ฟังสวีลี่ฉินพูดแบบนี้ น้ำตาของจางเสี่ยวม่านจู่ๆก็ไหลรินออกมา
เมื่อซุนหงเหว่ยเห็นคู่หมั้นของตน ถูกแม่ของตัวเองหยามเหยียดขนาดนี้ ก็ทนดูต่อไปไม่ไหว จึงรีบกล่าว “แม่! เรื่องแต่งงานของผมกับเสี่ยวม่านเป็นเรื่องของเราสองคน เพียงแค่เราทั้งคู่มีความสุขก็พอแล้ว พวกเราไม่อยากคิดอะไรมากมายขนาดนั้น ดังนั้นแม่ก็อย่าใส่ใจอะไรมาก ได้เวลาแล้ว รีบจัดการงานแต่งให้เสร็จก็โอเคแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ได้!” สวีลี่ฉินมองไปที่จางเสี่ยวม่านอย่างรังเกียจ กล่าวอย่างเหยียดหยาม “ฉันโมโห ตั้งแต่ฉันแต่งงานกับพ่อแกมา ยังไม่เคยเสียเปรียบขนาดนี้มาก่อน ครอบครัวเธอเกาะพวกเราแท้ๆ ทำไมทำเหมือนกับพวกเราเกาะพวกเขาอย่างไรอย่างนั้นเลยละ? ฉันกับพ่อของแกมานี่ตั้งแต่เช้า ญาติสนิทมิตรสหายของเราก็มานี่แต่เช้า สุดท้ายครอบครัวเธอล่ะ? นอกจากเจ้าสาวแล้ว ไม่มีใครมาเลย! นี่หมายถึงไม่ให้เกียรติคน ดูถูกพวกเรา!”
จางเสี่ยวม่านรีบโบกมืออธิบาย “คุณป้าคะ คุณป้าเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้วค่ะ พ่อแม่ของหนูไม่ได้ดูถูกคุณป้านะคะ พวกเขาแค่โมโห ดังนั้นจึงไม่มา”
สวีลี่ฉินกล่าวอย่างดูแคลน “หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ แกไม่ใช่เด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่ จะมางานแต่งตัวคนเดียวได้ไงกัน? ฉันโตมาขนาดนี้ ไม่เคยได้ยินว่าพ่อแม่มีชีวิตอยู่ แต่ไม่มีร่วมงานแต่งเลยนะ ถ้าเรื่องนี้ถูกป่าวประกาศออกไปไม่ใช่แค่เสียหน้า แต่มันไม่เป็นมงคลด้วยนะ”
พูดถึงจุดนี้ สวีลี่ฉินกัดฟันกล่าว “จางเสี่ยวม่าน ฉันขอลั่นวาจาไว้ตรงนี้ ถ้าวันนี้พ่อแม่แกไม่มา ไม่ต้องแต่งงานแล้ว!”
เมื่อพูดออกมา จางเสี่ยวม่านแทบจะใจสลาย
เธอขอความช่วยเหลือจากเซียวชูหรันและเย่เฉินอย่างทุลักทุเล กว่าจะผ่านการขัดขวางของพ่อแม่ เพื่อมาร่วมงานแต่งงาน
เดิมทีคิดว่า การแต่งงานกับซุนหงเหว่ย ต่อให้ตนต้องทะเลาะกับครอบครัวก็ถือว่าคุ้มค่า ไม่คาดคิด ว่าหลังจากที่มาถึงแล้วเพิ่งจะรู้ว่า ครอบครัวของแม่ยายมีปัญหามากมายขนาดนี้รอตัวเองอยู่
เซียวชูหรันทนดูต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เธอกล่าวอย่างเกรี้ยวกราดว่า “คุณป้าคะ รู้มั้ยว่าเพื่อการแต่งงานครั้งนี้เสี่ยวม่าน ต้องเสียเปรียบมากมายเท่าไหร่ ต้องแลกกับอะไรไปเท่าไหร่?”
สวีลี่ฉินหัวเราะแล้วกล่าว “ง่ายมาก ลูกสะใภ้ที่พวกเราอยากได้ ต้องคู่ควรเพรียกพร้อม แต่ครอบครัวจางเสี่ยวม่านจนขนาดนี้ เพื่อความสุขของลูกชายฉันก็ยอมแล้ว แต่พ่อแม่เธอจะดูถูกกันแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันทนพวกเขาก็แล้ว แต่สุดท้ายพวกเขากลับไม่ไว้หน้าฉัน? ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกเราก็ว่ากันตามความจริง ยังไงครอบครัวของเราก็เป็นตระกูลคนรวยที่มีทรัพย์สินหลายสิบล้าน ถ้าจางเสี่ยวม่านอยากแต่งเข้าครอบครัวเรา อย่างน้อยก็ต้องมีสินเดิมของฝ่ายหญิงสิบล้าน มิเช่นนั้นเลิกคุย”
เมื่อจางเสี่ยวม่านได้ยินประโยคนี้ อารมณ์ที่กดไว้มาโดนตลอด ได้ถูกอีกฝ่ายทำลายจนหมด
เธอไม่คาดคิด สวีลี่ฉินที่ลอบกัดอยู่ตรงกลางระหว่างตนและซุนหงเหว่ย จะมาลอบกัดกันอีกครั้งในตอนนี้ เอารับผิดชอบทุกอย่างมาที่ครอบครัวของตน
ด้วยเหตุนี้เอง เธอกล่าวด้วยความโกรธที่ซ่อนไว้ไม่อยู่ “ป้าสวี ถ้าป้าบอกตั้งแต่แรกว่าไม่ยอมให้ฉันแต่งเข้าไป ฉันก็จะไม่อ้อนวอนอย่างไม่หยุดหย่อนหรอกนะ แต่ป้าพลางยอมให้ฉันแต่งงานกับหงเหว่ย พลางขัดขวางแบบนี้ หมายความว่าไงกันแน่? ”
------------

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...