เฉียนหงเย่นเดินตามหลังคนของตระกูลเซียว เข้าไปในร้านอาหารด้วยความขุ่นเคืองที่มีต่อนายหญิงใหญ่เซียว
นายหญิงใหญ่เซียวนั่งลงบนที่นั่งหลักของโต๊ะอาหารโดยตรง และเหลือบมองไปยังอาหารที่เฉียนหงเย่นทำไว้ เธอขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจและพูดว่า “ทำไมมีแต่อาหารแบบพื้นบ้านทั้งหมดล่ะ? ไม่มีอาหารจานพิเศษอะไรเลยแม้แต่จานเดียว ไม่รู้ว่าฉันแก่แล้ว จะต้องบำรุงร่างกายบ้างงั้นหรือ?”
เฉียนหงเย่นพูดด้วยความน้อยใจเล็กน้อย “แม่ เรื่องนี้คุณจะโทษฉันไม่ได้ คุณเป็นผู้ถือเงินในครอบครัวเอง ฉันมีเงินทั้งหมดเพียงไม่กี่ร้อยหยวนเท่านั้น มันจะพอซื้อเนื้อสัตว์ได้สักที่ไหน?”
นายหญิงใหญ่เซียวตะคอกอย่างเย็นชาและพูดว่า “หาข้ออ้างเก่งนัก มีหลายร้อยหยวนคุณก็ซื้อไก่มาตุ๋นสักตัวก็ยังดีหรือเปล่า? ไก่บ้านตัวหนึ่งก็แค่ร้อยกว่าหยวนเท่านั้น หรือคุณจะซื้อไม่ได้งั้นเหรอ?”
เฉียนหงเย่นรู้สึกโกรธเคืองมากอยู่ในใจ และพูดว่า “แม่ ในครอบครัวมีคนกินข้าวตั้งห้าคน คุณไม่ให้ค่าครองชีพแก่ฉันเลย ถึงฉันจะเป็นแม่ครัวที่เก่งและฉลาดฉันก็ไม่สามารถทำอาหารได้โดยที่ไม่มีวัตถุดิบเลย อย่างน้อยในอาหารมื้อนี้ยังมีเนื้อหมูอยู่ในวันนี้ และมื้อต่อไปอาจจะไม่มีเนื้อกินเลยด้วยซ้ำ”
นายหญิงใหญ่เซียวจ้องมองเธอ “ค่าครองชีพไม่มีปัญหา แต่คุณต้องรายงานบัญชีรายรับรายจ่ายตามจำนวนที่ใช้จ่ายจริง ต่อไปนี้คุณก็ไปซื้อกับข้าวที่ซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าเป็นทางการ และมาเบิกเงินกับฉันพร้อมกับใบเสร็จรับเงิน”
เฉียนหงเย่นรู้ว่า นายหญิงใหญ่กลัวว่าตัวเองจะเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองจริงๆ
เฉียนหงเย่นรู้สึกรังเกียจเล็กน้อย ที่คิดว่าเธออาจจะต้องรายงานบัญชีกับนายหญิงใหญ่ทุกวัน กับเงินซื้อกับข้าวเพียงหลายร้อยหยวน
แต่เธอก็ไม่เคยแสดงออกมาเลย เพียงแค่พูดอย่างไม่ลังเลว่า “ตกลง ในเมื่อคุณแม่ไม่คิดว่ามันจะลำบากเกินไป งั้นต่อไปนี้เราก็มาทำบัญชีกันวันต่อวัน”
นายหญิงใหญ่เซียวยิ้มอย่างประชดประชัน “ฉันไม่รู้สึกว่ามันจะลำบากเลย นายหญิงใหญ่อย่างฉันมีพลังมากมาย”
“หนึ่งแสน?!” นายหญิงใหญ่เซียวตะคอกอย่างเย็นชา “คุณคิดว่าเงินของบ้านเรามาตามสายลมจริงๆ เหรอ?”
เซียวเวยเวยกล่าวอย่างน้อยใจเล็กน้อยว่า “คุณย่า ประธานอู๋เขาไม่ใช่เอามาให้พวกเราตั้งหลายสิบล้านเลยเหรอ เงินในบัญชีของบริษัทก็ยังมีมากพอสมควร หนึ่งแสนหยวนมันไม่ได้ถือเป็นอะไรเลยสำหรับเรา!”
นายหญิงใหญ่เซียวพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ไม่ถือเป็นอะไรงั้นเหรอ? ฉันจะบอกคุณนะว่า ก็เพราะมีความคิดที่ว่าเงินหนึ่งแสนไม่ถือเป็นอะไร และสองแสนก็ไม่ถือเป็นอะไรเหมือนกัน แม้กระทั่งหนึ่งล้านก็ไม่ถือเป็นอะไรตลอดมา ดังนั้นถึงทำให้บริษัทเซียวซื่อสูญเสียทีละน้อยจนล้มละลาย! ดังนั้นนับจากนี้ไป เราจะต้องยึดมั่นโอกาสที่จะเกิดใหม่จากเถ้าถ่านในครั้งนี้ไว้ จะต้องไม่ทำผิดพลาดเหมือนในอดีตอีกต่อไป!”
เซียวเวยเวยก็รู้สึกไม่มีความสุขเล็กน้อย และพึมพำด้วยอารมณ์เล็กน้อย “ผ่านวันเวลาที่ยากลำบากยาวนานมามากแล้ว ตอนนี้ฉันไม่มีเครื่องสำอางดีๆ สักชุดเลยด้วยซ้ำ และต่อไปหากจะต้องออกไปคุยเรื่องธุรกิจและการร่วมมือ ด้วยหน้าโทรมผมยุ่งเช่นนี้ มันก็จะเสียชื่อเสียงของบริษัทเซียวซื่อของเรา อีกอย่าง กระเป๋าของฉันถูกขายในราคาถูกเพื่อนำมาดำรงชีวิตอยู่ก่อนหน้านี้ ตอนนี้ฉันไม่มีกระเป๋าที่ดีสักใบเลย หากออกไปข้างนอกแล้วจะโดนคนอื่นหัวเราะเอาได้”
นายหญิงใหญ่เซียวโบกมือด้วยความไม่อดทนเล็กน้อย “เอาล่ะ อย่ามาไม้นี้กับฉัน ปัญหาเรื่องกระเป๋าแก้ได้ง่ายๆ ก็แค่ซื้อของปลอมสักใบหนึ่งก็พอแล้ว ซื้อ Hermes ของปลอมสักใบ พกออกไปมันก็พอมีหน้ามีตาอยู่ไม่ใช่เหรอ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...