หลินหว่านเออร์ไม่ได้พูดออกมา แล้วหยิบเอาเหรียญทางด้านล่างซ้ายขึ้นมาโยนลงบนโต๊ะชาอีกสามเหรียญ
ครั้งนี้ คิ้วของเธอเลิกขึ้นเบาๆ พลางเอ่ยพูดขึ้น : “แต่ตอนนี้เครื่องหมายสำหรับเสี่ยงทายมีพลังชีวิตอยู่เส้นหนึ่ง ถ้าหากสามารถจับพลังชีวิตนี้ไว้ได้ ก็สามารถอายุยืนยาวได้เป็นร้อยปี”
“อายุยืนได้เป็นร้อยปี?!”ผู้อาวุโสเบิกตาขึ้นทันทีแล้วพูดโพล่งขึ้นมา : “นี่.....นี่มีความเป็นไปได้ไหม? ที่จะมีชีวิตอยู่ได้ถึงร้อยปี อย่างน้อยๆก็อีกสิบสองปี......”
หลินหว่านเออร์พูดขึ้นอย่างจริงจัง : “เครื่องหมายสำหรับการเสี่ยงทายไม่โกหกหรอกค่ะ ช่วงชีวิตของคุณ มีเพียงแค่ความเป็นไปได้สองแบบ ถ้าไม่ภายในครึ่งปี ก็หลังหนึ่งร้อยปี”
ผู้อาวุโสเอ่ยพูดขึ้นมาด้วยความตกตะลึงอยู่บ้าง : “คุณหนู....นั่น...นั่นผมควรจะจับพลังชีวิตนี้เอาไว้อย่างไรได้บ้าง?”
หลินหว่านเออร์หยิบเอาเหรียญกษาปณ์สุดท้ายขึ้นมาอีกครั้งแล้วโยนลงบนโต๊ะชา จากนั้นก็มองดูทั้งเก้าเหรียญที่อยู่บนโต๊ะ ขมวดคิ้วไม่พูดไม่จา
ผู้อาวุโสเห็นสีหน้าท่าทางที่ดูจริงจังของเธอแล้วก็ไม่กล้าเอ่ยถามขึ้น ทำได้เพียงรอด้วยความกังวล
หลังจากนั้นชั่วครู่หนึ่ง หลินหว่านเออร์เอ่ยขึ้นมาอย่างไม่แน่ใจ : “แปลก เครื่องหมายสำหรับการเสี่ยงทายนี่บอกว่า พลังชีวิตของคุณเกี่ยวข้องกับฉัน แต่ฉันไม่มีวิธีอะไรที่จะต่อชีวิตให้คุณได้....ถ้าหากพ่อของฉันยังอยู่ เขาจะต้องมีวิธีอย่างแน่นอน น่าเสียดายที่ก่อนเขาจะจากไป ไม่เคยสอนทักษะนั้นให้กับฉัน....อาจจะเป็นเพราะฉันไม่ใช่วัสดุชิ้นนั้น.....”
เวลานี้ผู้อาวุโสเองก็ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือควรจะเป็นกังวลดี เพราะถึงอย่างไรแม้แต่สาเหตุหลินหว่านเออร์ก็ยังไม่เข้าใจ ตัวเองก็ยิ่งไม่บรรลุเข้าไปอีก
เวลานี้ หลินหว่านเออร์หยิบเหรียญกษาปณ์ทองแดงอันที่อยู่ทางทิศใต้สุดขึ้นมา ชูขึ้นมาตรงหน้าของผู้อาวุโส เอ่ยพูดขึ้นอย่างจริงจัง : “เหรียญหย่งเล่อทงเป่าออกหลังทั้งสามเหรียญ ในเครื่องหมายสำหรับการเสี่ยงทายของฉันหมายถึงประตูมงคล มันอยู่ทางฝั่งใต้สุดของของเหรียญกษาปณ์เก้าเหรียญ แสดงว่าประตูมงคลของคุณอยู่ทางใต้ของเย่นจิง”
“ทางใต้ของเย่นจิง.....”ผู้อาวุโสพึมพำด้วยความงุนงง
หลินหว่านเออร์ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น : “ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้มีความสามารถเหมือนพ่อ แต่ฉันรู้ว่ามีอยู่คนหนึ่งที่จะต้องมีอย่างแน่นอน!”
ว่าแล้ว จะคุกเข่าลงอย่างงกๆเงิ่นๆ
หลินหว่านเออร์รีบลุกขึ้นไปประคองเขาเอาไว้ แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างจริงจัง : “คุณไม่จำเป็นต้องคุกเข่าให้ฉันหรอกค่ะ ประตูมงคลนี้ถึงแม้ว่าจะเกี่ยวข้องกับฉัน แต่ไม่ใช่ว่าฉันจะสามารถเอามาให้คุณได้ ดังนั้นคุณก็จะต้องไปที่เมืองจินหลิง ไปหาโอกาสชะตากรรมของตัวคุณเอง ฉันสามารถทำเพื่อคุณได้ บางทีก็คือในระหว่างที่คุณกำลังตามหา ก็ขอช่วยคุณอยู่ห่างๆแล้ว”
ผู้อาวุโสรีบพยักหน้าลงอย่างรีบร้อนพลางเอ่ยพูดขึ้นอย่างสะอึกสะอื้น : “ขอบคุณคุณหนู!ถ้าหากสามารถหาเจอ ชีวิตต่อไปก็ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องตาย หาไม่เจอ ก็ไม่รู้สึกเสียใจแล้ว”
“ค่ะ”หลินหว่านเออร์พยักหน้าลงเล็กน้อย ยิ้มแล้วเอ่ยพูดขึ้น : “คุณมีความคิดแบบนี้ได้นั่นดีที่สุดแล้ว”
ว่าแล้ว เธอก็เก็บเหรียญกษาปณ์ทั้งเก้าเหรียญ พลางเอ่ยขึ้น : “เตรียมตัวเถอะค่ะ พวกเราจะออกไปที่เมืองจินหลิงให้เร็วที่สุด”
ผู้อาวุโส : “คุณหนูอย่าเพิ่งรีบร้อนไปก่อนเลยครับ สถานะของคุณนั้นพิเศษ ผมให้คนไปจัดการเรื่องที่พักทางนู้นให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...