“ดี”แมทธิว ปีเตอร์สันยิ้มอย่างมีชัย จากนั้นก็หันหลัง แล้วเดินไปยังทิศทางของเฟ่ยเข่อซิน
เขาเดินไปหาเฟ่ยเข่อซินอย่างไว ยื่นมือจากที่ไกลๆ ทำท่าอยากจะจับมือด้วย พูดอย่างสุภาพเรียบร้อย“คุณหนูเฟ่ย!ไม่คิดว่าคุณจะมาที่นี่ได้!ช่างบังเอิญจริงๆนะครับ!”
เดิมทีเฟ่ยเข่อซินตั้งใจจะมองหาว่าเย่เฉินกับเซียวชูหรันอยู่ที่ไหน ไม่คิดว่าจู่ๆจะมีคนแปลกหน้าโผล่มา จึงเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ“ขอโทษนะ คุณเป็นใคร?เรารู้จักกันเหรอ?”
แมทธิว ปีเตอร์สันตอบกลับในทันที“คุณหนูเฟ่ย ผมแมทธิว ปีเตอร์สันเป็นประธานกรรมการของอ้ายอี้คังครับบริษัทการลงทุนฉางหลงในเครือของคุณ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของเรา เพียงแต่คุณยังไม่เคยได้เข้าไปเยี่ยมชมการทำงานที่บริษัทของเราเท่านั้นครับ”
คิ้วของเฟ่ยเข่อซินขมวดขึ้นก่อนเล็กน้อยเป็นอันดับแรก จากนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วกล่าว“ในรายงานการเงินของบริษัทการลงทุนฉางหลงฉันเคยเห็นชื่อบริษัทของคุณ เห็นว่าตอนนี้ราคาหุ้นของพวกคุณไม่เลวเลยใช่ไหม?ฉันจำได้ว่าบริษัทการลงทุนฉางหลงลงทุนที่พวกคุณ ตอนนี้ก็ยังลอยตัวอยู่”
“ครับใช่ครับ!”แมทธิว ปีเตอร์สันพยักหน้ารับอย่างนอบน้อมแล้วกล่าว“ผู้จัดการการลงทุนของคุณสายตาแหลมคมมาก พวกเขาเข้ามาเมื่อเดือนกันยาของปีที่แล้วในช่วงที่หุ้นของเราตกต่ำที่สุด ตอนนี้ราคาหุ้นได้เพิ่มขึ้นเกือบ30%แล้วครับ!”
เฟ่ยเข่อซินพยักหน้าให้เล็กน้อย แล้วพูดอย่างสุภาพ“ราคาหุ้นสูงขึ้น นั่นก็เพราะผลพวงจากธุรกิจที่เป็นไปด้วยดีของพวกคุณ หวังว่าต่อไปจะดียิ่งๆขึ้นไปอีก”
“แน่นอนครับ!เราจะประกาศข่าวดีในอีกเร็วๆนี้ ถึงตอนนั้นราคาหุ้นจะพุ่งสูงขึ้นอีกแน่นอน!”แมทธิว ปีเตอร์สันพูดอย่างประจบเอาใจอีกครั้ง จากนั้นก็เหลือบมองไปยังแผ่นหลังของเย่เฉินที่อยู่ไม่ไกล ยกยิ้มและจงใจพูดขึ้นว่า“เอ่อคุณหนูเฟ่ยครับ เมื่อครู่มีเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าคุณเป็นลูกค้าของเขา คุณจะเข้าไปทักทายเขาหน่อยไหมครับ?”
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฟ่ยเข่อซินก็พอจะคาดเดาเรื่องราวได้ คิดในใจ“ดูท่า ไอ้หมอนี่คงไม่เชื่อในสิ่งที่คุณเย่พูด ดังนั้นก็เลยใช้โอกาสนี้ทำทีมาเป็นทักทายฉัน แล้วแกล้งเอ่ยพูดถึงคุณเย่ขึ้นมา อยากให้ฉันเปิดโปงคุณเย่ด้วยตัวเองล่ะสิ”
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฟ่ยเข่อซินอดไม่ได้ที่จะพูดกับแมทธิว ปีเตอร์สันด้วยใบหน้าที่ประหลาดใจ“ฉันมีอาจารย์ฮวงจุ้ยที่คอยให้คำชี้แนะอยู่ แต่ช่วงนี้เขาออกไปนอกเมือง ไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่ได้ ด้านหลังของคนคนนั้น ก็เหมือนจะไม่ใช่เขาคนนั้นด้วย ”
เมื่อแมทธิว ปีเตอร์สันได้ยินคำนี้ ก็พูดอย่างลิงโลดขึ้นมา“โธ่!ถ้าอย่างนั้นคนคนนั้นก็แอบอ้างนะสิ!คุณหนูเฟ่ยคงไม่รู้ เขาเอาแต่แอบอ้างชื่อเสียงของคุณหลอกลวงคนไปทั่ว ตอนผมได้ยินว่าคุณเป็นลูกค้าของเขา ก็เกือบจะหลงเชื่อเซ็นสัญญาฮวงจุ้ยมูลค่ากว่าหลายล้านเหรียญต่อปีกับเขาไปแล้ว โชคยังดีที่มาเจอคุณที่นี่ ไม่อย่างนั้นผมคงถูกหลอกไปแล้ว!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...