เมื่อได้ยินนักพรตอิสระชิงซูแทบทนรอไม่ไหวที่จะแสดงความจริงใจออกมา ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งก็พยักหน้ารับและยกยิ้มอย่างพึงพอใจ ทุกอย่างล้วนเป็นไปในแนวทางที่ตัวเองได้คาดการณ์ไว้
สำหรับคนอย่างท่านเอิร์ลฉางเซิ่งแล้ว เขาก็ไม่ใช่คนดีอะไร
ยกเว้นต่อหน้าผู้มีพระคุณ เขาทุ่มเททำงานหนักโดยไม่ปริปากบ่น แต่กับคนอื่น พื้นฐานทางศีลธรรมของคำว่า‘พูดคำไหนคำนั้น’สำหรับเขาแล้วก็เรียกได้ว่าไม่เคยมีให้เห็นเลยด้วยซ้ำ
อันที่จริงในตอนที่เพิ่งจะมาถึงเย่นจิงใหม่ๆ เขาก็คิดจะใช้ความสัมพันธ์และทรัพยากรของคนในวัดฉางหยุน มาช่วยตัวเองหาที่อยู่ของหลินหว่านเอ๋อร์
แต่ว่า เมื่อเขามานั่งขบคิด ก็ยังรู้สึกว่า เพื่อจะใช้ประโยชน์จากวัดฉางหยุน ไม่คุ้มค่าเท่าไรกับการที่ตัวเองต้องมาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าวัดฉางหยุนจะสามารถช่วยตัวเองตามหาเบาะแสของหลินหว่านเอ๋อร์เจอหรือไม่ อย่างน้อยที่สุด ในยุคศตวรรษที่19 นักพรตที่บำเพ็ญเพียรวิชาเต๋าในวัดฉางหยุนมานานกว่าสิบปี ในตอนนี้กลับยังมีชีวิตอยู่ เรื่องแบบนี้หากแพร่งพรายออกไป จะต้องสร้างความวุ่นวายที่ไม่จำเป็นมาให้ตัวเองแน่
และเพราะเหตุนี้ เขาก็จึงไม่ได้เดินทางมาที่วัดฉางหยุน
แต่ว่า สถานการณ์ในตอนนี้ สำหรับท่านเอิร์ลฉางเซิ่งแล้ว ก็ค่อนข้างที่จะเร่งด่วน
ส่วนหนึ่งเพราะผู้มีพระคุณได้ออกคำสั่งให้องค์กรพั่วชิงทั้งหมดหยุดการเคลื่อนไหวชั่วคราว ไม่แน่อีกสักพักก็คงจะเรียกให้ตัวเองนั้นกลับไป โอกาสที่เหลือไว้ให้ตัวเองในการค้นหาหลินหว่านเอ๋อร์มีไม่มากแล้ว อีกทั้ง สี่ท่านเอิร์ลในองค์กรพั่วชิงแม้จะมีตำแหน่งที่สูงส่ง แต่ก็ไม่ได้มีอิสระอย่างแท้จริง ครั้งนี้สามารถที่จะออกมาได้นานขนาดนี้ ล้วนก็เพราะความกระตือรือร้นที่อยากจะจับตัวหลินหว่านเอ๋อร์ของผู้มีพระคุณ แต่ในตอนนี้สถานการณ์กลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน ท่านเอิร์ลเจี้ยนกงตายอย่างไม่ทราบสาเหตุ ไม่แน่บางทีวันหนึ่งเพียงคำพูดเดียวของผู้มีพระคุณ เขาก็จำต้องกลับไปตามคำสั่ง
ในอีกส่วนหนึ่ง ผู้มีพระคุณต้องการให้ตัวเองไปค้นหาที่อยู่ของลูกชายเย่ฉางอิง เรื่องนี้ ตัวเองจะยืดเยื้อต่อไปอีกไม่ได้แล้ว ในเร็ววันนี้ก็ต้องเดินทางไปเมืองจินหลิง ดังนั้นเรื่องการค้นหาหลินหว่านเอ๋อร์ คงทำได้เพียงต้องอาศัยวัดฉางหยุน
แม้แบบนี้จะทำให้ตัวเองต้องเปิดเผยความจริงที่ตัวเองนั้นอายุมากกว่าถึงหนึ่งร้อยห้าสิบปีแล้ว แต่หากสามารถที่จะตามหาตัวหลินหว่านเอ๋อร์ได้ ตัวเองก็ถือว่าชักธงรบก็ชนะศึก ประสบความสำเร็จ ต่อไปก็ไม่มาที่หัวเซี่ยอีก
นักพรตอิสระชิงซูไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงของตัวเองนั้นกำลังคิดสิ่งใดอยู่
นักพรตอิสระชิงซูได้รูปถ่ายของหลินหว่านเอ๋อร์มา ก็พูดอย่างไม่ลังเล“อาจารย์ลุงได้โปรดวางใจ ชิงซูจะจำมันไว้ครับ!”
พูดจบ นักพรตอิสระชิงซูก็ถามต่อ“อาจารย์ลุง เรื่องของหญิงสาวคนนี้ ท่านมีเบาะแสอะไรโดยประมาณไหมครับ?เช่นเธอน่าจะอยู่ที่ไหนได้บ้าง?”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งส่ายหน้า และพูดว่า“ข้าไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน แต่ในความคิดส่วนตัวข้าเดาว่า เธอน่าจะอยู่ที่หัวเซี่ย ดังนั้น เจ้ารวบรวมลูกศิษย์มากลุ่มหนึ่ง ให้พวกเขาออกเดินทางไปในฐานะนักท่องเที่ยว เพื่อค้นหาไปทั่วทุกพื้นที่ในประเทศ!”
นักพรตอิสระชิงซูพยักหน้ารับและพูดว่า“ไม่มีปัญหาครับ ผมจะดำเนินการให้!”
“ดี”ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งพยักหน้าให้เบาๆ และพูดว่า“เรื่องนี้ฝากเจ้าช่วยจัดการด้วย มีเบาะแสอะไร จำไว้ว่าให้รายงานข้าทันที”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...