ขณะที่พูด เย่ฉางหมิ่นก็ยื่นนิ้วออกมานิ้วหนึ่ง แล้วเอ่ยพูดอย่างออกคำสั่งว่า “อันดับแรก เรื่องของตี้เหากรุ๊ป ถึงตอนนั้นแกให้หวังตงเสวี่ยนจัดการให้แกก็ได้ คนนี้พวกฉันตรวจสอบแล้ว ว่ามีความสามารถ อีกอย่างดูจากระยะนี้ ภายใต้การบริหารของเธอตี้เหากรุ๊ปก็ค่อนข้างพัฒนาได้ดี สามารถมอบหมายให้เธอดูแลได้อย่างสบายใจ”
จากนั้น เย่ฉางหมิ่นก็ยื่นอีกนิ้วออกมา “อันดับสอง ครอบครัวของเซียวชูหรันภรรยาของแก พวกฉันตรวจสอบความเป็นมาของตระกูลเซียวแล้ว พูดตามตรงนะ ตระกูลนี้เทียบตระกูลเย่ไม่ติดด้วยซ้ำ! พวกเขามั่นหน้ามาจากไหนว่าสามารถเกี่ยวดองกับตระกูลเย่ได้!”
ในเวลานี้ใบหน้าของเย่ฉางหมิ่นเต็มไปด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์ เบ้ปากแล้วเอ่ยพูดต่อว่า “เพราะฉะนั้นแล้ว ฉันแนะนำว่าแกควรถือโอกาสตัดขาดกับเซียวชูหรันอะไรนั่น และขีดเส้นกันครอบครัวนั้นออกไป ทางที่ดีควรให้เงินพวกเขาสักก้อน ให้พวกเขาไสหัวออกไปจากประเทศจีนซะ กันไว้เผื่อมีใครเอาเรื่องพวกเขามาป่าวประกาศ และเหยียดหยามว่าหลานชายตระกูลเย่กินไม่เลือก!”
เย่เฉินได้ยินมาถึงตรงนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นดุดัน น้ำเสียงเจือปนไปด้วยความเย็นยะเยือก “คุณอา เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องของผม ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณอาและตระกูลเย่ ดังนั้นแล้ว กรุณาอย่าเข้ามาก้าวก่าย!”
เย่ฉางหมิ่นถอนหายใจออกมา พูดโน้มน้าวว่า “เฉินเอ๋อ แกอย่าใช้อารมณ์เหนือเหตุผลสิ แกต้องคิดดีๆ แกคือหลานชายตระกูลเย่นะ! ถ้ามีการคัดเลือกลูกหลานตระกูลร่ำรวยทั่วประเทศมาสิบคน หนึ่งในนั้นต้องมีแกอยู่ด้วย ผู้หญิงนามสกุลเซียวนั่น จะไปคู่ควรกับแกได้ยังไง? แม้แต่สิทธิ์ถอดรองเท้าให้แกก็ไม่คู่ควร! ถ้าเป็นสมัยโบราณ แม้แต่สิทธิ์เป็นสาวใช้ข้างห้องยังไม่มีเลย!”
เย่เฉินเอ่ยพูดดด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธว่า “คุณอา ชูหรันคือภรรยาของผม อีกอย่างเธอคือคนที่ยอมแต่งงานกับผมในช่วงเวลาที่ผมตกต่ำขั้นสุด ผมไม่มีทางหย่ากับเธอเด็ดขาด เพราะฉะนั้น ถ้าเรื่องที่คุณอาจะพูดมีแค่นี้ก็ไม่ต้องพูดอะไรออกมาอีกแล้ว!”
เย่ฉางหมิ่นเอ่ยพูดอย่างเสียใจว่า “เฉินเอ๋อ แกอย่าใช้ความรู้สึกเหนือเหตุผลสิ!”
เย่เฉินพูดเสียงเย็นว่า “เรื่องของความรู้สึก ยังไงก็ต้องอยู่เหนือเหตุผลอยู่แล้ว!”
เย่ฉางหมิ่นหลุดปากพูดออกมาว่า “แกเป็นถึงหลานชายตระกูลผู้ดี ความรู้สึกบ้าบออะไรนั่นก็ช่างหัวมันไปสิ! แกยังจำสามีฉันได้ไหม? เขาเป็นคนเก่ง หลายปีที่ผ่านมาก็ดีกับฉันมาตลอด แต่แล้วยังไงล่ะ? หลังจากที่ตระกูลของเขาล่มจมจนไม่อาจเทียบเคียงกับฉันได้ ฉันก็เลิกกับเขาในทันที!”
ต่อจากนั้น เย่ฉางหมิ่นก็พูดอย่างไม่ยินยอมว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะปู่ของแกไม่ยอมให้ฉันทำเรื่องหย่า เพราะคิดว่า การที่ผู้หญิงอย่างฉันเป็นฝ่ายขอหย่าก่อนมันส่งผลเสียต่อชื่อเสียง ป่านนี้ฉันคงตัดขาดกับสามีของฉันไปตั้งนานแล้ว! แกเป็นผู้ชาย ไม่จำเป็นต้องมาสนใจว่ามันจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงด้วยซ้ำ ถ้าแกหย่ากับผู้หญิงคนนั้น แล้วกลับไปแต่งงานกับคุณหนูที่มีฐานะเท่าเทียมกันที่เมืองเย่นจิง อนาคตของแกรุ่งเรืองแน่ๆ!”
“ทำไมครับ?” เย่เฉินเอ่ยถามเสียงเย็น “หรือว่าคุณอาจะบังคับให้ผมแต่งงาน?”
เย่ฉางหมิ่นด่าทอออกมาว่า “แกคือลูกหลานตระกูลเย่! ก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งของตระกูลเย่ อีกอย่างแกคิดว่าปู่แกยกตี้เหากรุ๊ปกับเงินหมื่นล้านนั่นให้แกฟรีๆเหรอ?!ถ้าแกไม่เชื่อฟังล่ะก็ ตระกูลเย่ฉุดดึงแกขึ้นมาได้ ก็สามารถเหยียบแกจมดินได้เหมือนกัน”
เย่เฉินพลันปะทุความโกรธออกมาทันที เขาพูดเสียงเย็นยะเยือกว่า “หยุดเอาเรื่องตี้เหากรุ๊ปกับเงินหมื่นล้านมาพูดสักที!ตอนนั้นตระกูลเย่ขึ้นมาอยู่จุดสูงสุดได้อย่างรวดเร็ว เป็นเพราะความเพียรพยายามและการวางแผนของพ่อผมทั้งนั้น! ถ้าคำนวนสัดส่วนมรดก พ่อผมมีสิทธิ์ได้รับมรดกจากตระกูลถึงหนึ่งส่วนสี่ด้วยซ้ำ ถ้าเป็นแบบนี้ อย่าว่าแต่หมื่นล้านเลย ต่อให้เป็นแสนล้าน ผมก็สมควรได้!”
พูดมาถึงตรงนี้ น้ำเสียงของเย่เฉินก็ดุดันมากกว่าเดิม “พ่อผมทำเพื่อตระกูลเย่ถึงขนาดนี้ แต่พวกคุณตอบแทนเขายังไง? พวกคุณบีบบังคับให้ครอบครัวผมออกไปจากเมืองเย่นจิง! สุดท้ายก็ทำร้ายพ่อแม่ผมจนตาย! โทษนี้ ผมยังไม่ได้คิดบัญชีกับพวกคุณเลย!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...