ทันทีที่ฉินเอ้าเสวี่ยนได้ยิน น้ำตาของเธอก็ไหลออกมาเพราะความตื่นเต้นดีใจ
แม้แต่ฉินกางก็ตัวสั่นเพราะตื่นเต้นดีใจเหมือนกัน!
ถึงแม้เขาจะมีทรัพย์สินมากกว่าหมื่นล้าน เขาเป็นมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่ง สามารถให้ชีวิตที่สุขสบายแก่ฉินเอ้าเสวี่ยนไปตลอดชีวิต
แต่ในฐานะที่ตัวเองเป็นพ่อ ฉินกางก็คาดหวังให้ลูกสาวของตัวเองจะประสบความสำเร็จในสิ่งที่เธอปรารถนา
เป็นตัวแทนของประเทศไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและคว้าเหรียญทองโอลิมปิก นี่เป็นความสำเร็จที่สูงสุดของลูกสาวตัวเอง!
ในเวลานี้ฉินเอ้าเสวี่ยนรีบพยักหน้าทันที น้ำตาของเธอก็ร่วงหล่นในอากาศ และเธอก็พูดอย่างตื่นเต้นและหนักแน่น:“ฉันเต็มใจที่จะเป็นตัวแทนของประเทศ!”
ประธานโล๋พูดด้วยความปลาบปลื้ม:“มันเป็นเรื่องที่ดีมากๆที่เธอรับปากเป็นตัวแทนของประเทศ ฉันจะเป็นคนติดต่อกับเย่นจิงให้เอง ถ้าหากมีการเรียกตัวนักกีฬาทีมชาติเข้าไปฝึกซ้อม ฉันจะไปบ้านของคุณเพื่อแจ้งให้คุณทราบ ฉันเชื่อว่าด้วยความสามารถของคุณ คุณสามารถคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันโอลิมปิกสำเร็จแน่นอน!”
หลังจากที่ประธานโล๋จากไป ฉินเอ้าเสวี่ยนและพ่อนั่งร้องไห้ด้วยกันในห้องรับรองหลังเวที
ฉินกางดีใจมากๆ เพราะวันนี้เอ้าเสวี่ยนสามารถชนะการแข่งขันในครั้งนี้ มันเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของวงศ์ตระกูล แต่ไม่คาดคิดเลยว่าลูกสาวของเธอจะมีโอกาสได้รับการคัดเลือกเข้าทีมชาติ และเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งต่อไป
ฉินกางร้องไห้ไปสักพักแล้วเช็ดน้ำตาของตัวเอง มองไปที่เย่เฉิน คุกเข่าข้างเดียวและกำมือคารวะแบบจีนและพูด:“อาจารย์เย่! ลูกสาวของฉันประสบความสำเร็จในวันนี้ เพราะได้รับการช่วยเหลือทุกอย่างจากอาจารย์เย่ อาจารย์เย่เป็นผู้มีพระคุณที่สุดของตระกูลฉิน ขอให้อาจารย์เย่โปรดรับการคารวะจากฉันด้วย!”
ฉินเอ้าเสวี่ยนก็รีบเดินตามหลังพ่อของตัวเอง เธอคุกเข่าข้างเดียวและพูด:“อาจารย์เย่ โปรดรับการคารวะจากเอ้าเสวี่ยนด้วย!”
ฉินเอ้าตงเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็รีบคุกเข่าทันทีโดยไม่ลังเล:“อาจารย์เย่ โปรดรับการคารวะจากเอ้าตงด้วย!”
เย่เฉินพูดกับฉินเอ้าเสวี่ยนด้วยรอยยิ้ม:“เอ้าเสวี่ยน ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เธอต้องพยายามให้มากๆ ต้องสร้างชื่อเสียงให้ประเทศในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกให้ได้”
ฉินเอ้าเสวี่ยนพยักหน้าและร้องไห้ พูดด้วยความหนักแน่น:“อาจารย์เย่โปรดวางใจ ฉันจะไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอย่างสุดความสามารถ!”
...
เดิมทีฉินกางอยากจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้ลูกสาวที่เทียนเซียงฝู่ ในขณะเดียวกันเขาก็อยากจะเชิญเย่เฉินมาร่วมงานด้วย
ในเวลานี้ จู่ๆกู้ชิวอี๋ก็โทรศัพท์มาหาเขา
ในสายโทรศัพท์ กู้ชิวอี๋รีบถามทันที:“พี่เย่เฉิน ยากระเพาะเก้าเสวียนของพี่ออกสู่ตลาดก็ขายดีมากๆ ฉันขอแสดงความยินดีกับพี่ด้วย”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม:“มีดาราชั้นแนวหน้าอย่างเธอเป็นพรีเซนเตอร์ มันก็ต้องขายดีอยู่แล้ว!”
กู้ชิวอี๋พูด:“ในเย่นจิงมีร้านขายยาหลายแห่งขายหมดสต็อกไปแล้ว หวงหนิวเพิ่มราคาจากกล่องละหนึ่งร้อยหยวนเป็นห้าร้อยหยวน แต่มันก็มีคนต้องการเยอะจนตอนนี้ขาดตลาดไปแล้ว!”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม:“ดูเหมือนว่าดาราชั้นแนวหน้าอย่างเธอมีอิทธิพลมากจริงๆ!”
“ไม่เกี่ยวกับฉันเลย” กู้ชิวอี๋พูดอย่างจริงจัง:“เป็นเพราะยาของคุณมีประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่มันยอดเยี่ยมมากๆ ยาตัวนี้มันดีมากๆ ถึงไม่มีพรีเซนเตอร์ก็คงได้รับการยอมรับจากลูกค้าอย่างแน่นอน”
ขณะพูด เธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ:“พี่เย่เฉิน พี่จะมาเย่นจิงเมื่อไหร่?สุขภาพร่างกายของพ่อฉัน ช่วงนี้ไม่ค่อยดีเลย...”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...