ถึงแม้ในตอนแรกเย่เฉินก็หยิบวิชามวยภายในมาจาก《หมัดสี่สภาพ》เพื่อให้กับฉินเอ้าเสวี่ยน แต่วิชามวยนั้นก็ทำได้เพียงยกระดับกำลังสู้รบของนักบู๊เท่านั้น ถือเป็นกลยุทธ์ทางสงครามอย่างหนึ่ง แต่ไม่ใช่จะสามารถยกระดับวิชาของผลการฝึกฝน
เนื่องจากเย่เฉินเชี่ยวชาญเรื่องปราณทิพย์ ฉะนั้นเขาจึงไม่ได้จัดเรียงวิชาบู๊แต่ละชนิดภายในบันทึกของ《ตำราเก้าเสวียนเทียน》ให้เป็นระเบียบมาโดยตลอด ขณะนี้เขาอาศัยความทรงจำของ《ตำราเก้าเสวียนเทียน》 เมื่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงตระหนักได้ว่า อันที่จริงแล้ว《จิตกลียุคเต๋าไท่เจิน》นี้ก็คือวิชาบู๊ที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง
วิชาบู๊ชนิดนี้ เริ่มเปลี่ยนจากการฝึกหายใจมาเป็นชี่แท้อย่างไร สอนให้คนยกระดับศักยภาพของตนเองขึ้นทีละขั้น และทะลวงผ่านไปอย่างต่อเนื่อง และในที่สุดก็บรรลุถึงแดนปรมาจารย์
ในกรณีที่บรรลุถึงแดนปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้ว ก็จะสามารถเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของวิถีบู๊ได้
หลังจากที่นักบู๊บรรลุถึงขั้นสุดท้ายของวิถีบู๊ สิ่งที่เข้ามามันก็คือจุดเริ่มต้นของปราณทิพย์
ก็มีเพียงมาถึงขั้นนั้น เขาจึงจะสามารถเริ่มควบคุมปราณทิพย์ได้
ถ้าหากฉบับสมบูรณ์ที่จู่ซือเต๋าไท่เจินได้รับคือ《จิตกลียุคเต๋าไท่เจิน》 ถึงแม้เต๋าไท่เจินนั้นจะไม่สามารถสร้างผู้ยอดฝีมือขั้นสุดยอดที่เชี่ยวชาญปราณทิพย์ได้ แต่อย่างน้อยก็จะสามารถมีผู้เชี่ยวชาญแดนมืด แดนมิติสองสามคน กระทั่งมีอาจารย์แดนปรมาจารย์ได้
แต่โชคร้ายก็ยังมีอยู่ เพราะที่เขาได้รับ เป็นเพียงแค่บทแรกที่เป็นความรู้พื้นฐานของ《จิตกลียุคเต๋าไท่เจิน》เท่านั้น
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะแอบไตร่ตรองว่า: "ถ้าหากฉันนำบทที่สองของ《จิตกลียุคเต๋าไท่เจิน》มอบให้แก่หงฉางชิง ผลการฝึกฝนของเขาก็จะต้องก้าวหน้าอย่างรวดเร็วแน่นอน การอาศัยศักยภาพของตนเองเพื่อเข้าสู่แดนมืดก็คงจะไม่ไกลเกินเอื้อม เพียงแต่น่าเสียดาย หงฉางชิงผู้นี้ค่อนข้างคิดมากเกินไป ไม่เช่นนั้นล่ะก็ ไม่แน่ว่าตอนนี้เขาอาจจะเริ่มฝึกฝนเนื้อหาบทที่สองของ《จิตกลียุคเต๋าไท่เจิน》ในช็องเซลีเซียนสปาแล้วก็เป็นได้
เพียงแต่ นี่ก็ยังเพิ่มความแน่วแน่ทางความคิดของเย่เฉินที่จะรับหงฉางชิงมาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา
นี่เป็นเพราะว่าหงฉางชิงได้ฝึกฝนบทแรกของ《จิตกลียุคเต๋าไท่เจิน》มาเป็นเวลาหลายปี ท่องจำวิชานี้จนขึ้นใจแล้ว หากเขานำวิชานี้ส่งมอบให้กับคนอื่น เขาก็จะสามารถสรุปผลผ่านประสบการณ์หลายปีของตนเอง ถึงวิธีที่เร็วที่สุดที่จะทำให้คนเป็นผู้เชี่ยวชาญ《จิตกลียุคเต๋าไท่เจิน》ได้อย่างแน่นอน
ถ้าหากไม่มีเขา และตนเองเพียงแค่มอบวิชาของ《จิตกลียุคเต๋าไท่เจิน》ให้กับตระกูลเหอรวมทั้งนักบู๊ของสำนักว่านหลง เช่นนั้นก็เกรงว่าพวกเขาจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามปีที่จะคอยๆ ทำความคุ้นเคยวิชานี้ทีละน้อย จากนั้นจึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้
หงฉางชิงกล่าวว่า: "แน่นอนว่าเป็นวิชาบู๊ครับ!"
เย่เฉินเบะปาก แล้วกล่าวอย่างเหยียดหยามว่า: "ฉันจะบอกคุณให้นะ แก่นสารของ《จิตกลียุคเต๋าไท่เจิน》ก็คือจิตกลียุค คุณรู้ไหมว่าทำไมถึงเป็นจิตกลียุค?"
หงฉางชิงขมวดคิ้ว คิดอยู่ครู่ใหญ่ แล้วจึงกล่าวว่า: "ดูเหมือนจะเป็นคำกล่าวอย่างกว้างๆ ในลัทธิเต๋า และไม่มีความหมายที่ชัดเจนเป็นพิเศษอะไรครับ......."
เย่เฉินส่ายหน้า แล้วกล่าวอย่างนิ่งๆ ว่า: "จิตกลียุคเป็นกลุ่มอากาศธาตุที่ผสมรวมกันจนฟ้าดินไม่อาจแบ่งแยกได้ชัดเจน นี่คือจุดเริ่มต้นของพลังจิต! เป้าหมายในท้ายที่สุดของมัน ก็คือการเข้าสู่เต๋าด้วยการบู๊ และสุดท้ายก็ควบคุมพลังของจิตกลียุค"
เขาพูดจบ ก็ชี้ไปที่กระดาษที่อยู่ในมือของหงฉางชิง แล้วกล่าวหยอกเย้าว่า: "ที่คุณเขียนมานี้ล้วนเป็นการการฝึกหายใจเป็นอย่างไร การทะลวงผ่านเส้นลมปราณเป็นอย่างไร ไม่มีความเกี่ยวข้องกันกับจิตกลียุคแม้แต่น้อย นี่ก็เหมือนกับว่าในมือของคุณมีหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อหนังสือคือ《หลักการทั่วไปในการผลิตกระแสไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า》แต่ในมือของคุณมีเพียงแค่เนื้อหาที่สอนคุณว่าจะขุดถ่านหินอย่างไร คุณคิดว่าสิ่งนี้ มันจะสามารถสมบูรณ์แบบได้เหรอ?"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...