เมื่อเฟ่ยเข่อซินเห็นแมทธิว ปีเตอร์สันเล่นใหญ่ ก็หัวเราะหึ แล้วพูดขึ้นว่า“อาจารย์ฮวงจุ้ยที่คอยให้คำชี้แนะฉันคนนั้น ค่าครูของเขาแพงมาก หากคนที่ไม่รู้จัก อย่าว่าแต่หลายล้านเหรียญต่อปีเลย ต่อให้เป็นหลายสิบล้านเหรียญต่อปี เขาก็ไม่ดูให้หรอก ”
แมทธิว ปีเตอร์สันพูดด้วยรอยยิ้ม“ดูท่าอาจารย์ฮวงจุ้ยที่ให้คำชี้แนะคุณคนนี้ คงเป็นปรมาจารย์ที่แท้จริง คนที่อยู่ตรงนี้ ก็น่าจะเป็นตัวปลอม”
พูดจบ แมทธิว ปีเตอร์สันก็อดไม่ได้ที่จะลังเลขึ้นมา ไม่รู้ว่าควรให้เฟ่ยเข่อซินไปชี้ตัวเย่เฉินดีหรือไม่
เหตุผลที่เขาลังเล นั่นก็เพราะถึงในใจอยากจะทำแบบนั้น แต่ก็กลัวว่าหากพูดออกไปแล้วเฟ่ยเข่อซินจะปฏิเสธ แล้วทำให้เฟ่ยเข่อซินรู้สึกว่าตัวเองนั้นจิตใจคับแคบ
เพราะว่า เฟ่ยเข่อซินเป็นถึงผู้นำตระกูลเฟ่ย คนที่มีฐานะสูงส่งแบบนี้ คงไม่มาสนใจคนธรรมดาทั่วไปคนหนึ่งที่มาแอบอ้างใช้ชื่อเสียงตัวเองแบบนี้
เช่นเดียวกับวงการเทคโนโลยี ที่อาศัยชื่อของบิล เกตส์กับอีลอน มัสก์หลอกลวงต้มตุ๋นคนจำนวนมาก จริงเท็จก็แล้วแต่ใครจะแยกแยะยังไง คนอย่างบิล เกตส์กับอีลอน มัสก์ ก็ไม่ออกมาชี้แจง หรือซักไซ้ไล่เลียงอะไรอยู่แล้ว
แต่ทว่า สำหรับแมทธิว ปีเตอร์สันแล้ว หากไม่เชิญตัวเฟ่ยเข่อซินให้ไปชี้ตัวสักหน่อย ก็คงไม่สามารถจะฉีกหน้าเย่เฉินต่อหน้าเซียวชูหรันได้
ต้องรู้ว่า นี่ถือเป็นโอกาสอันดี หากเซียวชูหรันได้เห็นใบหน้าที่จอมปลอมนี้ของสามีเธอ มันก็จะง่ายต่อการเชื้อเชิญเซียวชูหรันให้เข้าร่วมกับบริษัทตัวเอง
เฟ่ยเข่อซินที่ฉลาดหลักแหลม มองความลังเลที่มีของแมทธิว ปีเตอร์สันออกในทันที เธอก็จึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า“คุณปีเตอร์สัน ให้ฉันไปเจอพวกเขาพร้อมกันกับคุณไหม ปรกติฉันเองก็ไม่ได้สนใจพวกที่ชอบแอบอ้างชื่อฉันสักเท่าไรนัก แต่วันนี้มาเจอซึ่งๆหน้าแบบนี้ หากฉันยังเมินเฉยอยู่อีก ก็คงจะปล่อยปละละเลยเกินไปแล้ว ”
แมทธิว ปีเตอร์สันก็ถึงกับตื่นเต้นจนปากแทบจะฉีกไปถึงที่ใบหู
แต่ว่า เฟ่ยเข่อซินมีสถานะยังไง?อาณาจักรทางการเงินภายใต้การครอบครองของเธอ ทรัพย์สินที่ถือครองอยู่มีมากกว่าล้านล้านเหรียญ สำหรับเธอแล้ว แมทธิว ปีเตอร์สันก็เป็นแค่ครอบครัวที่อนาถาอดมื้อกินมื้อไปวันๆ ความแตกต่างที่มีนั้น ราวฟ้ากับดิน
เมื่อเห็นบุคคลที่สูงส่งและมีอำนาจแบบนี้ เอมิลี่ที่ขี้ประจบสอพลอ ในใจก็จึงย่อมที่จะตื่นเต้นและดีใจอย่างมาก คิดหาสารพัดวิธีที่จะได้ผูกมิตรกับเฟ่ยเข่อซิน และก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในชีวิต
เซียวชูหรันในตอนนี้ก็เห็นเฟ่ยเข่อซินเดินมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
เมื่อนึกถึงตัวตนที่แท้จริงของเฟ่ยเข่อซิน และเรื่องราวที่เธอใช้ตัวตนของจานเฟยเอ๋อร์มาเป็นเพื่อนกับตัวเอง ภายในใจของเซียวชูหรันก็มีความอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเฟ่ยเข่อซินที่อยู่ตรงหน้านี้ยังไง
ในทางกลับกันเย่เฉินกลับยังคงสงบนิ่ง ไม่หันหน้าไปมองเลยแม้แต่น้อย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...