สำหรับการแสดงความรักที่ไม่มีความเจียมตัวเลยสักนิดของต่งรั่งหลินเย่เฉินเย็นชากับมันไปตั้งนานแล้ว
ดังนั้นเขาจึงพย่าามทำให้เป็นเหมือนกับว่าต่งรั่งหลินกำลังหยอกล้อกับตัวเขาเองเขาจึงเปลี่ยนเรื่องทันที พร้อมกับถามเธอว่า “ใช่แล้ว ขงเต๋อหลงลูกพี่ลูกน้องของคุณน่ะปั่นจักรยานไปถึงไหนแล้วเนี่ย?”
ต่งรั่งหลินเบะปากอย่างเซ็ง ซึ่งเธอก็รู้ว่า ที่จริงแล้วเย่เฉินมักจะหลีกเลี่ยงตัวเองในเรื่องความรู้สึกมาโดยตลอด ดังนั้นเธอจึงเคยชินกับท่าทีแบบนี้ของเย่เฉิน เมื่อเห็นว่าเขาเปลี่ยนเรื่อง ก็พูดกับเขาว่า เมื่อเช้าได้ยินมาว่าไปถึงเมืองจินไห่แล้ว แต่ก็ได้ยินมาเหมือนกันว่านอนอยู่ใต้สะพานตอนกลางคืน เลยเป็นหวัดนิดหน่อย”
เย่เฉินยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ถ้าเขาปั่นไปถึงเมืองจินหลิง สมรรถภาพทางกายคงจะพัฒนาไปได้ไกลมาก”
ต่งรั่งหลินส่งเสียงหัวเราะเบาๆ “ที่จริงการลงโทษแบบนี้ของคุณ สำหรับเขาแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องดีเหมือนกันนะ ลูกพี่ลูกน้องคนนี้ของฉันมักจะยโสโอหังจนเคยตัวและมักสร้างปัญหาให้กับครอบครัวอยู่ตลอด เพราะเมื่อก่อนเขาไม่เคยยากลำบากมาก่อน เขาเลยไม่เข็ด แต่ฉันก็เชื่อว่าหลังจากครั้งนี้ไป เขาจะเจียมตัวขึ้นมาหน่อย”
เย่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย “ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าคุณในช่วงงานเลี้ยงผมคงต้องให้เขากลืนจี้หยกนั้นไป และให้เขาผ่าตัดนำมันออกอีกครั้ง เพราะคนแบบนี้ บาดแผลที่หายแล้วก็จะลืมว่าเคยเจ็บ ดังนั้นจะต้องสร้างบาดแผลใหม่เขาถึงจะได้เข้าใจว่าอะไรที่เรียกว่าความรู้สึกลึกซึ้งที่ไม่มีวันลืม
ต่งรั่งหลินมองไปที่เย่เฉินพร้อมกับพูดว่า “รู้อยู่ว่าเป็นเพราะคุณเห็นแก่หน้าฉันถึงได้ยอมให้อภัยเขา ไว้ให้ลูกพี่ลูกน้องของฉันมาถึงที่เมืองจินหลิงแล้ว ฉันจะพาเขาไปชวนคุณทานข้าวด้วยกันให้เขาเลี้ยงเหล้าเพื่อเป็นการขอโทษคุณ”
เย่เฉินโบกมือ “ทานข้าวเลี้ยงเหล้าอะไรแค่นี้ก็พอแล้วให้เขาปรับปรุงตัวใหม่อย่างซื่อสัตย์ที่เมืองจินหลิงก็แล้วกัน ถ้าเขาทำดี บางทีอาจให้เขากลับล่วงหน้าก็ได้แต่ถ้าทำตัวไม่ดี ก็จะยึดเวลาออกไปได้ทุกเมื่อ”
ต่งรั่งหลินยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วพูดว่า “คุณอย่าเอาแต่เข้มงวดขนาดนี้เลย ถ้าในอนาคตพวกเราทั้งสองคนได้อยู่ด้วยกันจริงๆ เขาอาจเป็นพี่เขยของคุณนะ แม้ว่าเขาจะเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้อง แต่เขาก็เป็นพี่เขยคุณนะ!"
เย่เฉินส่ายหัวอย่างจนปัญญา "นี่คุณจะใช้มุกนี้ทั้งวันเลยเหรอ..."
"แหะๆ" ต่งรั่งหลินพูดด้วยรอยยิ้มว่า "แล้วใครทำให้ฉันชอบคุณกันล่ะ? ยังไงก็ตามฉันก็พร้อมเสมอนะ ถ้าวันไหนคุณคิดได้แล้ว ก็มาหาฉันได้ทุกเมื่อ!"
เย่เฉินไม่ได้สนในสิ่งที่เธอเพิ่งพูดไปเลย แต่เขากลับเงยหน้าขึ้นมองไปที่หน้าจอขนาดใหญ่แวบหนึ่งแล้วพูดว่า "เอ๊ะ ดูเหมือนว่าเที่ยวบินของพวกเราจะเริ่มให้ผู้โดยสารที่นั่งโดยสารชั้นหนึ่ง และที่นั่งโดยสารชั้นธุรกิจขึ้นเครื่องแล้วเราไปกันเถอะ"
ต่งรั่งหลินส่งเสียงอืม เธอลุกขึ้นเก็บสัมภาระไปด้วยพร้อมกับถามไปโดยไม่คิดว่า "คุณได้บอกชูหรันแล้วหรือยังว่าวันนี้เราจะกลับไปด้วยกัน?"
เย่เฉินพยักหน้า "ผมบอกไปแล้วในวีแชทเมื่อคืนนี้"
“ขึ้นแล้ว” เย่เฉินพูดว่า อีก 20 นาทีก็จะออกบินแล้วล่ะ
เซียวชูหรันถามอีกว่า “รั่งหลินอยู่กับคุณด้วยใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว” เย่เฉินพยักหน้า “นั่งข้างๆ ผมเลย”
เซียวชูหรันพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณต้องดูแลเธอให้ดีๆ นะ”
เย่เฉินพูดอย่างจนปัญญาว่า "ผมไม่ได้เป็นคนขับเครื่องบินสักหน่อย และตลอดการเดินทางก็มีแอร์โฮสเตสคอยดูแลเรื่องอาหารการกินและเครื่องดื่มของทุกคนแล้วผมจะดูแลเธอยังไงกันล่ะ..."
ต่งรั่งหลินที่อยู่ข้างๆ จงใจเข้าเอนตัวเข้ามาใกล้ที่มือถือ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "คุณสามารถกอดฉันเมื่อต้องเจอกับกระแสอากาศสั่นสะเทือนบนเครื่องบินได้นะฉันจะได้ไม่จะโดนเหวี่ยงออกไป... "
เซียวชูหรันคิดว่าต่งรั่งหลินแค่ล้อเล่น เธอจึงยิ้มและพูดว่า "เธอต้องรัดเข็มขัดนิรภัยให้ดีๆ นะ ไม่อย่างนั้นถ้าเย่เฉินเกิดกอดเธอขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวขึ้นจริงๆ นี่เธอจะทำยังไง?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...