เจมส์ สมิธส่ายหน้า พูดว่า:“ผมจะไปรับลูกชายผม แล้วค่อยไปลองดูที่บริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ดูว่ามีโอกาสไหม”
คนนั้นพยักหน้าพูดว่า:“ถ้ามีอะไรให้ช่วย โทรหาพวกเราเลย”
“โอเค”เจมส์ สมิธตอบตกลง แล้วรีบออกจากโบสถ์ นั่งแท็กซี่ไปโรงพยาบาลชุมชน
ตั้งแต่มาจินหลิง พวกเขาก็พาลูก ไปทำประวัติที่โรงพยาบาลชุมชนจินหลิงก่อน จากนั้นจึงเริ่มใช้ยาเคมีบำบัดแบบเดียวกับสหรัฐอเมริกา ตอนแรกเขาอาศัยอยู่โรงแรมใกล้โรงพยาบาล เมื่อเจนนี่ภรรยาของเขาจัดการทุกอย่างในอเมริกาแล้ว ก็พาลูกสาวไปจินหลิง แล้วพวกเขาก็เช่าบ้านหลังหนึ่งใกล้โรงพยาบาล
เจมส์ สมิธทำตามคำแนะนำของเย่เฉิน ทุกวันเขายุ่งอยู่กับการทำการกุศลตามที่เขาจะทำได้ในจินหลิง ภรรยาของเขาเจนนี่ ก็ทำตามข้อกำหนดของโรงพยาบาล เมื่อมีบำบัด ตรวจเช็ก ก็จะพาลูกไปโรงพยาบาล และพาลูกกลับบ้านพักผ่อนในเวลากลางคืน
มะเร็งของเสี่ยวจี๋หมี่ โดยพื้นฐานแล้ว ได้เข้าสู่ระยะสุดท้าย ยาเคมีบำบัดที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นยาที่ดีที่สุดและใหม่ล่าสุดในตลาด แต่ก็รักษามะเร็งไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือชะลอการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งแล้ว ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือการค้นพบมะเร็งระยะต้น ซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้ ถ้ามะเร็งแพร่กระจายออกไปแล้ว งั้นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คือการหายาที่ตรงจุด
แต่คนเราก็มียีนที่แตกต่างกันไป บางคนโชคดี สามารถหายาที่ตรงกับยีนได้ ก็สามารถพึ่งพายานั้นมารับผลการรักษาที่ดีได้
บางคนโชคไม่ดี และหายาที่ตรงกับยีนไม่ได้ จึงไม่สามารถรักษาด้วยยาที่ตรงเป้าได้
หากไม่มียาที่ตรงเป้า ก็เหลือแค่เคมีบำบัดแบบดั้งเดิมและรังสีบำบัดเท่านั้น
สถานการณ์ปัจจุบันของเสี่ยวจี๋หมี่ เคมีบำบัดคืออุปสรรคสุดท้าย แต่เจมส์ สมิธรู้ดีว่า อุปสรรคสุดท้ายในตอนนี้ตกอยู่ในอันตรายแล้ว ระยะเวลาที่มันเอาอยู่ เกรงว่าจะอยู่ไม่กี่เดือนเท่านั้น
เจมส์ สมิธมาถึงหอผู้ป่วยรายวันในโรงพยาบาลอย่างคุ้นเคย เวลานี้ทุกเตียงในหอผู้ป่วย ต่างเป็นผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด
บรรดาผู้ป่วยโรคมะเร็งเหล่านี้ อายุของเสี่ยวจี๋หมี่น้อยที่สุด
เดิมทีมีเด็กอายุห้าขวบเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะสุดท้าย ก่อนหน้านี้เด็กคนนี้ได้ผ่านการอนุมัติจากบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ได้รับโควตาการทดลองทางคลินิก ย้ายไปรักษาอยู่ที่ห้องทดลองภายในบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน
พูดถึงตรงนี้ เจนนี่ก็ปิดหน้าสะอึกสะอื้น
เจมส์ สมิธรีบก้าวเข้ามาโอบกอดเธอไว้ แล้วปลอบเสียงบา:“ไม่ต้องร้องไห้นะ ไม่แน่อาจจะมีโอกาสอื่น”
เจนนี่ส่ายหน้าพูดว่า:“ฉันไม่อยากมีความหวังลม ๆ แล้ง ๆ อีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังคิดว่า หรือจะหยุดรักษาจิมมี่ ไม่กี่เดือนที่เหลือนี้ พาเขากลับไปสหรัฐอเมริกา ปู่ยา ตายาย ต่างรอพบเขาทั้งนั้น กลับสหรัฐอเมริกา อย่างน้อยก็ให้ช่วงชีวิตสุดท้ายของเขาได้อยู่กับครอบครัว”
เจมส์ สมิธพูดว่า:“ตอนนี้มีโอกาสสุดท้ายแล้ว แม้ผมจะไม่รู้ความสำเร็จโอกาสนี้ว่าจะมากแค่ไหน แต่ตราบใดที่ยังมีโอกาส ก็ต้องดีกว่าไม่มีโอกาสอยู่แล้ว”
พูดไป เขาก็พูดกับเจนนี่ว่า:“ให้พยาบาลมาถอดสายน้ำเกลือจิมมี่เถอะ ผมจะพาเขาออกไปหน่อย!”
เจนนี่ถามอย่างแปลกใจว่า:“คุณจะพาเขาไปไหน?”
เจมส์ สมิธจำได้ว่าหูเล่อฉีกำชับว่าอย่าบอกให้ใครรู้ ดังนั้นจึงพูดว่า:“คุณอย่าเพิ่งถามอะไร รับปากอีกฝ่ายแล้วว่าพูดมากไม่ได้ แต่คุณไม่ต้องห่วง ถ้าได้ผลยังไง ผมจะบอกคุณทันที!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...