ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 1033

สองพ่อลูกตระกูลเว่ย กำลังเพ้อฝันว่าจะได้มีชีวิตที่พลิกผัน ทันใดนั้นลมหนาวพัดผ่านภูเขาฉางไบ พัดจนทำให้ทั้งสองคนตัวสั่น

เว่ยหย่งเจิ้งถอนหายใจเฮือกหนึ่ง: “โอเค ลมที่นี่มันแรงเกินไป ลมกระโชกแรงไปทั้งตัวเลย เรารีบไปกันเถอะ”

“ครับ!” เว่ยฉางหมิงก็รู้สึกหนาวจับกระดูก รีบหดคอลง ลุกขึ้นปัดหิมะที่ก้น และก็ยื่นมือไปจับพ่อของเขาอีกครั้ง

ต้องบอกเลยว่า สองพ่อลูกพึ่งพาอาศัยกันให้รอดที่ภูเขาฉางไบอยู่ช่วงเวลาหน่วง ความสัมพันธ์ดีกว่าเดิมไม่น้อย

เมื่อก่อน แม้ว่าเว่ยหย่งเจิ้งจะรักลูกชายคนนี้มาตลอด แต่จริงๆแล้วสำหรับคนเห็นแก่ตัวอย่างเขา เป็นเรื่องยากที่จะทำดีต่อคนๆหนึ่งมาจากก้นบึ้งจากจิตใจ

ดังนั้นเขาปฏิบัติตัวต่อเว่ยฉางหมิงก็แบบธรรมดาทั่วไป ซึ่งดีกว่าเว่ยเลี่ยง

เว่ยฉางหมิง เป็นลูกผู้ดีมีเงินคนหนึ่งมาตั้งแต่ไหนแต่ไร วันๆก็คิดแต่จะดื่มเหล้าและเที่ยวผู้หญิง ความสัมพันธ์กับพ่อของเขาก็ไม่ได้ใกล้ชิดกันมากนัก

สาเหตุหลักมาจากเว่ยฉางหมิงมักฟังแม่ของเขาตอนที่เขายังเด็ก พ่อไม่สนใจครอบครัว มัวแต่เลี้ยงผู้หญิงข้างนอก

ทำให้เว่ยฉางหมิงไม่พอใจพ่อตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

แต่ เมื่อมาถึงภูเขาฉางไบ พ่อลูกต้องร่วมมือกันเพื่อความอยู่รอด นี่ก็ยังทำให้ทั้งสองละความอคติที่มีต่อกัน และพึ่งพาอาศัยกันมากขึ้นเรื่อยๆ

ใครๆต่างก็รู้ว่า ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ไม่สามารถสูญเสียอีกฝ่ายไปได้

ถ้าหากสูญเสียอีกฝ่ายไป คนที่เหลือก็คงไม่มีความกล้าหาญ และไม่มีความสามารถที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้

สองพ่อลูกเดินจากเนินเขาไปทางที่มีแสงระยิบระยับในระยะไกล

สถานที่ที่มีแสงสว่างก็คือหมู่บ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่ เดินมาจากเนินเขา ยังเหลืออีก 3-4 ไมล์

ขณะที่สองพ่อลูกกำลังเดินอยู่นั้น เว่ยฉางหมิงกล่าว: “พ่อ ไอ้นักล่าในป่า เมื่อวานล่ากวางโรเดียร์ได้ตัวหนึ่ง ได้ยินมาว่าเนื้อกวางโรเดียร์อร่อยมากเลย เดี๋ยวจะไปดูที่บ้านเขาหน่อยไหม? หาโอกาสขอเนื้อกวางโรเดียร์สัก 1 กิโลกรัม!”

“ขอเนื้อของเขาเหรอ?” เว่ยหย่งเจิ้งกล่าวอย่างถอนหายใจว่า: “ไอ้คนแซ่หลี่คนนั้นเป็นคนที่ขี้งกมาก ครั้งก่อนเขาล่าหมูป่าตัวใหญ่หนักกว่า 250 กิโลกรัม พ่อขอไส้หมูสักท่อน เขาก็ไม่ให้ จะให้พ่อจ่ายเงินให้ได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน