ในเวลานี้ ที่โกดังร้างในเขตชานเมือง
เดิมทีเย่ฉางหมิ่นไม่กล้าเปิดเผยตัวตนของตัวเอง แต่ตอนนี้เธอไม่สนใจอะไรอีกแล้ว
เธอเห็นว่าอู๋ตงไห่ไม่เชื่อคำพูดของตัวเอง ดังนั้นเธอจึงรีบพูดทันที:"คุณอู๋ ฉันเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลเย่จริงๆ สำหรับเรื่องที่คุณพูดว่าเย่เฉินเติบโตที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เรื่องนี้ฉันไม่ปฏิเสธ แต่สาเหตุหลักเพราะเรื่องของเย่เฉินมีความพิเศษมากๆ พ่อของเขาคือเย่ฉางอิงที่เป็นคนที่มีชื่อเสียงมากๆของเย่นจิงในอดีต ชื่อนี้คุณน่าจะเคยได้ยินใช่ไหม?"
อู๋ตงไห่ตกใจเล็กน้อย
เขาคิดในใจ:"เย่ฉางอิง?! เขาคือไอดอลของฉันในตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก! เย่ฉางอิงในตอนนั้น ทำให้ตระกูลเย่กลายเป็นตระกูลที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของประเทศด้วยตัวคนเดียว เขายังสามารถกดขี่และปราบปรามตระกูลเก่าแก่ของยุโรปที่เย่อหยิ่งอย่างตระกูลรอธส์ไซด์ได้ สมัยนั้นผู้ชายคนนี้เหมือนพระเจ้าที่อยู่ในโลกธุรกิจในประเทศ! แต่น่าเสียดาย เย่ฉางอิงเสียชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่ม ไม่เช่นนั้นอนาคตของเขาคงไม่มีใครคาดเดาได้..."
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ขมวดคิ้วและมองเย่ฉางหมิ่นและถาม:"คุณพูดว่าเย่เฉินเป็นลูกชายของเย่ฉางอิงเหรอ?! มีหลักฐานอะไรมายืนยัน?!"
เย่ฉางหมิ่นพูดทันที:"คุณไม่รู้สึกหรือว่าพวกเขาสองคนมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกันมาก? พวกเขาสองคนคล้ายกันมากๆเหมือนเกาะสลักออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน ยังต้องการหลักฐานอย่างอื่นอีกเหรอ..."
อู๋ตงไห่พูดอย่างเย็นชา:"คำพูดของคุณมันไร้สาระมากๆ! เพราะฉันไม่เคยเห็นหน้าตาเย่ฉางอิงมาก่อน!"
เย่ฉางอิงเสียชีวิตเมื่อสิบแปดปีที่แล้ว ในตอนนั้น เครือค่ายอินเทอร์เน็ตภายในประเทศเพิ่งจะริเริ่มต้นใช้งาน โดยปกติจะได้รับข้อมูลต่างๆผ่านทางทีวีและหนังสือพิมพ์เท่านั้น
แต่ตระกูลใหญ่ๆอย่างตระกูลเย่นั้น ทีวีและหนังสือพิมพ์จะไม่กล้ารายงานโดยตรง ทำให้ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับตระกูลใหญ่ๆเหล่านี้ จะเป็นการพูดกันปากต่อปากในสังคมชนชั้นสูง
ในเวลานั้นอู๋ตงไห่อยู่ที่ซูหาง ทำให้เขาไม่มีโอกาสเจอหน้าเย่ฉางอิงเลย เขาได้ยินเพียงการกระทำมากมายของเย่ฉางอิงเท่านั้น
ดังนั้น เขาจะรู้ได้ยังไงว่าเย่เฉินกับเย่ฉางอิงมีหน้าตาคลายกันหรือเปล่า
เย่ฉางหมิ่นจำเป็นต้องพูดอีกครั้ง:"เมื่อสักครู่คุณก็ดูบัตรประจำประชาชนของฉันแล้ว ฉันชื่อเย่ฉางหมิ่นเป็นคนเย่นจิง‘เย่’คือนามสกุลของฉัน สำหรับคำตรงกลางที่เรียกว่า‘ฉาง’เป็นชื่อรุ่นของพวกเรา ฉันมีพี่ชายสองคนและน้องชายสองคน พี่ใหญ่ชื่อเย่ฉางโคง พี่รองชื่อเย่ฉางอิง น้องสามชื่อเย่ฉางหยุน น้องสี่ชื่อเย่ฉางจุ้น และน้องสาวชื่อเย่ฉางซิ่ว เรื่องทั้งหมดนี้เป็นความจริง! ฉันเป็นคนของตระกูลเย่จริงๆ!"
ในเวลานี้หม่าหลันรู้สึกงุนงงมากๆ
เดิมทีเธออยากเยาะเย้ยคำพูดเหล่านี้ของเย่ฉางหมิ่น แต่เมื่อฟังเรื่องที่เย่ฉางหมิ่นเล่านานขึ้น เธอรู้สึกว่ามันเหมือนเรื่องจริงมากๆ
เธออดไม่ได้ที่จะพูดพึมพำในใจ:"แม่เจ้า หรือว่าลูกเขยของฉัน เป็นคุณชายของตระกูลระดับแนวหน้าที่ตกอับอยู่ด้านนอกเหรอ?! ถ้ามันเป็นเรื่องจริง อนาคตของฉันก็คงสุขสบายอย่างแน่นอน?!"
หม่าหลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน ความตื่นเต้นของเธอ ก็เปลี่ยนเป็นความสิ้นหวังทันที
เธอมองผู้คนที่มีเจตนาร้ายๆที่อยู่รอบๆตัวเอง และคร่ำครวญในใจ:"ทำไมชีวิตของฉันถึงขมขื่นแบบนี้ พึ่งจะพบว่าลูกเขยตัวเองเป็นคนที่มีความสามารถขนาดนี้ ฉันก็มาโดนไอ้พวกสารเลวพวกนี้ลักพาตัว ถ้าพวกเขาส่งฉันไปที่เหมืองถ่านหินดำจริงๆ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปฉันจะทำยังไงดี?เย่เฉินจะมาช่วยฉันหรือเปล่า?!"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...