แม้ว่าคลื่นใต้น้ำของตะวันออกกลางอาจปะทุได้ตลอดเวลา แต่จินหลิงในเวลานี้ ทุกอย่างยังอยู่ในความปกติ
หลังจากงานแต่งของซูโสว่เต้ากับเหออิงซิ่วได้จบลง แขกที่มาร่วมงานของตระกูลซูต่างก็ทยอยจากไป
คุณท่านใหญ่ซูนั่งเครื่องบินกับมาดากัสการ์อย่างตัดใจไม่ลง ส่วนซูจือเฟยก็เตรียมกลับภาคตะวันตกเฉียงใต้อีกครั้ง เดินสู่เส้นทางแสวงบุญของตัวเองต่อไป
ส่วนซูโสว่เต้านั้น เนื่องจากตัดสินใจตั้งรากฐานที่จินหลิงแล้ว ดังนั้นเมื่อเสร็จพิธีแต่งงาน เขาจึงพักที่คฤหาสน์ตระกูลเหอต่อเป็นการชั่วคราว ขณะเดียวกันนั้นเนื่องจากกลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง เขาเลยเริ่มใช้ชีวิตกับเหออิงซิ่ว และมองหาบ้านที่เหมาะสมในเมืองจินหลิง
ในโฮมสเตย์จื่อจินซึ่งลีกตัวจากโลกภายนอก หลินหว่านเอ๋อร์ไม่ได้ออกไปจากเรือนพักของตัวเองเลยสักครั้ง วัน ๆ นอกจากทานข้าว ดื่มชาและอ่านหนังสือ เวลาที่เหลือเกือบทั้งหมดใช้ไปกับการวาดภาพ
เธอได้ให้พี่เสียนซื้อโต๊ะไม้ที่ใช้สำหรับวาดภาพโดยเฉพาะ ซึ่งวางอยู่ในห้องรับแขกที่ชั้นหนึ่ง และในตอนนี้ บนโต๊ะไม้นั่น ภาพวาดหมึกขนาดหนึ่งจั้งแปดเซียะ (1จั้ง = 2นิ้ว / 1เซียะ = 10นิ้ว) ได้เริ่มเป็นรูปเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
ในภาพวาด เป็นทิวเขาทับซ้อนกันทอดตัวยาวเหยียด ตรงกลางของภูเขาที่ทอดตัวยาวเหยียด มีทะเลสาบเขาสูงตั้งอยู่บนครึ่งไหลภูเขา ทะเลสาบแห่งนี้ถูกล้อมรอบด้วยทิวเขามากมาย ดูสงบเงียบเป็นมงคล
หลินหว่านเอ๋อร์ถือพู่กันวาดภาพไว้ในมือ ตั้งใจวาดภาพอย่างบรรจงลงไปบนกระดาษ ส่วนพู่กันวาดภาพของเธอ ตอนนี้ได้อยู่บนเนินเขาข้างทะเลสาบ วาดเค้าโครงต้อนไม้ใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ต้นหนึ่งขึ้นมา
ในตอนนี้เอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เหล่าจางกล่าวอยู่ด้านนอกอย่างนอบน้อม: “คุณหนู ผมมีเรื่องจะรายงานครับ!”
หลินหว่านเอ๋อร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย วางพู่กันลง ก้าวเดินช้า ๆ ออกมาจากประตู
รอเอเปิดประตูออก ก็เห็นเหล่าจางยืนอยู่นอกประตูด้วยท่าทางร้อนใจ ดังนั้นจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย: “เกิดเรื่องอะไรขึ้น ถึงได้ดูร้อนใจแบบนี้”
เหล่าจางกล่าวอย่างระมัดระวัง: “คุณหนู ให้ผมเข้าไปพูดด้านในดีกว่าครับ!”
หลินหว่านเอ๋อร์หัวเราะในลำคอครั้งหนึ่ง กล่าว: “ฉันได้ทิ้งข้อความเอาไว้ให้พวกเขา บอกว่าแหวนไม่ได้อยู่กับฉันแล้ว พวกเขาไม่เพียงไม่ยั้งมือ แถมยังกำเริบเสิบสานกว่าเดิม ไม่แน่ว่านอกจากตามหาฉัน และแหวนแล้ว ยังต้องการตามหาเย่เฉินด้วย......”
“ก้เป้นไปได้ครับ!” เหล่าจางกล่าวด้วยความเห็นด้วย: “อย่างที่คุณหนูพูด คุณเย่มีฝีมือร้ายกาจ ไม่เพียงมีวิธีถอนพิษของทหารม้ากล้า แถมยังได้รับทหารม้ากล้าพวกนั้นให้มาอยู่ใต้บังคับบัญชาภายในวันนั้นด้วย เรื่องนี้สำหรับองค์กรพั่วชิง ต้องเป็นหนามแทงใจ ต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตรวจสอบมันอย่างแน่นอน”
กล่าวไป เขาได้เอ่ยถามหลินหว่านเอ๋อร์: “คุณหนู จะให้หาวิธีแจ้งไปยังคุณเย่ ให้เขาคอยระวังหน่อยไหมครับ?”
หลินหว่านเอ๋อร์ยิ้มอ่อน แล้วกล่าว: “ช่างเถอะ ไม่ต้องสนใจพวกเขา พวกเขายิ่งระดมกำลังแบบนี้ ก็ยิ่งพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาไม่มีเบาะแสที่แน่ชัดในมือ โลกกว้างใหญ่ไพศาล แถมพวกเขายังมีเรื่องต้องตรวจสอบมากมาย เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะตามมาถึงจินหลิงได้เร็วขนาดนี้”
เหล่าจางกล่าวอย่างร้อนใจ: “คุณหนู ผมได้ยินเหล่าชิวบอกว่า คุณหนูเตรียมจะไปเรียนมหาลัยฯ แล้ว แบบนี้มันจะอันตรายไปหน่อยไหมครับ?”
“ไม่มีอะไรอันตรายหรอก” หลินหว่านเอ๋อร์กล่าวอย่างจริงจัง: “ให้พวกเขาไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง พากันใช้สมองครุ่นคิดมาตลอดทั้งปี ก็ไม่มีทางที่จะคิดถึงว่า หลังจากที่ฉันเกือบถูกพวกเขาจับตัวไป ก็ไม่ได้ไปซ่อนตัวในป่าลึกที่ไกลผู้คน แต่กลับไปได้มาเรียนมหาลัยฯ ที่จินหลิง นี่ก็คือเหนือความคาดหมาย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...