พอคิดถึงบิดาของกู้ชิวอี๋ว่ากู้เย้นจงร่างกายมีอาการทรุดลง เขาก็เอ่ยปากถามว่า “ลุงกู้ยังสบายดีอยู่ไหม?”
“ไม่ดีเท่าไหร่...” กู้ชิวอี๋น้ำเสียงหม่นลงเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ไม่ดีเท่าไหร่ หมอแนะนำให้มานอนโรงพยาบาลใหม่อีกรอบ พ่อฉันไม่ค่อยอยากไป ฉันเห็นว่าสภาพจิตใจท่านห่อเหี่ยวลง อาจเป็นเพราะยอมรับชะตาชีวิตบ้างแล้ว ไม่อยากทรมานต่อไปอีก ท่านมักรู้สึกว่าตอนอยู่โรงพยาบาลได้รับการรักษาแต่ละครั้งทำให้ดูไร้ศักดิ์ศรีอย่างมาก... พี่อาจจะไม่ค่อยรู้จักนิสัยเขาดีเท่าไหร่นัก แต่แม่ฉันบอกว่า นิสัยซื่อตรง ไม่ฟังใคร เขากับพ่อพี่นิสัยเหมือนกันเปี๊ยบ ราวกับพี่พี่น้องแท้ๆ กันอย่างไรอย่างนั้น...”
เย่เฉินรู้ ยิ่งคนที่มีหน้าตามากเท่าไหร่ พอถึงเวลาป่วยหนัก กลับไม่อยากฝืนที่จะมีชีวิตอยู่เท่าไหร่นัก
โดยหลักแล้วเป็นเพราะพวกเขามีหน้าตามาหลายปีขนาดนั้น จึงให้ความสำคัญกับหน้าตาและศักดิ์ศรีเป็นพิเศษ ไม่อยากอยู่จนวันสุดท้ายของชีวิต เพื่อเพิ่มช่วงเวลาชีวิตที่มีอยู่จำกัดให้นานขึ้น ก็ต้องวางหน้าตาและศักดิ์ศรีทั้งหมดของตัวเองลง
เย่เฉินถึงขั้นเคยได้ยินว่า คนใหญ่คนโตส่วนมากยามป่วยหนัก ล้วนเซ็นยินยอมไม่ให้ยื้อชีวิต หากชีวิตเดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ก็ห้ามสอดท่อ ห้ามผ่าตัดและห้ามใส่เครื่องช่วยหายใจ เพียงเพื่อให้ตนเองจากไปอย่างมีศักดิ์ศรี
ดูท่าตอนนี้กู้เย้นจงคงจะเริ่มวางแผนเรื่องงานศพแล้ว
โชคดีตอนที่ตนเองกับกู้ชิวอี๋ได้มาพบกันอีกครั้งเป็นจังหวะค่อนข้างประจวบเหมาะ ไม่อย่างนั้นหากรอหลังจากที่กู้เย้นจงจากโลกนี้ไปแล้วค่อยพบกัน เช่นนั้นตนเองคงไร้หนทางที่จะช่วยรักษาชีวิตของกู้เย้นจงได้แล้ว
ด้วยเหตุนี้เขาจึงกล่าวถ้อยคำให้กำลังใจออกไปว่า “เรื่องนี้ไม่ต้องกังวลขนาดนั้น พอฉันไปถึงแล้วจะช่วยแก้ไขให้พวกเธอเอง”
กู้ชิวอี๋พูดอย่างสะอึกสะอื้นว่า “ขอบคุณนะพี่เย่เฉิน พี่สามารถมาพบพ่อได้ เขาน่าจะดีใจมาก!”
เย่เฉินไม่อยากพูดกับกู้ชิวอี๋มากเกินไป เพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกต่งรั่งหลินที่อยู่ข้างๆ จับใจความสำคัญในบทสนทนาออก ดังนั้นจึงเอ่ยปากพูดว่า “งั้นแค่นี้ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวเครื่องจะออกแล้ว ต้องปิดมือถือ”
กู้ชิวอี๋รีบกล่าวขึ้นว่า “ได้เลย พี่เย่เฉิน ฉันรอพี่อยู่ที่เย่นจิงนะ!”
เย่เฉินวางสาย ต่งรั่งหลินที่อยู่ข้างๆ กล่าวยิ้มๆ อย่างทนไม่ไหวว่า “ตายจริง เย่เฉินตอนนี้คุณช่างร้ายกาจจริงๆ มิน่าคนอื่นๆ ต่างเรียกคุณว่าอาจารย์เย่ ได้ยินน้ำเสียงที่โทรมาหาคุณเมื่อกี้ดูเหมือนเจ้าตัวจะรอคุณไปช่วยดับไฟอยู่!”
เย่เฉินยิ้มน้อยๆ “ศาสตร์อย่างฮวงจุ้ยนี้บางครั้งก็เป็นเช่นนี้ ไม่เกิดปัญหาก็แล้วไป แต่พอเกิดปัญหาขึ้นมา ก็มักจะเร่งด่วนขึ้นมาทันที”
เวลานี้ แอร์โฮสเตสสาวสวยบุคลิกดี ก็เริ่มเตือนทุกคนให้รัดเข็มขัดนิรภัยให้ดี เพราะเครื่องเตรียมจะออกจากลานจอดแล้ว
จากนั้นเครื่องบินก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ จนมาถึงปลายของลานวิ่ง หลังวิ่งจนได้ความเร็วที่เพียงพอแล้ว ก็ทะยานขึ้นสู่อากาศ
ระหว่างเดินทางต่งรั่งหลินตื่นเต้นอย่างมาก หาหัวข้อสนทนามาคุยกับเย่เฉินที่อยู่ข้างๆ ไม่ขาด
แต่จิตใจของเย่เฉินกลับอยู่ที่เย่นจิงตลอดเวลา โดยเน้นไปที่ความทรงจำในวัยเด็กของตนเอง
หลังจากบินอยู่หนึ่งชั่วโมงสี่สิบนาที เครื่องบินก็ค่อยๆ ลดต่ำลง สู่ลานวิ่งของสนามบินนานาชาติเย่นจิงอย่างมั่นคง
เวลานี้หัวใจของเย่เฉินพลันเต้นโลดขึ้นมา ตะโกนก้องอยู่ในใจว่า “เย่นจิง ฉันกลับมาแล้ว!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...