ตอนที่เย่เฉินกับเซียวชูหรันพาจางเสี่ยวม่านออกมาจากชุมชน จางเสี่ยวม่านยังคงเช็ดน้ำตาอยู่ไม่หยุด
เซียวชูหรันคอยปลอบใจอยู่ด้านข้างตลอด ส่วนเย่เฉินก็อยู่ห่างๆ อย่างรู้ความ
ตอนที่ออกมาจากชุมชน ทั้งสองคนจอดรถซุปเปอร์คาร์สองคันไว้ริมถนน คนที่ผ่านทางมาล้อมวงกันเข้าไปแก่งแย่งเพื่อถ่ายรูปคู่อยู่ไม่ขาดสาย
เย่เฉินก้าวเข้าไป แยกฝูงชนที่อยู่ด้านหน้าแอสตันมาร์ตินออกไปก่อน จากนั้นก็เปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับ ให้จางเสี่ยวม่านเข้าไปนั่งก่อน
เมื่อเห็นรถแอสตันมาร์ตินรุ่น ONE77 อยู่ตรงหน้าคันนี้ จางเสี่ยวม่านก็ตาค้างอ้าปากหวอทันที เธอถามอย่างประหลาดใจว่า “ชูหรัน รถคันนี้...”
เซียวชูหรันเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นรถที่สามีฉันยืมมาจากเพื่อนของเขาน่ะ เธอวางใจเถอะ รถซุปเปอร์คาร์สองคันนี้จะขับทะยานไปที่บ้านฝ่ายสามีเธอ ต้องกู้หน้ากลับมาให้เธอได้แน่นอน!”
จางเสี่ยวม่านเอ่ยอย่างรู้สึกผิด “ชูหรัน เดิมทีฉันคิดว่ารถบีเอ็มคันนั้นของเธอก็ยอดเยี่ยมมากแล้วนะ ไม่นึกเลยว่าเธอไปขอยืมรถจากเพื่อนเพื่อฉันอีก ต้องติดค้างน้ำใจของคนอื่นทั้งหน้าทั้งหลัง ช่างน่าละอายมากไปแล้ว...”
เซียวชูหรันกล่าวอย่างจริงจังยิ่ง “เสี่ยวม่าน เราสองคนเป็นเพื่อนนักเรียนกันมาหลายปีแล้ว แถมยังเป็นพี่น้องที่สนิทกันด้วย การแต่งงานของเธอเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ฉันต้องทุ่มเทกายใจอย่างแน่นอน เรื่องนี้เธอจะยังเกรงใจฉันไปทำไมอีก?”
ว่าไปแล้ว เธอก็ตบไหล่จางเสี่ยวม่านเบาๆ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ อยากเกรงใจกันขนาดนี้เลย รีบขึ้นรถเถอะ พวกเราต้องรีบกลับกันได้แล้ว ไม่งั้นจะสายเกินไป”
จางเสี่ยวม่านตาแดงก่ำพยักหน้ารับ พูดอย่างจริงจัง “ชูหรัน ขอบใจนะ!”
เซียวชูหรันส่งยิ้มปลอบใจเธอแวบหนึ่ง จากนั้นก็ประคองเธอ เข้าไปนั่งในรถแอสตันมาร์ตินคันนี้
เวลานี้เองครอบครัวของจางเสี่ยวม่านที่ตามออกมาทันที่เห็นพวกเขา ก็รีบพุ่งเข้ามาทันที
เมื่อเห็นว่ารถสองคันที่อีกฝ่ายขับมามีหน้าตาแปลกพิกล แม่ของจางเสี่ยวม่านก็รีบเอ่ยกับสามีตนว่า “คุณหมอบอยู่ตรงรถด้านหน้าคันนี้ ฉันหมอบอยู่ตรงรถด้านหลังคันนั้น!”
พ่อของจางเสี่ยวม่านพยักหน้า จากนั้น สองสามีภรรยาหนึ่งหน้าหนึ่งหลัง ก็ลงไปหมอบอยู่ใต้รถแล้ว
แม่ของจางเสี่ยวม่านพลันตัดสินใจ ตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น “ถ้าวันนี้พวกแกคิดจะไป ก็ต้องข้ามศพพวกฉันสองคนไปก่อน!”
หากว่าไปยุแหย่อีกฝ่ายเข้า ทั้งครอบครัวตนยังจะรอดชีวิตไปได้อีกหรือ?
ในตอนนี้เอง เย่เฉินมองไปที่จางเสี่ยวเฟิงแล้วเอ่ยเสียงเรียบว่า “ฉันคนนี้ไม่ได้นิสัยดีมากนัก และไม่มีความอดทนมากนัก ฉันให้เวลาแกจัดการเรื่องพวกนี้สิบวินาที ไม่งั้นก็รับผิดชอบผลที่จะตามมาด้วยตัวเองซะ”
อันที่จริงเย่เฉินก็รู้ดีเหมือนกัน คนหนุ่มอย่างจางเสี่ยวเฟิงไม่มีทางไม่รู้จักแอสตันมาร์ตินกับบูกัตติเวย์รอน ขอเพียงเขามองคนนี้ออก เขาก็จะรู้ว่าเขาคือคนที่ตนไม่อาจจะยุแหย่ได้ เมื่อเป็นแบบนี้ เขาจะต้องลากผัวเมียใจดำคู่นี้ออกไปแน่นอน
เมื่อจางเสี่ยวเฟิงได้ยินเย่เฉินพูดแบบนี้ ก็ตกใจจนตัวสั่น รีบยื่นมือไปดึงแม่ของตนออกมา เอ่ยอย่างร้อนรนว่า “แม่ แม่รีบออกมาเร็ว จะมานอนตรงนี้ได้ยังไงกัน!”
แม่ของเขาขมวดคิ้วตอบไปว่า “ถ้าฉันไม่นอนตรงนี้ แล้วจะเปลี่ยนบ้านให้แกได้ยังไง? สมองของแกถูกน้ำเข้าหรือไง?”
จางเสี่ยวเฟิงร้อนรนจนใกล้จะร้องไห้แล้ว เขากดเสียงต่ำกัดฟันเอ่ยริมหูผู้เป็นมารดาว่า “แม่ แม่บ้าไปแล้วเหรอ? พวกเราจะไปหาเรื่องสองคนนี้ไม่ได้นะ! รถสองคนนี้ของพวกเขารวมกันแล้วราคาร้อยล้านเชียวนะ!”
------------

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...