ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 1510

ที่จริงแล้ว เธอเหมือนกันกับเซียวชูหรัน ก็คือแฟนคลับของกู้ชิวอี๋ หากไม่ใช่เพราะเย่เฉินอยู่ที่นี่ เกรงว่าเธอคงจะพุ่งเข้าไปถ่ายรูปคู่กับกู้ชิวอี๋ตั้งนานแล้ว

ดังนั้น ต่งรั่งหลินอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้นอย่างลองหยั่งเชิง “เย่เฉิน คุณรู้จักกับคุณกู้ได้ยังไงกันหรอ?”

เย่เฉินชั่วขณะยังคิดไม่เรียบร้อยว่าควรจะตอบคำถามของต่งรั่งหลินยังไงดี

หากบอกว่ากู้ชิวอี๋เป็นลูกค้าดูฮวงจุ้ยของตนเอง งั้นตนเองจูงมือกับลูกค้ามาเล่นรถสเก็ตน้ำแข็งที่ทะเลสาบโห้วไห่ นี่ไม่สอดคล้องกับเหตุผลอย่างเห็นได้ชัด

แต่หากบอกว่ากู้ชิวอี๋คือเพื่อนเล่นที่ตนเองรู้จักมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ เพียงครู่เดียวก็จะเปิดเผยสถานะของตนเองอีก

ถึงอย่างไร ตนเองในสายตาของต่งรั่งหลิน ก็คือเด็กกำพร้าคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เมืองจินหลิงมาโดยตลอด

เด็กกำพร้าคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ในจินหลิงมาตั้งแต่เล็ก จะรู้จักคุณหนูตระกูลกู้แห่งเย่นจิงได้ยังไงกันอีกล่ะ? นี่ไม่สอดคล้องกับเหตุผลอย่างเห็นได้ชัด

ดังนั้นเย่เฉินคิดว่า ภายใต้เงื่อนไขเบื้องต้นที่จะไม่เปิดเผยสถานะของตนเอง เรื่องนี้ดูเหมือนจะยากมากที่จะอธิบายกับต่งรั่งหลินให้เข้าใจได้

แต่ในขณะที่เขากำลังลังเลอยู่นั้น กู้ชิวอี๋ก็ถือโอกาสเอ่ยปากตอบในเวลานี้พอดี “ฉันกับพี่เย่เฉินรู้จักกันมาตั้งแต่ตอนที่ยังเด็กมากๆแล้วค่ะ!”

ต่งรั่งหลินฟังจบ ตกตะลึงจนอ้าปากค้างในชั่วพริบตา!

เธอสงสัยขึ้นมาในทันที แอบคำนวณในใจ “เย่เฉินใช้ชีวิตอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจินหลิงมาตั้งแต่เด็ก หลังจากที่ออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตอนอายุสิบแปด เขาก็ทำงานอยู่ที่สถานที่ก่อสร้าง จากนั้นพบเข้ากับคุณปู่ของชูหรัน คุณปู่ของชูหรันจัดการให้เขาไปเรียนที่มหาวิทยาลัยจินหลิงหนึ่งปี จากนั้นเขาก็แต่งงานกับชูหรันแล้ว…”

“หากคำนวณเช่นนี้ เส้นทางชีวิตของเย่เฉิน ก็คงจะไม่เคยออกไปจากจินหลิง งั้นเขารู้จักกับคุณหนูตระกูลกู้ได้ยังไงกันล่ะ? สถานะของสองคนนี้พูดได้ว่าคนหนึ่งฟ้าคนหนึ่งดิน ตรงกลางขาดไปไม่รู้กี่ระดับ!”

“หรือว่า ในตัวของเย่เฉินมีความลับอะไรที่ตนเองไม่รู้?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน