ในช่วงเวลานี้ เพื่อที่จะตรวจหาฆาตกรที่ฆ่าทั้งครอบครัวของ มัตสึโมโตะ โยชิโตะ สนามบินโตเกียวก็ได้เพิ่มความเข้มงวดการตรวจสอบทางขาออกมากขึ้น
อย่างไรก็ตามเนื่องจากการขาดแคลนกำลังคน จึงไม่มีทางที่จะควบคุมผู้โดยสารทุกคนได้อย่างเคร่งครัด
แม้ว่าซูรั่วหลีจะใช้หนังสือเดินทางของประเทศจีน แต่เนื่องจากบัตรผ่านขึ้นเครื่องของเธอคือไปโอซาก้า และไม่ใช่ออกจากญี่ปุ่น ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงไม่ได้รายงานต่อผู้นำ
เขาเพียงแค่ท่องชื่อของซูรั่วหลีอยู่ในใจสองสามครั้ง และรู้สึกว่าชื่อนั้นดีมาก แต่เขาไม่ก็สามารถบอกได้เลยว่าทำไมมันถึงดีมาก
ซูรั่วหลีเห็นอีกฝ่ายถือหนังสือเดินทางของตัวเองอย่างงุนงง และความคิดแรกในใจของเธอก็คือ เป็นไปได้หรือไม่ว่าตัวตนของตัวเองถูกเปิดเผยและอีกฝ่ายก็สังเกตได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม เธอวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว และรู้สึกว่าเรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้
อย่างแรกเลย กรมตำรวจนครบาลโตเกียวรู้แต่เพียงว่าเป็นสายลับผู้ยอดฝีมือที่มาจากประเทศจีน เป็นผู้ที่ฆ่าทั้งตระกูลมัตสึโมโตะ แต่พวกเขาก็ไม่รู้อะไรอีกเลย นอกจากนั้น
พวกเขาก็ไม่รู้เลยว่า คนที่ฆ่าทั้งครอบครัวมัตสึโมโตะนั้น เป็นใครและมีนามว่าอะไรกันแน่
ยิ่งไปกว่านั้น ญี่ปุ่นก็อยู่ใกล้กับประเทศจีนมาก มีนักท่องเที่ยวและชาวจีนโพ้นทะเล และนักธุรกิจชั้นแนวหน้าจำนวนมากไปมาระหว่างสองประเทศในแต่ละวัน กรมตำรวจนครบาลโตเกียวก็ไม่สามารถล็อกเป้าหมายมาที่ตัวเองได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้อย่างแน่นอน
หลังจากวิเคราะห์อย่างรวดเร็วอยู่ในสมอง ซูรั่วหลีก็สามารถสรุปได้ว่า เจ้าพนักงานที่อยู่ข้างหน้านี้ มีเปอร์เซ็นต์ที่จะทึ่งกับรูปร่างหน้าตาของตัวเองมากที่สุด และทำให้ตอบสนองได้ช้าลงเล็กน้อย
ดังนั้น เธอเลยถามเจ้าพนักงานอย่างว่างเปล่าว่า “พาสปอร์ตของฉันดูดีไหม? ”
อีกฝ่ายพยักหน้าโดยจิตสำนึก “สวยมาก........”
หลังจากพูดจบ ถึงตระหนักได้ว่า ตัวเองพลาดปากไปโดยไม่ได้ตั้งใจ และรีบส่งหนังสือเดินทางคืนให้ซูรั่วหลีด้วยมือสองข้าง และกล่าวขอโทษว่า “คุณซู ต้องขอโทษจริงๆ! ผมไม่ได้ตั้งใจ!”
ซูรั่วหลีเพิกเฉยต่อคำขอโทษของเขาอย่างสิ้นเชิง แต่ยังคงถามเขาด้วยท่าทางที่เย็นชาว่า “งั้นฉันจะผ่านได้หรือยัง?”
“แน่นอน!” เจ้าพนักงานถูกออร่าที่เย็นชาของซูรั่วหลี กดดันจนถึงจุดที่มีเหงื่อเย็นไหลลงมา และรีบประทับตราบอร์ดดิ้งพาสให้เธอ และส่งให้เธอด้วยความเคารพ
ซูรั่วหลีได้รับบอร์ดดิ้งพาส แล้วหันหลังเดินจากไปทันที เจ้าพนักงานคนนั้นหันกลับมามองดูเงาหลังของเธอ บนใบหน้าเต็มไปด้วยสีหน้ามึนเมา เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและบ่นว่า “นี่......นี่เป็นออร่าแห่งเท็นโนเลยทีเดียว.......เว้นแต่ในละครโทรทัศน์และอนิเมะ ผมยังไม่เคยเห็นผู้หญิงที่มีออร่าแรงขนาดนี้มาก่อนเลย.........”
อิโตะ นานาโกะ พูดด้วยดวงตาที่เป็นสีแดง “ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงของเย่เฉินซัง ฉันจะดูแลตัวเองให้ดีอย่างแน่นอน!”
เย่เฉินพยักหน้า และถอนหายใจเบาๆ อย่างอดไม่ได้
ด้วยการถอนหายใจนี้ มีความลังเล แต่ก็มีความโล่งใจด้วยเช่นกัน
สิ่งที่ลังเลคือ อิโตะ นานาโกะ เป็นเด็กผู้หญิงดีๆ ที่หายากจริงๆ สามารถพูดได้เลยว่า นอกจากสัญชาติแล้ว หาที่ผิดของเธออะไรไม่ได้แม้แต่จุดเดียวเลย
หากเลิกรากันในวันนี้ มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับทั้งสองคนที่จะได้พบกันอีกในอนาคต ดังนั้นเย่เฉินจึงจะรู้สึกไม่เต็มใจเล็กน้อย
ส่วนการปล่อยวางนั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะได้ถอนหนามในใจเส้นนั้นออกไปแล้ว ตอนที่ตัวเองมาที่ญี่ปุ่นในครั้งนี้
หนามเส้นนั้นก็คือ อิโตะ นานาโกะ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...