แมทธิว ปีเตอร์สันได้ยินคำพูดนี้แล้ว ทั้งคนก็ทรุดตัวนั่งลงไปที่พื้นอย่างพังทลายปล่อยโฮออกมาร้องไห้เสียงดัง ดึงดูดความสงสัยและความสนใจจากคนจำนวนไม่น้อยขึ้นมาทันที
เวลานี้ในใจแมทธิว ปีเตอร์สันรู้สึกเหมือนเจอกับวันสิ้นโลก ย้อนกลับไปนึกถึงท่าทางที่กระฉับกระเฉงของตัวเองเมื่อสิบนาทีก่อน แต่ตอนนี้จะไม่เหลืออะไรแล้วแม้กระทั่งจะต้องเข้าคุกด้วยแล้ว แมทธิว ปีเตอร์สันก็แทบอยากจะเอาหัวกระแทกให้ตายๆไปเสียตรงนี้เลย
เอมิลี่เองก็ทรุดตัวนั่งลงไปกับพื้นร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังเช่นกัน เธอรู้ เฟ่ยเข่อซินให้FBIเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ จุดอ่อนของแมทธิว ปีเตอร์สันที่อยู่ในมือของตัวเอง ก็เสียมูลค่าไปด้วยเช่นกัน ตัวเองไม่เพียงแค่จะเสียงานไปเท่านั้น ยังเสียไพ่ใบใหญ่ที่สุดในการพัฒนากิจการให้ร่ำรวยไปด้วย ตัวเองก็เปลี่ยนไปจนไม่เหลืออะไรเลยด้วยเช่นกัน
เวลานี้เฟ่ยเข่อซินเองก็ไม่อยากจะพัวพันกับทั้งสองคนนี้อีกแล้ว จึงเอ่ยพูดขึ้นกับเย่เฉิน : “อาจารย์เย่ ตรงนี้ส่งต่อให้อาจารย์หยวนแล้วกันค่ะ พวกเราไปหาที่นั่งเงียบๆข้างในกันดีกว่าคุณว่าเป็นอย่างไรคะ?”
เย่เฉินพยักหน้าลงเล็กน้อย ในเมื่อเฟ่ยเข่อซินแจ้งกับFBIแล้ว และจากความสามารถอย่างFBI ประกอบกับอิทธิพลของเฟ่ยเข่อซิน แมทธิว ปีเตอร์สันจะต้องหนีจากการพิจารณาตัดสินคดีของกฎหมายได้ยากอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาเองก็ขี้เกียจมองดูสองคนนี้แล้วเช่นกัน จึงมองไปยังหยวนจื่อซูพลางเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ : “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องลำบากอาจารย์หยวนด้วยนะคะครับ”
หยวนจื่อซูโค้งคำนับด้วยความเคารพ พลางเอ่ยขึ้น : “อาจารย์เย่เกรงใจกันเกินไปแล้ว นี่ล้วนแต่เป็นสิ่งที่อยู่ในหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว”
เฟ่ยเข่อซินกำชับกับหยวนจื่อซู : “อาจารย์หยวนคอยมองแมทธิว ปีเตอร์สันนี่เอาไว้ จะต้องส่งตัวเขาให้ถึงมือFBIนะคะ”
เวลานี้เซียวชูหรันมองไปยังเอมิลี่นั่น อยากจะพูดอะไรออกมา แต่ลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็ไม่ได้ออกปากขึ้น
เย่เฉินมองเห็นอาการที่แสดงออกมาของเซียวชูหรัน รู้ว่าเธอดูเหมือนกับจะเห็นใจเอมิลี่
ดังนั้น เวลานี้เซียวชูหรันเองก็เอ่ยพูดขึ้นด้วยความเกรงใจมากเช่นกัน : “คุณหนูเฟ่ย เราเป็นเพื่อนกัน คุณพูดแบบนี้ดูเหมือนจะเป็นคนนอกกันมากเกินไปแล้ว หลายๆเรื่องถึงแม้ว่าฉันจะไม่ชัดเจนในเหตุผลนัก แต่ก็สามารถเข้าใจได้ค่ะ”
เฟ่ยเข่อซินได้ยินเซียวชูหรันพูดแบบนี้ อาการที่แสดงออกมาก็ดูผ่อนคลายขึ้นมาในทันที จึงรีบเอ่ยขึ้น : “ชูหรันพูดถูก! วันหลังถ้าหากคุณมีเวลา ฉันจะต้องมาคุยกับคุณอย่างแน่นอน บอกกับคุณว่าตอนนั้นสรุปแล้วเรื่องราวเป็นอย่างไร.....”
เซียวชูหรันยิ้มพลางเอ่ยขึ้น : “ฉันมีเวลาอยู่แล้วค่ะ เดี๋ยวเสร็จพิธีจบการศึกษาแล้ว พวกเราสองคนก็มาคุยกันตามลำพังที่คลับของโรงแรมก็ได้ค่ะ ให้เย่เฉินกลับห้องไปก่อน”
เฟ่ยเข่อซินพยักหน้าลงโดยไม่คิด : “ได้ค่ะ! ถ้าอย่างนั้นก็ตามนี้แล้วกัน!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...