ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 1659

ผู้ตรวจการเห็นว่าทากาฮาชิ มาจิรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก และก็รีบพูดว่า “คุณลองคิดดูดีๆ คุณเคยทำให้ใครขุ่นเคืองไหม โดยทั่วไปแล้ว เว้นแต่จะมีความแค้นอย่างสุดซึ้ง มิเช่นนั้นใครจะตั้งเป้าหมายมาที่คุณแบบนี้?”

หลังจากพูดจบ ผู้ตรวจการก็เตือนว่า “ลองคิดดูสิ มีใครอยากจะฆ่าคุณ หรือมีคนที่คุณอยากจะฆ่าหรือไม่?!”

สิ่งแรกที่ทากาฮาชิ มาจินึกถึงก็คือเย่เฉิน

แต่ในไม่ช้าเขาก็ปฏิเสธความคิดนี้อยู่ในใจ

หลังจากที่ฟูจิบายาชิ โอตะหายตัวไปโดยไม่มีเหตุผล ฟูจิบายาชิ มาสะก็เคยดักฟังเย่เฉิน และได้รับข้อความว่า ไม่ใช่เย่เฉินที่ฆ่าฟูจิบายาชิ โอตะ แต่เป็นนินจาอีกกลุ่มหนึ่ง

ในเวลานั้น ฟูจิบายาชิ มาสะก็คาดเดาว่า น่าจะเป็นนินจาโคงะที่จงรักภักดีต่อตระกูลอิโตะ

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับคนของกรมตำรวจนครบาลเลย

เพราะว่า เขารู้สึกว่า ตัวเองพูดกับกรมตำรวจนครบาลก็ไร้ความหมาย เพราะไม่มีหลักฐานโดยตรงสำหรับเรื่องนี้ และทุกอย่างก็เป็นเพียงการคาดเดาของฟูจิบายาชิ มาสะก่อนตายเท่านั้น

ในความคิดของตัวเอง 80% เป็นตระกูลอิโตะที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง แต่ในมุมมองของตำรวจ อีกฝ่ายอาจเป็นนินจาโคงะ แต่ก็อาจจะเป็นนินจาอิงะ หรือนินจาซากา หรือตระกูลนินจาอื่นๆ ที่ไม่ค่อยเปิดเผย

เพราะยังไงแล้ว นินจาญี่ปุ่นมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และนิกายมากมาย

เช่นเดียวกับศิลปะการต่อสู้ของจีน ศิลปะการต่อสู้ของจีนมีศิลปะการต่อสู้ที่หลากหลายตั้งแต่สมัยโบราณ มีนิกายมากมาย และมีศิลปะการต่อสู้มากมายที่สามารถเรียกตามชื่อของพวกเขาได้

เช่นเส้าหลิน อู๋ดัง คุนหลุน เอ๋อเหม่ย ฮัวซาน ก้องตง นิกายขนาดเล็กและขนาดกลางที่ไม่รู้จักต่อไปนี้นับไม่ถ้วน

ในญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกัน นอกจากสี่ตระกูลนินจาที่มีชื่อเสียงแล้ว ยังมีตระกูลและนิกายขนาดเล็กอีกนับไม่ถ้วน

ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ให้กรมตำรวจนครบาลโตเกียวเข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้ จะลงมือแก้แค้นกับนางาฮิโกะ อิโตะด้วยตัวเอง!

ไม่นาน แพทย์นิติเวชก็มาถึงที่เกิดเหตุ

พวกเขาได้ขนศพที่แข็งทื้อทั้งสี่นี้กลับไปยังแผนกนิติเวชของกรมตำรวจนครบาล อย่างน้อยศพดังกล่าวก็ต้องถูกละลายจนหมดก่อนจึงจะสามารถผ่าออกได้

ในเวลาเดียวกัน ข่าวการเสียชีวิตที่แปลกประหลาดทั้งสี่ของพวกฟูจิบายาชิ มาสะ ก็ถูกรายงานไปที่ด้านบนสุดของกรมตำรวจนครบาลทีละขั้นตอน ทำให้กรมตำรวจนครบาลทั้งหมดตกตะลึง