อันที่จริงเธอก็รู้ว่า ตอนนี้ทากาฮาชิ เอคิจิมีจุดจบแบบนี้ ก็คือหาเรื่องใส่ตัว
แต่เธอยังคงหวังว่าจะวิธีการใช้เหตุผล ด้วยการชักจูงด้วยความเป็นมิตร ทำให้เย่เฉินก็จะวางมือนี้ และอย่าได้หักแขนทั้งสองของทากาฮาชิ เอคิจิจริงๆ
แม้ว่าซูจือหยูอายุจะไม่มาก แต่ได้รับการศึกษาที่ยอดเยี่ยมมาตั้งแต่อายุยังน้อย และอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาหลายปี ดังนั้นจึงถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะทางธุรกิจของมาตรฐาน
ดังนั้น เธอทำเรื่องอะไร ก็รู้ดีแก่ใจแล้ว
ตัวอย่างเช่นในครั้งนี้ ในฐานะตัวแทนของตระกูลซู มาเจรจาการร่วมลงทุนกับตระกูลทากาฮาชิ ยังไม่ได้เจรจาการร่วมลงทุนกัน ทากาฮาชิ เอคิจิถูกคนทำร้ายจนพิการ ถ้าตัวเองเฝ้าดูด้วยความนิ่งดูดาย เรื่องนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตามค่อนข้างไม่เหมาะสม ไม่เพียงดูเหมือนว่าตัวเองค่อนข้างไม่ยึดหลักคุณธรรม ที่สำคัญยังส่งผลกระทบต่อรายละเอียดส่วนย่อยและความคืบหน้าของทั้งสองตระกูลที่ตามมาทีหลัง
ดังนั้น ด้วยความมิตรด้วยเหตุผลด้วยผลประโยชน์ เธอก็ต้องออกหน้ามาห้ามไว้
แม้ว่าการห้ามของตัวเองจะไม่มีประโยชน์อะไรทากาฮาชิ เอคิจิก็ยังถูกเย่เฉินหักแขน อย่างน้อยตัวเองก็เคยได้พยายามแล้ว สำหรับภายในใจของตัวเองสำหรับเกียรติของตระกูลทากาฮาชิ ก็สามารถมีคำอธิบายได้
แน่นอน สถานการณ์ที่ดีที่สุด ก็คือหลังจากที่ตัวเองออกหน้าแล้ว ชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้ สามารถพอที่จะให้เกียรติตัวเอง เห็นว่าพอดีก็วางมือแล้วปล่อยทากาฮาชิ เอคิจิไปครั้งหนึ่ง
ด้วยแบบนี้ ตัวเองไม่เพียงแต่ข้างในใจและความมีเกียรติพอยอมรับไปได้ ตระกูลทากาฮาชิยังเป็นหนี้บุญคุณตัวเองด้วย ผลที่จะตามมาตอนที่เจรจารายละเอียดเฉพาะของการร่วมลงทุน ตัวเองถึงขนาดสามารถใช้เรื่องนี้ มาขอเพิ่มผลประโยชน์ที่มากมายกับตระกูลทากาฮาชิได้
แต่ว่า สิ่งที่เธอคาดไม่ถึงคือ ความเกลียดชังในอารมณ์ของหมอนี่ช่างรุนแรงเหลือเกิน!
เมื่อเห็นท่าทีนี้ของเขา คือต้องการที่จะหักแขนของทากาฮาชิ เอคิจิให้ได้!
ดังนั้น เธอจึงระงับความโกรธในใจไว้ และเอ่ยปากพูดว่า: “คุณผู้ชายท่านนี้ ฉันคือเย่นจิง…”
ยังพูดไม่จบ เย่เฉินก็ขัดจังหวะเธอในทันที และพูดด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย: “คุณผู้หญิงท่านนี้ คุณไม่จำเป็นต้องบอกกับฉันว่าคุณเป็นใคร ฉันก็ไม่ได้อยากรู้ คุณก็อย่าได้พยายามใช้ฐานะของคุณมากดขี่ฉัน เพราะต่อให้คุณเป็นราชาแห่งสรวงสวรรค์ เรื่องราวของวันนี้ฉันก็ไม่มีทางให้เกียรติเธอ ได้ยินชัดเจนมั้ย?”
อารมณ์ของซูจือหยูก็ค่อนข้างทนไม่ไหวแล้ว!
ตั้งแต่เล็กจนโต ยังไม่มีใครกล้าใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับเธอ
เย่เฉินส่ายหน้า: “อย่าได้คิดเข้าข้างตัวเองไปฝ่ายเดียว ฉันไม่รู้จักคุณด้วยซ้ำ ทำไมจะต้องมีเรื่องกับคุณด้วย? คุณอยู่ในสายของฉัน ก็เป็นแค่อากาศ”
พูดไปแล้ว เย่เฉินก็ขี้เกียจที่จะมองทั้งสองคนอีก นำเงินทั้งหมดที่เขาขโมยมาจากเด็กผู้หญิงที่ดีดกีตาร์ร้องเพลง ออกมาจากกระเป๋าของโอนิซึกะ ดันมะที่นอนอยู่บนพื้น ต่อจากนั้นหันหลังมาถึงตรงหน้าของเด็กผู้หญิงที่ดีดกีตาร์ร้องเพลงคนนั้น
“เก็บเงินไว้ให้ดี จากนี้ไปอย่าได้ออกมาดีดกีตาร์ร้องเพลงแล้ว”
หญิงสาวซาบซึ้งจนน้ำตาไหลออกมา และพูดด้วยเสียงสะอื้นว่า: “ขอโทษด้วย ลำบากคุณแล้ว…”
เย่เฉินส่ายหัว และพูดว่า: “อยู่ในต่างประเทศคนเดียว ต้องดูแลตัวเองให้ดี ฉันไปก่อนแล้ว”
พูดแล้ว เขาก็หันหลังออกไปจากที่เกิดเหตุ
ซูจือหยูโกรธมากจนกำหมัดแน่น และจ้องไปที่แผ่นหลังของเขาแล้วตะโกน: “ไอ้สารเลว นายหยุดเดี๋ยวนี้!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...