คำพูดของซูจือหยู ทำให้หลูจื้อเฉิงตกใจจนเหงื่อแตกพลั่ก
เขาไม่สงสัยในความเป็นจริงของคำพูดที่ซูจือหยูพูดมาทั้งหมด เนื่องจากสำหรับเขาแล้ว จื้อเฉิงกรุ๊ปของตนเอง สำหรับซูจือหยูแล้วมีความหมายพิเศษอะไรที่จะต้องได้มา
ในมุมมองของเขา ถ้าหากตนพลาดโอกาสในการเทคโอเวอร์ของซูจือหยูแล้ว เกรงว่าคงทำได้แค่เพียงอยู่ในตำแหน่งนี้จนถึงอายุเจ็บสิบปีหลังจากนั้นค่อยให้ลูกชายรับช่วงต่อ
อีกทั้งแม้กระทั่งตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ว่า รอจนกระทั่งตนเองอายุ70ปี กิจการของตนเอง จะอยู่ในสภาพการณ์อย่างไรกันแน่
เขายิ่งไม่รู้ว่า เวลาผ่านไปอีกหลายปี ทั้งกรุ๊ปรวมทั้งขนาดของอุตสาหกรรมของทั้งตระกูลตนเองจะเจริญเติบโตหรือว่าลดลงกันแน่
แต่มีจุดหนึ่งที่เขาค่อนข้างชัดเจน ถ้าหากตอนนี้ตนขายบริษัททิ้งไป เอาเงินสดห้าร้อยล้านมาอยู่ในมือ หลังจากคำนวณภาษีเงินได้20% ของการโอนหุ้นแล้วขจ ตนเองก็ยังเหลืออยู่ห้าร้อยหกสิบล้าน
ห้าร้อยหกสิบล้านนี้ สามารถให้ตนเองและลูกหลานรุ่นหลังของตนอยู่อย่างสุขสบายไร้กังวลแล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขากัดฟันแล้วทำการตัดสินใจ รีบกล่าว: “ในเมื่อคุณหนูซูมีความจริงใจขนาดนี้แล้วถ้าอย่างนั้นผมเองก็ไม่ขอต่อรองราคากับคุณแล้ว เอาตามราคาที่คุณเสนอ ตกลงซื้อขายที่เจ็ดร้อยล้าน!”
ซูจือหยูพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เอ่ยปากกล่าว: “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันจะรีบให้ฝ่ายบัญชีโอนเงินมัดจำไปให้ หลังจากโอนเงินมัดจำเรียบร้อยแล้ว จะส่งผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบที่ฐานผลิตใบชาของคุณสักหน่อยนะคะทห คุณแจ้งผู้รับผิดชอบที่พื้นที่ของคุณว่าให้หยุดทำงานทันที จากนั้นให้ความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญของฉันอย่างเต็มที่ด้วยค่ะ”
“ไม่มีปัญหาครับ!”หลูจื้อเฉิงเอ่ยกล่าวอย่างไม่ลังเล: “คุณหนูซูคุณวางใจ หลังจากได้รับเงินมัดจำ ผมก็จะสั่งการลงไปตามคำร้องขอของคุณครับ”
สำหรับหลูจื้อเฉิง ขอเพียงแค่ได้รับเงินมัดจำเท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วเท่ากับว่าจื้อเฉิงกรุ๊ปไม่ใช่ของตนเองอีกต่อไป ในเมื่อซูจือหยูร้องขอให้หยุดงาน ถ้าอย่างนั้นตนก็ออกคำสั่งให้หยุดงานก็ใช่แล้ว
หลูจื้อเฉิงได้รับเงินก็ทำงาน โทรศัพท์ไปหาผู้รับผิดชอบฐานการผลิตด้วยตนเอง อีกทั้งในสายยังบอกอีกฝ่ายด้วยว่า ตนเองได้ขายกิจการให้แก่ซูซื่อกรุ๊ป ยังกำชับเป็นพิเศษอีกด้วยญด ตัวแทนที่เจ้าของใหม่ส่งไปกำลังจะไปตรวจสอบที่งานในไม่ช้า
ถึงแม้ว่าผู้รับผิดชอบฐานการผลิตจะตกตะลึง แต่เขาก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว ถึงอย่างไรตนก็เป็นแค่ลูกจ้างคนหนึ่งเท่านั้น ขอเพียงแค่เงินเดือนและสวัสดิการไม่เปลี่ยนแปลง จะทำงานให้ใครก็ไม่มีปัญหาใดๆ
ดังนั้นเขาก็รู้เช่นกันว่า เรื่องเร่งด่วนที่ตนต้องจัดการทันทีก็คือให้คนของซูซื่อกรุ๊ปพึงพอใจตนเอง ไม่อย่างนั้นทันทีที่หลังจากที่พวกเขาเริ่มเข้ารับช่วงบริษัทแล้วปลดพนักงานออกเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่ว่าตนต้องตกงานแล้วงั้นเหรอ?
ดังนั้น เขาที่เพิ่งเข้าไปนั่งในรถเตรียมตัวเลิกงานกลับบ้าน หลังจากวางสายของหลูจื้อเฉิง ก็รีบมุ่งหน้าไปรอที่ประตูใหญ่ของฐาน
และในเวลาเดียวกัน เย่เฉินก็ได้รับสายที่ซูจือหยูโทรมาหาแล้ว ทันทีที่รับสาย ซูจือหยูก็กล่าวอย่างนอบน้อม: “คุณเย่ จื้อเฉิงกรุ๊ปได้รับเงินมัดจำของฉันแล้ว เรื่องการเทคโอเวอร์ได้สำเร็จแน่นอนแล้ว ราคาซื้อขายสุดท้ายอยู่ที่เจ็ดร้อยล้านหยวน ฉันได้ให้เขาแจ้งผู้รับผิดชอบฐานแล้ว บอกทะเบียนรถของคุณ คุณสามารถตรงไปที่นั่นได้เลย เขาจะรอรับคุณอยู่ที่ประตูหญ อีกทั้งจะทำตามคำสั่งของคุณอย่างเคร่งครัด”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...