เย่เฉินกับรอยซ์ ทำเวลาเพื่อให้ได้ออกไปจากนครนิวยอร์กในตอนรุ่งสาง
เพราะมีการอนุมัติพิเศษของฮาวเวิร์ด เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ก็จึงไม่มีการตรวจค้นใดๆ
และแม้กระทั่ง การเข้าสู่แคนาดาก็ไม่มีใครเอ่ยถามอะไร
นั่งเฮลิคอปเตอร์บินข้ามพรมแดนระหว่างทั้งสองประเทศอย่างเปิดเผย ความสัมพันธ์ในเขตพรมแดนระหว่างสหรัฐอเมริกาและแคนาดานั้น แม้จะไม่ได้เปิดพรมแดนอย่างเป็นทางการเช่นเดียวกับประเทศในสหภาพยุโรป แต่ก็มีความสัมพันธ์นายบ่าวที่ทุกคนต่างก็รู้กันดี ดังนั้นการตรวจคัดกรองการเข้าและออกประเทศนั้นก็จึงหละหลวมมาก รวมไปถึงในแคนาดาตระกูลรอธส์ไชลด์ก็มีอิทธิพลอย่างมาก ดังนั้นเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาข้ามพรมแดนไป แคนาดาก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
เมื่อเฮลิคอปเตอร์บินผ่านชายแดนสหรัฐอเมริกาและแคนาดาได้สำเร็จ เย่เฉินก็รู้สึกโล่งใจ เขาส่งข้อความไปให้เฉินจ้างโจง ให้เขาซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางมาที่มอนทรีออลโดยเร็วที่สุด
แม้สองเมืองนี้จะอยู่ไม่ไกลกันนัก แต่เที่ยวบินนั้นก็มีอยู่เยอะมาก เริ่มเที่ยวบินแรกในเวลาหกโมงเช้า ชั่วโมงหนึ่งก็มีอยู่ราวๆสองถึงสามเที่ยวบินได้ไปตลอดจนเวลาสามทุ่มครึ่งในแต่ละวัน
เมื่อเฉินจ้างโจงเห็นข้อความที่เย่เฉินส่งมาหาตัวเองว่าให้เดินทางไปที่มอนทรีออล ก็รู้ได้ในทันทีว่าเขาได้ออกจากสหรัฐอเมริกาอย่างราบรื่นแล้ว ก็จึงทำการจองตั๋วเครื่องบินที่เร็วที่สุด แล้วรอที่จะเดินทางไปสนามบิน
จากนั้น เย่เฉินก็ติดต่อไปหาว่านพั่วจวิน ให้เขาโยกย้ายหน่วยพิเศษของสำนักว่านหลงที่ประจำการอยู่ในแคนาดามาอีกจำนวนหนึ่งอย่างเร่งด่วน ให้พวกเขาไปรอตัวเองที่มอนทรีออลเพื่อส่งตัวไปทำงานนอกสถานที่
ต่อจากนั้น เขาก็ติดต่อไปหาอิโตะ นานาโกะที่อยู่ไกลถึงหัวเซี่ย ให้อิโตะ นานาโกะช่วยใช้ชื่อของตระกูลอิโตะ เช่าเหมาเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวลำหนึ่งในการบินข้ามมหาสมุทรของมอนทรีออล เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวนี้จะบินตรงจากมอนทรีออลไปยังเมืองจินหลิง
หัวเซี่ยในตอนนี้เป็นเวลากลางคืน
แต่ทว่าหลินหว่านเอ๋อร์ยังไม่ได้เข้านอน กำลังอยู่ในสวน ริมสระน้ำพุร้อน เฝ้าดูยอดใบอ่อนของมารดาแห่งชาผูเอ่อร์
นั่งดื่มชาที่นี่ แล้วมองดูมารดาแห่งชาผูเอ่อร์ ทำให้หัวสมองของเธอมีแต่เรื่องราวของเย่เฉินเต็มไปหมด
ในเวลานี้เอง จู่ๆก็ได้รับสายจากเย่เฉิน ใบหน้าที่งดงามของเธอแดงเรื่อขึ้นในทันที กดรับสายอย่างเอียงอาย เอ่ยถามอย่างขัดเขินกับอาการตื่นเต้นที่ปิดไม่มิดว่า“คุณชายเย่โทรหาข้าน้อยจากที่ไหนคะ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...