เซียวชูหรันพูดด้วยอารมณ์ที่กรุ่นโกรธเล็กน้อย“หากเธอไม่เชื่อ ก็ไปถามคุณหนูเฟ่ยเองได้ ”
สีหน้าของเอมิลี่จู่ๆก็ถอดสีขึ้นมาทันที จ้องเขม็งมองเซียวชูหรัน กัดฟันกร่อนแล้วกล่าว“เซียวชูหรันหนอเซียวชูหรัน เดิมทีฉันคิดว่าเธอเป็นคนจิตใจใสซื่อ ไม่คิดว่าจะชั่วร้ายได้ขนาดนี้!จะเรียกว่าเป็นพวกใจดำอำมหิตก็ไม่ผิดอะไรเลย!”
คิ้วเซียวชูหรันขมวดมุ่นแล้วเอ่ยถาม“เอมิลี่ ที่เธอพูดหมายความว่ายังไง?”
เอมิลี่เค้นเสียงหึ“โธ่ เธออยากจะแกล้งฉันไม่ใช่หรือไง?เห็นฉันโง่เหรอ?หากฉันเป็นพวกมุทะลุ แล้วไปถามคุณหนูเฟ่ยขึ้นมาจริงๆ คุณหนูเฟ่ยก็ต้องคิดว่าฉันเป็นพวกหยาบคาย อีกทั้งก็จะพาลโมโหฉันเอาได้ ถึงเวลาเธอก็มาปฏิเสธเสียงแข็ง อย่างนั้นในสายตาของคุณหนูเฟ่ยไม่ว่าฉันจะแก้ต่างยังไงก็ฟังไม่ขึ้นแล้ว?ถึงตอนนั้นเพราะความไม่รู้กาลเทศะของฉัน คุณหนูเฟ่ยก็จะมองฉันไม่ดี หน้าที่การงานของฉันก็จบเห่!เธอยังจะพูดว่าไม่คิดทำร้ายฉันอีกอย่างนั้นเหรอ?”
เซียวชูหรันถูกเธอยั่วยุจนขอบตาแดงเรื่อด้วยความโกรธ เธออดทนกับความขุ่นเคืองและคับข้องใจที่มี พูดอย่างช้าๆและชัดๆว่า“เอมิลี่ เธอมีความคิดที่สกปรกจึงคิดว่าคนอื่นจะทำร้ายเธอ ฉันเซียวชูหรันถึงจะไม่ได้เก่งกาจอะไร แต่ก็ไม่เคยคิดทำเรื่องอกุศล และไม่เคยพูดอะไรที่เป็นอกุศลแบบนี้!”
“เชอะ……”เอมิลี่เบะปากอย่างดูถูก“เซียวชูหรัน ด้วยใจที่หวังดี อยากจะแนะนำเธอให้มาเข้าร่วมกับอ้ายอี้คังของเรา ไม่คิดว่าเธอจะเป็นพวกปากหวานก้นเปรี้ยว หน้าไหว้หลังหลอกแบบนี้ ช่างน่าผิดหวังจริงๆ!”
พูดจบ เธอหันมองไปที่แมทธิว ปีเตอร์สัน พูดเสียงอ่อนเสียงหวาน“ท่านประธานค่ะ ต้องโทษฉันที่มองคนผิด เดิมทีอยากจะแนะนำเซียวชูหรันให้คุณ แต่ไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้……”
แมทธิว ปีเตอร์สันในตอนนี้ขี่หลังเสือแล้วลงยาก
และเอมิลี่เองก็รู้ดีถึงสาเหตุของการที่แมทธิว ปีเตอร์สันยังคงรักษาความสัมพันธ์นี้กับเธออยู่ ซึ่งก็ไม่ได้เสน่หาในเรือนร่างของตัวเองไปนานแล้ว แต่แค่ต้องการให้ตัวเองหาผู้หญิงอีกเป็นจำนวนมากให้เขา ดังนั้นเธอก็จึงรู้จักวางตัวเป็นอย่างดี ไม่แก่งแย่ง ไม่หึงหวง ยินยอมพร้อมใจดูแลรับใช้แมทธิว ปีเตอร์สันอย่างเต็มที่
และครั้งนี้ผู้หญิงที่เอมิลี่ตั้งใจจะแนะนำให้แมทธิว ปีเตอร์สันสานสัมพันธ์ด้วยนั้น ก็คือเพื่อนร่วมชั้นในมาสเตอร์คลาสของเธอ เซียวชูหรัน
ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา หรือสรีระร่างกาย เซียวชูหรันนั้นก็โดดเด่นอย่างมาก ครั้งแรกที่เอมิลี่ได้เจอเธอก็ถึงกับต้องอายกันเลยทีเดียว
เอมิลี่ใช้เวลาเข้าเรียนในช่วงเวลาปรกติ แอบถ่ายรูปของเซียวชูหรันไว้เป็นจำนวนมาก จากนั้นก็ส่งรูปถ่ายเหล่านั้นไปให้กับแมทธิว ปีเตอร์สัน เมื่อแมทธิว ปีเตอร์สันเห็นรูปถ่ายนั้นในครั้งแรกก็ถึงกับตกตะลึง จึงหวังจะใช้โอกาสในงานสำเร็จการศึกษานี้ เดินทางมาเพื่อทำความรู้จักกับเซียวชูหรันด้วยตัวเอง และใช้สถานะตำแหน่งหน้าที่การงานของตัวเอง ค่อยๆเข้าหาเซียวชูหรันแล้วรับเธอมาไว้ในสต๊อกอีกคน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...