แต่เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัดกลุ้มใจ: “ในเมื่อจำนวนคนที่มากมายขนาดนี้ในเต๋าไท่เจินยังไม่รู้วิธีใช้เตายานี่อย่างแท้จริง แล้วทำไมพวกเขาถึงมองว่าเตายาเตานี้เป็นสมบัติล้ำค่าของสำนักล่ะ?”
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เย่เฉินจึงแกล้งทำเป็นถามหงฉางชิงว่า: “แล้วเตายานี่ของพวกนายมันแตกต่างอะไรจากหม้อดินที่ประชาชนทั่วไปใช้ต้มยาเหรอ? ถ้าเกิดนายบอกว่ามันสวย แต่ว่ามันที่อยู่ในหมวดเครื่องสำริดก็ไม่ถือว่างดงามที่สุด แต่ถ้าเกิดนายบอกว่ามันมีมูลค่าทางโบราณวัตถุอื่น ๆ ละก็ มันกลับดูไม่มีราคาเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้จะคงอยู่มาหลายยุคสมัย มันก็ขายได้ในราคาไม่สูงมากเท่าไหร่นัก ทำไมพวกนายถึงยังมองว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่าของสำนักอีกล่ะ? หรือว่าภายในมีความลับที่คนนอกไม่รู้ซ่อนอยู่?”
“เรื่องนี้……”เดิมทีหงฉางชิงไม่อยากตอบเรื่องนี้ เพราะไม่ว่ายังไงนี่ก็เป็นความลับที่ไม่เปิดเผยสู่คนนอกสำนัก
แต่เมื่อเขาคิดในอีกมุมหนึ่ง: “แม่งช่างมันเถอะวะ เตาแม่งก็ไม่มีแล้ว ยังจะมีความลับที่ไม่เปิดเผยสู่คนนอกสำนักอะไรอีก……จะดีกว่าถ้าเกิดกูสารภาพความจริงกับไอ้สารเลวแซ่เย่นี่ ไม่แน่อาจจะสามารถแลกกับสิทธิพิเศษดี ๆ จากมันได้บ้าง……”
เมื่อคิดเช่นนี้ได้ เขาจึงรีบตอบกลับ: “อาจารย์เย่ครับ ความมหัศจรรย์ของเตายาเตานี้ ไม่ได้อยู่ที่การต้มยาอย่างเดียวเท่านั้น! แต่มันอยู่ที่เมื่อท่านนำตำรับยาเดียวกัน วัตถุดิบยาเดียวกันหรือปริมาณยาเดียวกันใส่ลงไปต้มตุ๋นในเตายาและภัณฑ์โลหิตอื่น ๆ พร้อมกัน ประสิทธ์ผลของยาที่ต้มออกมาโดยเตายาจะดีกว่ายาที่ต้มโดยภัณฑ์โลหิตอื่น ๆ หนึ่งเท่า”
เมื่อได้ยินคำตอบของหงฉางชิง เย่เฉินจึงอดไม่ได้ที่จะถามอย่างรู้สึกสงสัย: “ใช้ไฟเบาต้มยา ประสิทธ์ผลของยาที่กลั่นออกมาโดยเตายาจะดีกว่าภัณฑ์โลหิตอื่น ๆ?”
“ใช่ครับ!”หงฉางชิงพยักหน้ารัว ๆ แล้วอธิบาย: “แถมความดีเลิศกว่านี้มันยังมหัศจรรย์มาก ๆ ด้วย ไม่ว่าท่านจะใช้มันต้มซุปยาหรือจะใช้มันต้มกลั่นเป็นเม็ดยา มันล้วนแต่จะทำให้ประสิทธิผลของยาสำเร็จรูปในขั้นตอนสุดท้ายดีกว่ายาทั่วไป!”
เมื่อเฉินเสี่ยวจาวที่อยู่ข้าง ๆ ฟังเขาแนะนำเรื่องทั้งหมดนี้อย่างเอาจริงเอาจัง ใบหน้าจึงแดงก่ำขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ ก่อนจะสบถเสียงต่ำอย่างอดไม่ได้: “ถุ้ย! วิถีสงฆ์มารเสเพล! อายุมากแล้วแต่ยังไม่รู้จักเคารพตัวเองอีก!”
หงฉางชิงรู้สึกเก้อเขินขึ้นมาในทันที ก่อนที่เขาจะรีบอธิบาย: “ทุกท่าน……ผมไม่ได้มีเจตนาอื่นนะครับ ก็แค่ยกตัวอย่างเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเอง……”
เย่เฉินรู้อยู่ว่าถึงแม้ศักยภาพของคนอย่างหงฉางชิงจะแข็งแกร่งมาก แถมยังเป็นศิษย์ในสำนักเต๋าอีก แต่แท้จริงแล้วเขาก็เป็นคนที่ปฏิบัติตามประเพณีทั่วไปอยู่ แค่คิดที่จะใช้สิ่งที่ตัวเองร่ำเรียนมาประจบเอาใจคนตำแหน่งสูงและมีอำนาจ ก็เหมือนพระอาจารย์มีชื่อเสียงที่ชอบแสดงธรรมเทศนาให้พวกดารามหาเศรษฐี

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...