จางเสี่ยวม่านตกใจกับทัศนคติที่เด็ดขาดของเย่เฉินอย่างมาก
ในเวลาเดียวกัน เธอก็ตระหนักว่า เย่เฉินไม่สามารถให้เกียรตินี้แก่ตัวเองได้
ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่มองสวีลี่ฉินด้วยท่าทางขอโทษและพูดว่า: “ป้าค่ะฉันขอโทษ ในเรื่องนี้ฉันก็ทำอะไรไม่ได้จริงๆ ... ”
สวีลี่ฉินไม่คาดคิดว่าที่พึ่งสุดท้ายของตัวเองจะช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย ดังนั้นเธอจึงหันไปมองที่ซุนหงเหว่ยจากนั้นก็ร้องไห้และพูดว่า: “หงเหว่ย นายต้องช่วยแม่นะ หงเหว่ยนายได้ยินไหม! แม่อุตส่าห์เลี้ยงดูนายมาอย่างลำบากลำบน มันไม่ง่ายเลยนะ!”
เห็นเช่นนี้แล้วซุนหงเหว่ยก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา สวีลี่ฉินเป็นแม่แท้ๆของเขา อย่างไรก็ตามเขาไม่ต้องการให้พ่อแม่ของตัวเองหย่าร้างกัน และไม่อยากให้พวกเขาถูกไล่ออกจากเมืองจินหลิงด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่พ่อแม่เขาหย่าร้างกันแล้ว เขาไม่ต้องการให้พ่อแต่งงานกับแม่เลี้ยงที่มีอายุเท่าตัวเอง
ดังนั้นเขาจึงฝืนใจตัวเองและคุกเข่าขอร้องเย่เฉิน: “เย่เฉิน อาจารย์เย่ครับ โปรดให้โอกาสแม่ผมอีกครั้ง ต่อไปนี้เธอจะกลับตัวกลับใจอย่างแน่นอน!”
เย่เฉินพูดอย่างเย็นชา: “ฉันบอกไปแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างฉันกับประธานเซว์และพ่อแม่นาย สามคนนี้เย่อหยิ่งจองหอง พวกเขาเยาะเย้ยฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า แถมยังขู่ว่าจะฆ่าฉันด้วยซ้ำ นายคิดว่านายจะสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยการคุกเข่าไหว้ฉันงั้นเหรอ? เราเพิ่งพบกันวันนี้เป็นครั้งแรก นายคิดว่าตัวเองใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ในเวลานี้ซุนหงปินรีบเข้าไปดึงแขนของซุนหงเหว่ย และกล่าวว่า: “หงเหว่ยนายบ้าไปแล้วเหรอ? ถึงเวลานี้แล้วนายยังกล้าขัดใจอาจารย์เย่อีกเหรอ! รีบหุบปากซะ!”
ในเวลานี้ใจหนึ่งซุนหงปินก็รู้สึกสมน้ำหน้า ส่วนอีกใจหนึ่งเขาก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย
ที่เขารู้สึกสมน้ำหน้าเพราะเขาไม่พอใจกับการกระทำของสวีลี่ฉินมานานแล้ว ป้าคนนี้ของตัวเองอาศัยความร่ำรวยของครอบครัว มาดูถูกและเยาะเย้ยตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า สมควรแล้วที่เธอมีจุดจบแบบนี้ สะใจจริงๆ!
ส่วนความกลัวเป็นเพราะเขากลัวว่าสมาชิกทั้งสามของครอบครัวซุนหงเหว่ยจะยังคงพูดจาล่วงเกินอาจารย์เย่อย่างดื้อรั้น จนทำให้เขาโกรธและเอาผิดกับตระกูลซุนขึ้นมา เขาก็จะลำบากไปด้วย
ดังนั้นซุนหงเหว่ยไม่ต้องการให้ไฟลุกไหม้ที่ปลายเท้าของตัวเองเขาแค่อยากจะดูไฟจากชายฝั่งเท่านั้น
ในเวลานี้ เขาคิดว่าซุนหงเหว่ยลูกพี่ลูกน้องของตัวเองคนนี้กำลังเล่นกับไฟอยู่แท้ๆ และดีไม่ดีเขาอาจจะเผาโดนตัวเองด้วยซ้ำ
ถ้าเธอรู้ตั้งแต่แรก เธอก็คงไม่ทำเช่นนี้หรอก
เธออดไม่ได้ที่จะพูดกับตัวเองว่าสวีลี่ฉินเอ๊ยสวีลี่ฉิน ทำไมคุณต้องไปหาเรื่องจางเสี่ยวม่านด้วย? เยี่ยมไปเลย ตอนนี้ตัวเองได้เจอกับปัญหาใหญ่แล้ว ถ้าหากวันนี้ซุนเต๋อวั่งหย่ากับตัวเองและถูกไล่ออกจากเมืองจินหลิง แล้วเธอควรทำอย่างไรดี
เย่เฉินมองดูเวลาและพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญ: “ถ้าขืนยังชักช้าอีกก็ได้เวลา11นาฬิกาแล้ว สรุปจะแต่งหรือไม่แต่ง?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว หงห้าก็ดุสวีลี่ฉินด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “รีบไปที่สำนักงานกิจการพลเรือนเพื่อดำเนินการหย่าร้าง ถ้าขืนยังชักช้าอีก หล่อนจะถูกขับออกจากเมืองจินหลิงทันที!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สวีลี่ฉินก็ตัวสั่นด้วยความกลัวและร้องไห้อย่างขมขื่น: “ไป ไปค่ะ ฉันจะไปเดียวนี้แหละ...”
หงห้าหันไปพูดกับเซว์ซิงหลงด้วยความพึงพอใจว่า: “ไปเรียกลูกสาวของคุณแล้วตามฉันมาซะ!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...