“ดังนั้น ในส่วนนี้ ผมคิดว่าถ้าอะเฉินไม่รู้ จะต้องไม่พูดคำนี้ออกมาแน่”
ซูหลานได้ยินเขาพูดจบ ก็เข้าใจทันที พึมพำไปว่า:“คุณพูดมีเหตุผลดี!พอคุณพูดแบบนี้ ฉันก็คิดว่าอะเฉินไม่ล้อพวกเราเล่นแน่”
พูดจบ เธอก็เหงื่อออกที่มือด้วยความตื่นเต้น พูดว่า:“งั้น……งั้นพวกเรามีโอกาสได้ทดลองทางคลินิกของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนจริง ๆ ใช่ไหม?!ถ้าเป็นแบบนั้น พวกเราก็มีโอกาสมีชีวิตอยู่ต่อ?”
หูเล่อฉีพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม พูดว่า:“ผมว่าเรามีโอกาสสูงครั้งนี้!”
พูดไป หูเล่อฉีก็หยิบโทรศัพท์มือถือเพื่อหาข้อมูลตั๋ว โพล่งออกมาว่า:“มีเที่ยวบินจากต้าหลี่ไปจินหลิงตอนบ่ายสอง ผมจะจองตั๋วตอนนี้ พวกเรารีบกลับไปลาทุกคนกันเถอะ แล้วไปสนามบินกัน!”
……
เย่เฉินและหลินหว่านเอ๋อร์ลงจากภูเขาแล้ว ก็มารับรถที่โซโร ออกเดินทางจากโซโร และขับไปที่ผูเอ่อร์
ผูเอ่อร์คือที่อยู่ของพ่อแม่หลินหว่านเอ๋อร์ และก็เป็นจุดแรกในการหนีของหลินหว่านเอ๋อร์ครั้งนี้ เย่เฉินมาเตียนหนานกับหลินหว่านเอ๋อร์ จุดประสงค์หนึ่งคือการร่วมเดินทางกับเธอเพื่อเยี่ยมชมสถานที่เก่า ๆ ดังนั้นครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เดินทางไปผูเอ่อร์กับหลินหว่านเอ๋อร์เท่านั้น แต่ยังไปที่สิบสองปันนาจากผูเอ่อร์ เพื่อตามหาสระสวรรค์ในภาพวาดหลินหว่านเอ๋อร์ด้วย
ส่วนเบาะแสของอู๋เฟยเยี่ยน ตอนนี้เย่เฉินก็ไม่สนใจอีกต่อไป
เพราะเขารู้ดีว่า ในเมื่ออู๋เฟยเยี่ยนปรากฏตัวภูเขาหลังเต่าแล้ว นั่นหมายความว่าคราวนี้เธอได้เข้าสู่โลกอย่างสมบูรณ์แล้ว และเมื่อเข้าสู่โลกโดยสมบูรณ์ ก็จะถูกบันทึกโดยกล้องต่าง ๆ แน่นอน อู๋เฟยเยี่ยนจะถูกติดตามและถ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แค่ให้ซุนจือต้งช่วยเอากล้องบันทึกออกมา ก็สามารถค้นหาการเคลื่อนไหวของอู๋เฟยเยี่ยนในประเทศได้แล้ว
ดังนั้น เย่เฉินจึงรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองไม่ต้องไปสนใจสถานการณ์ของอู๋เฟยเยี่ยนแล้ว จากความแข็งแกร่งของอู๋เฟยเยี่ยน ตัวเองเข้าไปใกล้มีแต่จะทำให้เรื่องแย่ลง สู้ให้เธอไปในที่ที่ตัวเองอยากไปก่อน พอเธอไปในที่ที่ตัวเองอยากไปแล้ว ค่อยติดตามเบาะแส ตามรอยเธอไป
แค่สุดท้ายสามารถล็อกว่าเธอเข้าไปในภูเขาแสนลี้จากไหน ซึ่งปกติแล้วสามารถไปถึงตำแหน่งเมิ่งฉางเชิงในตอนนั้น โดยแม่นยำในระยะร้อยไมล์ หรือในระยะที่เล็กกว่าก็ตาม
เวลานี้เครื่องบินยังคงแล่นอยู่ หูเล่อฉีได้โทรไปที่เบอร์ของเจมส์ สมิธในหัวเซี่ยแล้ว
โทรติด เจมส์ สมิธที่อยู่ปลายสาย ถามอย่างแปลกใจว่า:“เสี่ยวหู โทรหาผมมีอะไรหรือเปล่า?”
หูเล่อฉีรีบถามว่า:“คุณสมิธ ตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่?”
เจมส์ สมิธพูดว่า:“ผมกำลังช่วยเหลือคนไร้บ้านที่โบสท์เก่าในจินหลิง และก็จะแบ่งอาการที่ซื้อ ทำไมเหรอ?มีอะไรหรือเปล่า?”
หูเล่อฉีรีบพูดว่า:”คุณสมิธ รบกวนคุณช่วยจัดการงานให้เสร็จ พาจิมมี่ไปรอผมที่หน้าประตูบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ผมกับเสี่ยวหลานจะไปจากสนามบิน แล้วเรารวมตัวกันที่นั่นครับ!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...