พนักงานขมวดคิ้ว พร้อมกับพูดว่า "คุณผู้ชายคะ ราคาขายของกระเป๋าใบนี้อยู่ที่ 58,000 หมื่นหยวนนะคะ"
เย่เฉินส่งเสียงอืมไปทีหนึ่ง แล้วพูดว่า "ไม่มีปัญหาครับ ผมจะซื้ออันนี้แหละครับ"
พนักงานพูดอีกครั้งว่า "ขอโทษด้วยนะคะคุณผู้ชายซื้อกระเป๋าใบนี้ต้องมีการประกอบการซื้อสินค้านะคะ"
เย่เฉินถามด้วยความประหลาดใจว่า "ประกอบการซื้อสินค้าหมายความว่ายังไง? กระเป๋าใบนี้ไม่สามารถจ่ายโดยตรงได้เหรอครับ?"
พนักงานหัวเราะด้วยความเหยียดหยาม "คุณผู้ชายคะ คุณผู้ชายมาที่แอร์เมสของพวกเราครั้งแรกเหรอคะ? คุณผู้ชายคงไม่เคยซื้อสินค้าจากแอร์เมสมาก่อนเลยเหรอคะ?”
เย่เฉินพยักหน้า “ใช่ครับ ทำไมเหรอครับ? มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”
พนักงานส่งเสียงฮื้อพร้อมกับพูดว่า “กระเป๋าส่วนใหญ่ของแอร์เมส ไม่ใช่ว่าคุณอยากซื้อก็จะซื้อได้ตามต้องการ ถ้าเป็นสินค้าราคาต่ำในราคา 3 แสนหยวนลงมาหรือสินค้าพื้นฐานคุณสามารถคัดเลือก หรือซื้อได้ตามสบาย แต่สำหรับในราคา 3 แสนหยวนขึ้นไปนั้น มันเป็นสินค้ารุ่นจำนวนจำกัดค่ะ!"
"คุณอย่ามองนะคะว่าราคากระเป๋าใบนี้ในร้านจะแค่ 58,000 หมื่นหยวน และตราบใดที่ซื้อออกไป ก็จะสามารถขายในราคา 700,000 หยวนหรือ 800,000 หยวนทันทีได้เลย ดังนั้น ถ้าคุณต้องการซื้อกระเป๋าใบนี้ ไม่อย่างงั้นก็คงต้องเป็นสมาชิกระดับพรีเมียมของแอร์เมสแล้วค่ะ นอกจากนี้คุณยังต้องนัดหมายกับผู้จัดการร้านของเราล่วงหน้าให้ได้ก่อนถึงจะสามารถซื้อได้ หรือว่า คุณอาจต้องซื้อสินค้าแบบประกอบการสั่งซื้อในจำนวนเงินที่แน่นอนอื่นๆ ซึ่งสินค้าอื่นๆ ก็ไม่สามารถเป็นสินค้ายอดนิยมได้ด้วย ดังนั้นจะต้องซื้อกระเป๋าใบนี้ในราคา 500,000 หยวนถึงจะได้ค่ะ"
เย่เฉินขมวดคิ้วอย่างแน่นหนา “ตามที่คุณหมายถึงคือ ถ้าผมต้องการซื้อกระเป๋าใบนี้ผมต้องซื้อสินค้าอย่างอื่นในราคา 500,000 หยวนก่อนงั้นเหรอครับ?”
“ใช่แล้วค่ะ” พนักงานยิ้ม “แอร์เมสจากทั่วโลกล้วนปฏิบัติตามกฎข้อนี้ค่ะ คุณไม่รู้เหรอคะ? หรือว่าคุณอยากจะลองเสี่ยงโชคดูเพราะอยากหลอกซื้อกระเป๋าใบนี้จากร้านของเราไปเพื่อหารายได้ทางลัดงั้นเหรอคะ?"
สำหรับสินค้าหรูหราชั้นนำอย่างนี้ กระเป๋าถือรุ่นจำนวนจำกัดของเขามันมีอัตราการเก็บรักษาที่สูงมากอย่างน่าตกใจ
แม้แต่หลายแบบที่วางขายในตลาดมือสองยังแพงมากกว่าของมือหนึ่งเลย สาเหตุก็คือกลยุทธ์การกระตุ้นความอยากให้ลูกค้าของแอร์เมส
แบรนด์อื่นๆ แค่จ่ายเงินก็สามารถซื้อได้แล้ว แต่แอร์เมสน่ะทำไม่ได้ค่ะ
เพราะราคาภายนอกนั้นแพงกว่าในร้านค้ามาก ดังนั้นถ้าคุณต้องการซื้อของจากร้านตามราคาที่กำหนดคุณจะต้องซื้อสินค้าประกอบการสั่งซื้ออื่นๆ ในราคาไม่กี่แสนหรือกระทั่งหลายล้านหยวนค่ะ
ถ้าคิดตามแบบนี้ การที่คุณต้องการซื้อกระเป๋ารุ่นจำนวนจำกัด คุณจะต้องจ่ายล้านหยวนขึ้นไปค่ะ
แต่อย่างไรก็ตามแอร์เมสก็เฉลียวฉลาดเช่นกัน ถ้าเป็นการประกอบการสั่งซื้อ คงไม่สามารถซื้อสินค้ายอดนิยมของพวกเขาได้ซึ่งจะซื้อได้เฉพาะสินค้าที่ขายไม่ออกเท่านั้น
จากนั้นเสียงของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้น "ไม่ดูแล้ว เราจะต้องไปที่ประตูเช็กอินแล้วนะ"
ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างอ้อนวอนว่า "ยังเหลืออีกตั้งครึ่งชั่วโมงค่อยเช็กอิน พาฉันไปช้อปปิ้งหน่อยนะ!"
ชายคนนั้นพูดอย่างจนปัญญาว่า "ได้ แต่ช้อปปิ้งได้แค่ 20 นาทีเองนะ!"
"ทานากะซังเนี้ยใจดีมากเลย!"
จากนั้นชายหญิงวัยรุ่นคู่หนึ่งก็สาวเท้าเข้ามา
เย่เฉินมองแค่แวบเดียวก็จำชายคนนั้นได้แล้วเขาไม่ใช่ทานากะซังคนนั้นที่ก่อนหน้านี้มักจะอยู่ข้างๆ อิโตะ นานาโกะเหรอ?
เขา มาปรากฏตัวที่นี่ได้ยังไงกัน?

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...