ถ้าหากให้กุสตาโว่ถูกสังหารในเหตุการณ์จลาจลที่เรือนจำ อุปสรรคขัดขวางอันนี้ก็จะอันตรธานไปหมดสิ้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลสหรัฐอเมริกาหรือว่าตระกูลรอธส์ไชลด์ ก็จะสูญเสียแต้มต่อในการควบคุมเขาไปทันที
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยทันที รู้ว่าโอกาสมาถึงแล้ว
ดังนั้น เย่เฉินจึงถามเขา: “ที่เรือนจำแห่งนี้เคยเกิดเหตุจลาจลขึ้นไหม?”
“แน่นอน”ลูคัสพูดออกมาทันที: “เหตุจลาจลในนี้ก็คือเรื่องปกติ ผู้คุมเองก็ไม่ซักถาม พวกเขาก็เหมือนกับเจ้าฟาร์มหมา เอาหมาป่าฝูงหนึ่งมาขังไว้ในกรง ถือโอกาสให้พวกมันกัดและแย่งกัน พวกเขาเพียงแค่มองดูความสนุกอยู่ที่ข้างหลังลูกกรงเหล็กเท่านั้น รอจนดูความสนุกพอแล้ว ก็เข้ามาแทรกแซงสักหน่อย แยกพวกหมาป่าที่กัดกันออก ลากศพออกไปข้างนอก แล้วค่อยนำหมาป่าที่รอดชีวิตตีคนละห้าสิบที"
พูดไป ลูคัสถามเย่เฉิน: “ทำไมอยู่ๆถึงถามเรื่องนี้?”
เย่เฉินมองไปทางโจเซฟทางด้านนั้น เห็นว่าลูกน้องของโจเซฟเริ่มตนแยกย้ายกันแล้ว กระจายตัวเดินมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งของกุสตาโว่ในทิศทางต่างๆ จึงกล่าวเสียงเบา: “ฉันรู้สึกว่าพวกเขาจะก่อเรื่อง”
ลูคัสกล่าวอย่างคุ้นชิน: “ปกติ พวกเขาก่อเรื่องจุดประสงค์ชัดเจน พวกเราหลบอยู่ห่างๆคอยดูความสนุกก็พอ”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยทันที วางช้อนลง กล่าวพร้อมรอยยิ้ม: “ดูความสนุกอยู่ไกลๆจะไปสนุกอะไร ฉันคนนี้ชอบเข้าร่วมความสนุก”
พูดจบ ก็ลุกขึ้นยืน ค่อยๆเดินเข้าไปหากุสตาโว่
ในเวลานี้ กุสตาโว่เองก็ตระหนักได้ถึงความผิดปกติ
ลูกน้องของโจเซฟถึงแม้ว่าจะกระจายออกไปคนละทิศละทาง แต่คนพวกนี้เหมือนกับเดินมุ่งหน้ามาหาตนเอง มีบางคนเดินตรงเข้ามาหาตนเอง และมีบางคน เดินอ้อมไปอ้อมมาราวกับเส้นโค้ง ถึงขนาดมีบางคนเดินอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อล้อมตัวเองไว้ตรงกลาง
สีหน้าของเขาจริงจังขึ้นมา กล่าวกับลูกน้องข้างกายเสียงเย็นชา: “ดูท่าโจเซฟจะลงมือวันนี้!”
ลูกน้องสิบกว่าคนตื่นตัวขึ้นมาทันที
ในเวลานี้กุสตาโว่ได้หลับอยู่ด้านหลังของลูกน้องสิบกว่าคน จ้องมองชายกล้ามโตที่กำลังล้อมเข้ามาทางตนเองด้วยใบหน้าเฉยเมย ยังไม่ตระหนักถึงภัยที่กำลังมาถึงตน
เขาคิดว่า ตระกูลรอธส์ไชลด์ไม่อยากให้ตนมีความสุขมากเกินไป ถ้าหากวันนี้จัดการลูกน้องไปสักสามสี่คน ถ้าอย่างนั้นต่อไปตนเองก็จะต้องเก็บตัวหน่อย แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางการกินๆดื่มๆหลับนอนกับผู้หญิงต่อไปของตน
ดังนั้น เขาลุกขึ้นยืนมองไปทางโจเซฟที่อยู่ไกลๆ ในท่าทางที่โมโหแฝงไปด้วยความหยิ่งยโส
เขาคิดว่า ต่อไปตอนที่ตนเองหารือเรื่องความร่วมมือกับตระกูลรอธส์ไชลด์อีก ไม่ว่าพวกเขาจะให้ตนทำอะไร ตนจะต้องเพิ่มเงื่อนไขอีกข้อ นั่นก็คือจัดการโจเซฟทิ้งซะ
ถึงอย่างไรสำหรับตระกูลรอธส์ไชลด์แล้ว โจเซฟก็คือหมาตัวหนึ่งที่พวกเขาเลี้ยงอยู่ในเรือนจำบรูคลิน หมาตัวนี้ตายไปแล้ว เปลี่ยนหมาตัวใหม่ก็ไม่มีผลกระทบ
เขาที่ทั้งมั่นใจทั้งหยิ่งผยอง ที่จริงไม่ได้ตระหนักเลยว่า คืนนี้คนที่กำลังจะถูกสังหาร ก็คือตนเอง!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...