป็นได้”
พูดจบ เย่เฉินก็พูดต่อ“ทุกคนฟังให้ดี หากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับต้วนลี่เย่ พวกเราจะอพยพทุกคนออกไปในทันที แต่ก่อนจะอพยพไปนั้น พวกคุณต้องทำลายฐานที่มั่นนี้ให้สิ้นซาก ผมจะให้องค์กรพั่วชิงได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาพยายามสร้างมานั้นล่มสลายไปต่อหน้าต่อตา!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...