ขงเต๋อหลงคิดจะเปรียบเทียบกับเย่เฉินต่อหน้าฝูงชน ด้วยเหตุนี้จึงเปิดปากเอ่ยถามขึ้นบนกับแขกผู้มีเกียรติว่า “ปรมาจารย์เย่ใช่ไหมครับ? ได้ยินว่าคุณมีฉายาว่าพญามังกรในหมู่มนุษย์ จริงหรือเปล่า?”
เย่เฉินยิ้มเรียบๆ แวบหนึ่ง เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “อันสิ่งที่เรียกว่าพญามังกรในหมูมนุษย์ ก็เป็นเพียงฉายาที่สหายในยุทธภพเรียกขานกันเท่านั้น”
ขงเต๋อหลงยิ้มหัวเราะคราหนึ่ง เอ่ยวาจาที่แฝงความประชดประชันไว้หลายส่วน “ปรมาจารย์เย่ ผู้แซ่หลงนึกอยากรู้ยิ่งนักว่าวันนี้คุณนำของขวัญอะไรมามอบให้คุณหนูหวั่นถิง? พญามังกรในหมู่มนุษย์แบบคุณ ของที่มอบออกมาจะต้องไม่ธรรมดาแน่เลยใช่ไหม?”
เย่เฉินตอบยิ้มๆ “ว่ากันตามจริง ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณหนูหวั่นถิงจะจัดงานเลี้ยงเกิดขึ้นในวันนี้ ทันทีที่รู้ จึงจัดเตรียมของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้อย่างฉุกละหุก ไม่มีอะไรมากไปกว่าต้องแสดงถึงน้ำใจไมตรี เทียบชั้นกับของจากคุณขงไม่ได้หรอกครับ”
ยิ่งเย่เฉินถ่อมตัวเท่าไหร่ ขงเต๋อหลงก็ยิ่งอยากทำให้เขาขายหน้าต่อหน้าฝูงชน
ดังนั้นเขาจึงกัดเย่เฉินไว้ไม่ยอมปล่อย ต้อนถามว่า “ปรมาจารย์เย่จะถ่อมตัวไปทำไมล่ะครับ? ผมก็แค่อยากรู้ว่าสรุปแล้วคุณเตรียมของขวัญอะไรมาก็เท่านั้น คุณช่วยบอกหรือแสดงให้ทุกคนได้ชมสักหน่อยคงไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”
เอ่ยไปแล้ว ขงเต๋อหลงก็กล่าวขึ้นอีกว่า “ใช่แล้ว ในเมื่อปรมาจารย์เย่เป็นซินแส ถ้างั้นให้ผมลองเดาดูก่อนนะครับ หรือว่าของขวัญที่ปรมาจารย์เย่เตรียมมาให้คุณหนูหวั่นถิง จะเป็นยันต์อาคมสักใบหรือว่าเครื่องรางคุ้มกายที่คุณปลุกเสกขึ้น?”
เย่เฉินยิ้มอย่างเฉยเมยแวบหนึ่ง “คุณชายขงฉลาดจริงๆ ใกล้เคียงมากเลย”
เมื่อขงเต๋อหลงได้ยินวาจานี้ ก็ยิ้มเยาะทันที “มีลูกน้องคนหนึ่งในตระกูลของพวกเรา ที่บ้านเป็นโรงงานอุตสาหกรรมเล็กๆ อยู่ที่อี้อู ผมได้ยินเขาเล่าว่า ในตลาดค้าส่งเล็กๆ ของอี้อู ของจำพวกเครื่องรางคุ้มกายเหล่านั้น ล็อตนึงก็ราคาไม่กี่เหมาเท่านั้น ไม่ทราบว่าล้อตนี้ของปรมาจารย์เย่ราคากี่เหมาละครับ หากว่าราคาค้าส่งที่ปรมาจารย์เย่ได้มาค่อนข้างแพง ถ้แบบนั้นผมจะได้แนะนำลูกคนคนนี้ให้คุณสักหน่อย ให้คุณได้สินค้าจากแหล่งที่ถูกกว่า”
ซ่งหรงวี่ได้ยินประโยคนี้ก็เผยรอยยิ้มออกมา ซ่งเทียนหมิงบิดาของเขาก็รู้สึกว่าคุมสีหน้าไม่ค่อยได้อยู่บ้าง เพียงแต่สีหน้าของคนอื่นๆ ที่อยู่บนโต๊ะกลับค่อนข้างย่ำแย่อยู่บ้าง
ถึงอย่างไรเย่เฉินก็ได้รับการนับหน้าถือตาจากทุกคนมาโดยตลอด ในสายตาของทุกคนไม่ว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์เย่หรือว่านายน้อยเย่ ล้วนแต่เป็นคนที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้ทั้งสิ้น เป็นตัวตนไม่อาจลบหลู่ได้
ตอนนี้ขงเต๋อหลงคนนี้ไม่น่าเชื่อว่าพอมาถึงก็กล้าสร้างความลำบากให้เย่เฉินเสียแล้ว ทำให้ในใจของทุกคนค่อนข้างไม่สบอารมณ์
เฉินจื๋อข่ายแทบจะตรงเข้าไปตบบ้องหูของขงเต๋อหลงตามสัญชาตญาณแล้ว ไอ้สุนัขที่ไม่รู้จักดีชั่ว บังอาจใช้นัยน์ตาสุนัขมาบีบคั้นนายน้อยของบ้านตน สายตาช่างไร้แววเสียจริง
ได้ยินเย่เฉินเอ่ยเยินยอตน รอยยิ้มบนใบหน้าขงเต๋อหลงยิ่งกดลึกขึ้นกว่าเดิม เขาหลงนึกว่าเย่เฉินยอมสยบให้ตนแล้ว
แต่คาดไม่ถึงเลยว่า เย่เฉินจะรีบเอ่ยถามต่อว่า “เมื่อครู่คุณชายขงบอกว่า สร้องคอเส้นนั้นที่คุณมอบให้มูลค่าถึงยี่สิบล้านเหรียญสหรัฐ ไม่ทราบว่าจริงหรือหลอกครับ?”
ขงเต่อหลงเอ่ยตอบเสียงเย็นอย่างผยองยิ่งนัก “ตระกูลขงของผมอยู่ที่เย่นจิง ได้รับการจัดอันดับให้ติดท้อปสิบของตระกูลชั้นแนวหน้า สร้อยคอราคาแค่ยี่สิบล้านเหรียณสหรัฐ ไม่คู่ควรให้ผมทำของปลอมมาหรอก”
เย่เฉินพยักหน้า เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เถ้างั้นคุณชายขงคุณลองเดาดูสิครับ ว่าของของขวัญที่ผมจะมอบให้คุณหนูซ่งราคาประมาณเท่าไหร่?”
ขงเต๋อหลงเอ่ยอย่างประชดประชัน “ถึงแม้ผมจะยังไม่เห็นว่าของขวัญที่คุณนำมามอบให้คืออะไร แต่ผมเดาว่าคงไม่เกินหมื่นหยวนแน่นอน”
------------

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...