แม้จะรู้ว่าเซียวชูหรันนั้นแต่งงานแล้ว แต่แมทธิว ปีเตอร์สันก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้ ในความคิดของเขา คือใช้คำว่าพาร์ทเนอร์มาชักจูงให้เซียวชูหรันเข้ามาที่บริษัทของตัวเองก่อน หากเป้าหมายนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ เขาก็จะมีโอกาสค่อยๆลงมือกับเซียวชูหรันได้ในที่สุด
เนื่องด้วยอำนาจและอิทธิพลของอ้ายอี้คังในวงการนี้ สถานะการเป็นพาร์ทเนอร์นั้นจึงมีค่ายิ่งในแวดวงออกแบบทั้งหมด นักออกแบบสาวรุ่นใหม่ๆ ต่างก็วาดหวังที่จะได้รับโอกาสแบบนี้ ดังนั้นเขามั่นใจว่ายังไงเซียวชูหรันก็ต้องหวั่นไหวอย่างแน่นอน
เพียงแต่ว่า เขาคาดคิดไม่ถึง ว่าเซียวชูหรันจะเมินเฉยและไม่ได้สนใจกับข้อเสนอที่เขายื่นให้นี้เลยสักนิด
นอกจากนี้ เซียวชูหรันไม่เพียงไม่สนใจ แต่เธอกลับยังยึดมั่นในตัวสามีที่เป็นแค่คนดูฮวงจุ้ยคนนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งมันทำเอาแมทธิว ปีเตอร์สันรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย
เขาคิดว่า หากตัวเองต้องการจะหลอกล่อเซียวชูหรันให้มาที่บริษัทของตัวเองได้ สิ่งแรกที่ต้องทำ นั่นก็คือทำให้เซียวชูหรันได้ตระหนักรู้ ว่าสามีของเธอนั้น เป็นพวกต้มตุ๋นหลอกลวง
ดังนั้น เขาจึงหันมองไปยังเอมิลี่ที่คอยยุแยงตะแคงรั่ว แล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม“เอมิลี่ อย่าพูดแบบนี้ ผมว่าคุณเซียวเธอเป็นคนซื่อตรง ไม่มีทางจะหลอกคุณอย่างแน่นอน”
พูดจบ เขาก็หันมองไปที่เย่เฉิน แล้วเปลี่ยนบทสนทนา พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม“ไม่แน่คุณเซียวเธอก็คงเป็นเหยื่อเหมือนกัน ถูกคนหลอกแล้วก็ยังไม่รู้ตัว ”
เอมิลี่รับรู้ได้ว่าเจ้านายนั้นยังไม่คิดยอมแพ้ที่จะปล่อยเซียวชูหรันไป ก็จึงพูดเสริมด้วยรอยยิ้ม“ท่านประธานพูดถูก!ฉันคิดว่าชูหรันก็น่าจะถูกหลอกเหมือนกัน!”
เย่เฉินโบกมือ“ช่างมันเถอะ จะไปทักทายคุณไปเองคนเดียวเถอะ ผมไม่ไปดีกว่า”
การแสดงออกของเย่เฉิน ทำเอาแมทธิว ปีเตอร์สันยิ่งมั่นใจว่าเย่เฉินนั้นเที่ยวหลอกลวงต้มตุ๋นคนไปทั่ว ดังนั้นเขาก็จึงหัวเราะหึ แล้วกล่าว“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมไปทักทายคุณหนูเฟ่ยเธอก่อนแล้วกัน”
พูดจบ เขามองไปยังเอมิลี่ที่อยู่ด้านข้าง แล้วกำชับ“เอมิลี่ คุณอยู่เป็นเพื่อนคุณเซียวกับสามีเธอก่อน ”
เอมิลี่เข้าใจในทันที ว่าเจ้านายตัวเองกำลังให้เธอคอยจับตาดูเย่เฉินเอาไว้ อย่าให้เขาหนีไปไหน ก็จึงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม“ท่านประธานไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะอยู่ที่นี่กับพวกเขาไม่ไปไหนแน่นอนค่ะ ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...