เย่ฉางหมิ่นกล่าวว่า “ฉันมาหาหม่าหลันที่มาทำเสริมสวยในร้านของพวกนายเมื่อกี้ มีธุระต้องการพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว”
พอเจ้าของร้านได้ยินว่าไม่ได้มาใช้บริการ สีหน้าพลันมืดลงทันที พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “หากคุณไม่ได้มาใช้บริการ อย่างนั้นก็รบกวนช่วยออกไปด้วย เมื่อมาหาคนเพื่อคุยธุระก็ต้องแยกสถานที่ ที่ร้านเราไม่มีบริการนี้รวมอยู่ด้วย”
เย่ฉางหมิ่นส่งสายตาให้บอดี้การ์ด บอดี้การ์ดจึงหยิบเงินห้าหมื่นออกมาจากกระเป๋าหนังใบเล็กข้างลำตัวแล้วตบลงไปบนโต๊ะทันที
พอเจ้าของร้านเห็นเงิน ก็ทำท่าทีประจบขึ้นมาทันควัน ยิ้มถามว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ คุณอยากให้ผมจัดหาบริการอะไรให้คุณล่ะครับ?”
เย่ฉางหมิ่นกล่าวเสียงเย็น “พาฉันไปพบหม่าหลัน ฉันต้องการพูดคุยกับหม่าหลันเป็นการส่วนตัว ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่นัก อย่างมากก็ครึ่งชั่วโมง ภายในครึ่งชั่วโมงนี้ ห้ามให้ใครมารบกวน ถ้าทำได้ เงินห้าหมื่นนี้ถือเป็นค่าตอบแทนให้นาย ฟังเข้าใจหรือไม่?”
เจ้าของร้านฟังถึงตรงนี้ ก็ลอบพิจารณาอยู่ในใจ “เซียวไห่หลงให้ฉันป้อนยาสลบให้หม่าหลันคนนั้นกิน หลังเธอหลับสนิทแล้ว เซียวไห่หลงค่อยแอบพาเธอไป ตอนนี้ระหว่างทางกลับมีเจ๊คนนี้บุกเข้ามา ต้องการพูดคุยกับหม่าหลันครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็จะมอบเงินให้ห้าหมื่น นี่ฟังดูแล้วถือว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง ขอเพียงตนให้เซียวไห่หลงรอสักครึ่งชั่วโมง รอจนเจ๊คนนี้สนทนากับหม่าหลันเสร็จ หลังเธอไปแล้ว ค่อยป้อนยาสลบให้หม่าหลันก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็ยิ้มตอบรับทันที “ตกลงๆ! แค่เวลาส่วนตัวครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ไม่มีปัญหา คุณหม่าหลันกำลังแช่น้ำอาบ คุณก็ไปรอที่ห้องSPAก่อนแล้วกัน”
เย่ฉางหมิ่นพยักหน้า เอ่ยกับบอดี้การ์ดว่า “มากับฉัน”
“เดี๋ยวๆๆ!” เจ้าของร้านรีบร้อนกล่าวว่า “ที่ร้านของเราเป็นที่สำหรับคุณสุภาพสตรี สมาชิกอยู่ที่นี่จะสวมใส่เสื้อผ้าอย่างไรก็ได้ ถึงขั้นบางครั้งไม่สวมใส่เสื้อผ้าก็มี ในพื้นที่ให้บริการส่วนตัวสำหรับสมาชิกแม้แต่เจ้าของร้านอย่างผมเองก็ยังเข้าไปไม่ได้ คุณจึงไม่อาจนำคุณผู้ชายท่านนี้พาไปด้านในได้เช่นกัน!”
เย่ฉางหมิ่นเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าร้านเสริมสวยธรรมดาทั่วไปร้านหนึ่งจะมีอันตรายอะไร ด้วยเหตุนี้จึงบอกกับบอดี้การ์ดคนนั้นว่า “นายรออยู่ด้านนอกแล้วกัน”
บอดี้การ์ดพยักหน้าเบาๆ
วันนี้การเดินทางของเย่ฉางหมิ่น เป็นความคิดชั่วคราว อีกทั้งระหว่างทางนี้ก็ไม่มีใครน่าสงสัยตามมา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ โดยพื้นฐานความเป็นไปได้แล้วไม่น่าจะมีอันตรายใด เขาจึงไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก
บอดี้การ์ดรออยู่ตรงหน้าประตู เย่ฉางหมิ่นถึงค่อยพูดกับเจ้าของร้านคนนั้นว่า “ตอนนี้พาฉันเข้าไปได้แล้วสินะ?”
พนักงานรับเงินหนึ่งหมื่นหยวนมาอย่างดีใจ กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “คุณวางใจ ฉันไม่มีทางบอกแน่!”
“อืม” เย่ฉางหมิ่นพยักหน้า “เธอออกไปก่อนเถอะ”
“ได้ค่ะ คุณผู้หญิง”
หลังพนักงานออกไป เย่ฉางหมิ่นก็ขมวดคิ้วมองไปรอบๆ ห้อง ขมวดคิ้วอย่างรังเกียจอยู่บ้าง
เธอหยิบเช็คธนาคารใบหนึ่งที่เขียนไว้เสร็จแล้วออกมาจากกระเป๋า จำนวนเงินที่อยู่บนเช็คคือพันล้านหยวน นี่เป็นเงินที่เธอคิดจะนำมาซื้อตัวหม่าหลัน
แต่ยิ่งเห็นความโลวคลาสของร้านเสริมสวยแห่งนี้แล้ว เธอก็ยิ่งทอดถอนอยู่ในใจว่า “หม่าหลันผู้นี้ถึงกับวิ่งมาทำSPAในสถานที่เช่นนี้ จะต้องเป็นคนบ้านนอกที่ไม่เคยเห็นเงินแน่นอน พันล้านที่ให้เธอ สงสัยจะมากเกินไปหน่อย!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...