ใบเสร็จเป็นเพียงหลักฐานอย่างเดียวของการเบิกเงินคืน
เพราะว่าเป็นเช่นนี้ หลังจากที่ได้ยินว่าเย่เฉินเอาใบเสร็จไป เจี่ยงหมิงถึงโมโหอย่างมาก
ตัวเองก็รอใบเสร็จใบนี้เพื่อจะได้นำไปเบิกเงินที่บริษัท ถ้าหากเย่เฉินไม่ส่งใบเสร็จมาให้ งั้นอาหารมื้อนี้ของตัวเองไม่เพียงแค่หาเงินเข้ากระเป๋าไม่ได้ ยังขาดทุนไปกว่าหนึ่งแสน นี่จะไม่เป็นการเคราะห์ซ้ำกรรมซัดให้แก่ตัวเองเหรอ?
คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็โมโหอย่างมากก่อนที่จะกลับมายังโต๊ะอาหาร เมื่อเห็นเย่เฉินก็เอ่ยปากถามว่า : “เย่เฉิน นายแอบไปให้ที่หน้าเค้าท์เตอร์ออกใบเสร็จให้ใช่ไหม?รีบเอาใบเสร็จมาให้ฉันเลยนะ!”
เย่เฉินพูดอย่างราบเรียบว่า : “อาหารมื้อนี้เราสองคนเป็นคนจ่าย ฉันให้ออกใบเสร็จแล้วยังไงเหรอ?ถึงยังไงในนี้ก็มีส่วนของฉัน 1แสน นายคงไม่ลืมหรอกมั้ง?”
“นาย……” เจี่ยงหมิงถูกเขาทำให้สำลักจนพูดไม่ออกเลย ผ่านไปสักพักจึงพูดอย่างลนลานว่า: “นายไม่ได้ทำงานแถมไม่ได้เปิดบริษัท นายจะออกใบเสร็จทำไมกัน?”
เย่เฉินยิ้มพร้อมพูดว่า : “นายไม่รู้หรอกว่าตอนนี้มีร้านอาหารจำนวนมาก เขาจงใจที่จะไม่ออกใบเสร็จให้กับลูกค้า ถ้าหากเขาไม่ออกใบเสร็จ องค์กรภาษีแห่งชาติก็ไม่รู้เลยว่าพวกเขาได้รับเงินจำนวนเท่าไหร่กันแน่ แบบนี้เขาก็ไม่ต้องจ่ายภาษีแล้ว ”
พูดจบ เย่เฉินก็มองไปรอบๆ พูดกับทุกคนว่า : “แต่ว่า เราในฐานะที่เป็นประชาชนที่ปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศ การจ่ายภาษีตามกฎหมายเป็นหน้าที่ของเรา กำกับดูแลให้ร้านอาหารจ่ายภาษีตามกฎหมายก็เป็นหน้าที่ของเราเช่นกัน ทุกคนว่าถูกต้องไหม!”
ผู้คนต่างก็พยักหน้ากัน
หลี่เสี่ยวเฟินพูดว่า : “ร้านอาหารในตอนนี้เจ้าเล่ห์ที่สุด ถ้าหากว่านายไม่ให้ออกใบเสร็จ พวกเขาก็ไม่ต้องจ่ายภาษีเลย จึงจำเป็นต้องให้พวกเขาออกใบเสร็จตามกฎหมาย พวกเขาถึงจะจ่ายภาษีให้แก่กระทรวงการคลัง”
จ้าวเห้าก็พูดอย่างเห็นด้วยว่า : “อุตสาหกรรมด้านอาหารและเครื่องดื่มทำรายได้จำนวนมาก ในเมื่อได้เงินมากขนาดนี้ ยังจะหลีกเลี่ยงภาษี งั้นก็พูดฟังไม่ขึ้นแล้วจริงๆ”
จ้าวโจ๋วเยว่ที่อยู่ข้างๆหัวเราะอย่างเย็นชาพร้อมพูดว่า : “นายก็พูดกับร้านอาหารได้นะ ไม่ออกใบเสร็จบอกพวกเขาให้ส่วนลดพิเศษแก่นายส่วนนึง หรือไม่ก็ให้เครื่องดื่มอะไรพวกนี้ฟรีหน่อย ปกติเวลาฉันไปทานข้าวที่ร้านอาหาร ถ้าหากพวกเขาไม่ออกใบเสร็จให้ฉัน ฉันก็จะขอน้ำโค๊กจากเขาหนึ่งขวด ถึงอย่างไรฉันจะเสียเปรียบไม่ได้”
เย่เฉินหัวเราะฮึออกมา : “จ้าวโจ๋วเยว่นะจ้าวโจ๋วเยว่ นายก็ยังคงฉลาดเช่นเคย!ฉันต้องหัดเรียนรู้จากนายแล้ว!”
ในเวลานี้เย่เฉินหัวเราะฮิฮิพร้อมพูดว่า : “นายก็ไม่ได้บอกว่าออกใบเสร็จไม่ได้สักหน่อย อีกอย่าง เมื่อกี้ฉันก็บอกแล้ว อาหารมื้อนี้นายกับฉันจ่ายกันคนละครึ่ง ใครก็มีสิทธิ์ที่จะให้ออกใบเสร็จทั้งนั้น ให้ความสำคัญที่ใครมาก่อนได้ก่อนสิ ”
พูดแล้ว เย่เฉินก็พูดด้วยใบหน้าที่หายใจแรงว่า : “อย่างนี้แล้วกัน เราก็อย่ามาถกเถียงเรื่องออกใบเสร็จเพื่อใคร หรือไม่ออกใบเสร็จเรื่องเล็กๆนี่เลยนะ ถึงอย่างไรอาหารมื้อนี้เราก็เชิญทุกคนมาเลี้ยงข้าว ก็ไม่ได้บอกว่าหลังจากที่เชิญทุกคนกินข้าวเสร็จแล้วยังจะกลับไปเบิกที่บริษัทหรือว่ากับคนอื่นสักหน่อย ใบเสร็จนี้ฉันจะฉีกต่อหน้าทุกคนในตอนนี้เลย เราสองคนไม่ต้องมีใครได้ไปทั้งนั้น นี่ก็โอเคแล้วนะ?”
ไม่รอให้เจี่ยงหมิงเรียกสติกลับคืนมา เย่เฉินก็รีบฉีกใบเสร็จนี้จนยับเยินเลยทันที
เมื่อเห็นใบเสร็จใบนี้ถูกเย่เฉินฉีกละเอียด เจี่ยงหมิงก็รู้สึกว่าใจของตัวเองกำลังมีเลือดไหล
จบแล้ว ครั้งนี้จบเห่แล้ว เงินหนึ่งแสนสำหรับอาหารมื้อนี้ ลงทุนเสียเปล่าไม่ได้อะไรกลับมา!
------------

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...