เมื่อคิดได้แบบนี้ เขาจึงปล่อยปราณทิพย์อย่างไม่เปิดเผย ผ่านเขตแดนที่หนึ่งกับที่สองไปโดยทันที เริ่มสำรวจไปทั่วทั้งเรือนจำ
ปราณทิพย์ของเย่เฉินทะลุเขตแดน ไปสำรวจที่ชั้นบนก่อน ที่นี่ล้วนเป็นบุคลากรของเรือนจำ ในเวลานี้มีเจ็ดแปดสิบคนอย่างน้อย อีกทั้งคนเหล่านี้ไม่ได้ถูกคุมขัง แล้วก็ไม่พบว่ามีห้องที่มีลักษณะคล้ายกับห้องขังพอที่จะขังคนเอาไว้ได้อยู่ บุคลากรถ้าไม่ปฏิบัติงานประจำตำแหน่ง ก็กำลังกินข้าวอยู่ในโรงอาหารของพนักงาน
ดังนั้นเย่เฉินจึงใช้ปราณทิพย์ไปสำรวจที่ชั้นล่าง บุคลากรที่อยู่ชั้นล่างมีร้อยกว่าคนเป็นอย่างน้อย แต่คนพวกนี้กำลังทำงานหรือไม่ก็กินข้าว ไม่เหมือนกับมีร่องรอยของคนถูกขังไว้
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ กล่าวพึมพำในใจ: “หรือว่าคนถูกพวกเขาย้ายไปยังพื้นที่อื่นแล้ว?”
อย่างไรก็ตามปีเตอร์ โจวได้เข้ามาเป็นเวลานานแล้ว อีกทั้งไม่ได้ถูกส่งตัวเข้ามาที่เขตแดนตั้งแต่ต้นจน ตระกูลรอธส์ไชลด์แอบนำตัวเขาย้ายไปที่อื่นก็สมเหตุสมผล
แต่เย่เฉินกลับคิดว่า ตระกูลรอธส์ไชลด์แอบควบคุมตัวปีเตอร์ โจวไว้เป็นความลับไม่ได้ส่งเขามาที่นี่ จะต้องไม่อยากให้นอกภายนอกรู้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาก็คือหลังจากที่จัดการคนเรียบร้อยแล้ว ก็พยายามไม่เคลื่อนย้ายอีก
ก็เป็นเหตุผลเดียวกันกับที่เขาส่งคนไปยังฟาร์มสุนัขของหงห้า
นำคนโยนเข้าไปยังฟาร์มสุนัขโดยตรงๆ แล้วก็ไม่อนุญาตให้เขาออกมา นี่คือสิ่งที่ปลอดภัยที่สุด อย่างไรก็ตามในระหว่างที่นำตัวอีกฝ่ายส่งไปยังฟาร์มสุนัข ก็มีความเสี่ยงที่จะเปิดเผยอยู่แล้ว ทันทีหลังจากที่คนเข้ามา ขอเพียงแค่ไม่ให้คนออกไปอีก คนนี้ก็จะไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเปิดเผยอีกตลอดไป
แต่ว่าถ้าหากหลังจากที่คนเข้าไป แล้วค่อยส่งไปยังสถานที่อื่นอีก ก็จะต้องเปิดเผยอีกครั้ง ปัยจัยความเสี่ยงย่อมเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
ในเวลานี้เอง ปราณทิพย์ของเย่เฉินก็ตรวจพบอย่างกะทันหัน มีคนหนึ่ง อยู่ๆก็โผล่ออกมาจากใต้ดิน
ดังนั้นเขารีบรวบรวมปราณทิพย์ไปที่นั่น ทันใดนั้นก็พบว่า ข้างปล่องท่อของเรือนจำ คาดไม่ถึงว่ายังมีบ่อลิฟต์ที่ค่อนข้างคับแคบอยู่บ่อหนึ่ง ลิฟต์นี้มีความกว้างประมาณหนึ่งเมตรห้าสิบเซน ห้องลิฟต์แคบจนน่าสงสาร มีขนาดเพียง1.2ตารางเมตรเท่านั้น
อีกทั้งบ่อลิฟต์นี้ไม่มีช่องเปิดใดๆระหว่างชั้นหนึ่งกับระหว่างชั้น ก็หมายความว่า มันจะมาจากชั้นบนตรงไปยังใต้ดิน
เย่เฉินไม่ได้รีบร้อนใช้ปราณทิพย์ลงไปสำรวจด้านล่าง แต่ติดตามคนที่อยู่ในลิฟต์มาถึงชั้นบน ที่ยิ่งแย่กว่าก็คือ ลิฟต์ตัวนี้คาดไม่ถึงว่าลิฟต์ตัวนี้จะซ่อนอยู่ในห้องกั้นที่อยู่ด้านหลังห้องทำงานที่ใหญ่โตชั้นบน
ตามสถานการณ์ที่เย่เฉินสัมผัสได้ ห้องทำงานนี้ เป็นห้องหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดของเรือนจำ ดูเหมือนว่า มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะเป็นห้องทำงานของพัศดีเรือนจำ
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเรือนจำสมัยใหม่ที่มีความปลอดภัยสูง อุปกรณ์กล้องวงจรปิดประเภทต่างๆรวมทั้งอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยจัดวางอยู่ทั่วทุกที่ของเรือนจำ ตนเองบุกเข้าไปนั้นง่าย แต่ถ้าหากอยากจะปะปนเข้าไปโดยที่ไม่ให้ใครเห็น ความยากไม่น้อยเลยจริงๆ
ถ้าหากย้อนกลับไป ต่อให้ตอนนี้ตนไปพบเฟ่ยเข่อซินนำตนเองออกไป จากนั้นค่อยตามหาพัศดีเรือนจำของที่นี่จากข้างนอก ใช้จุดสังเกตทางจิตวิทยาควบคุมเขา ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะให้เขาพาตนเองไปยังด้านในห้องใต้ดิน
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า ตระกูลรอธส์ไชลด์ค่อนข้างให้ความสำคัญกับที่นี่มากอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าเวลาอาจจะจับตามองบ่อลิฟต์ที่ซ่อนอยู่รวมทั้งปีเตอร์โจวที่ถูกคุมขังเอาไว้ด้านล่างทั้งวันก็ได้
และถึงอย่างไรตนเองก็เป็นคนที่มีชีวิตอยู่ ถ้าหากตามพัศดีเรือนจำเข้ามาอย่างโจ่งแจ้ง จะต้องถูกตระกูลรอธส์ไชลด์สังเกตเห็นเข้า เกรงว่ายังไม่ทันได้เจอหน้าปีเตอร์ โจว ก็คงแหวกหญ้าให้งูตื่นก่อนสะแล้ว
ในทางตรงกันข้าม ตามหาการบุกทะลวงจากภายในเรือนจำ ในทางกลับกันอาจจะง่ายกว่าหน่อย
เรือนจำแห่งนี้ก็คือป้อมปราการสำคัญของตระกูลรอธส์ไชลด์ ตามความเคยชินของความคิด พวกเขาจะต้องมุ่งเน้นไปที่การป้องกันจากภายนอกอย่างแน่นอน เป็นผลให้ความเสี่ยงภายในถูกมองข้ามหรือประเมินต่ำไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในเวลานี้เอง เย่เฉินได้ยินกุสตาโว่เจ้าพ่อยาเสพติดกล่าวกับลูกน้องที่อยู่ด้านข้าง: “จัดการให้หน่อย หลังจากอาหารเย็นฉันอยากจะพบพัศดีเรือนจำสักหน่อย!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...