เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หม่าหลันก็ตระหนักในหัวใจตัวเอง เมื่อก่อนเธอปฏิบัติต่อเย่เฉินแย่มากๆ
เธอนึกถึงอดีตที่ตัวเองเคยอวดดีต่อหน้าเย่เฉิน สั่งเย่เฉินทำนู่นทำนี่ กระทั่งกลั่นแกล้งและดูถูกเหยียบหยามเย่เฉินในอดีต ทำให้เธอก็รู้สึกเสียใจมากๆ
เธออดคิดไม่ได้ว่า:"แล้วถ้าเย่เฉินยังแค้นและเกลียดชังฉันอยู่ ฉันควรทำยังไงดี?การหายตัวไปของฉันในครั้งนี้ อาจจะเป็นสิ่งที่เขาต้องการก็ได้ ถ้าเขาไม่อยากให้ฉันกลับไปละก็ เขาก็คงไม่มาช่วยฉันอย่างแน่นอน บางทีฉันอาจจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในเหมืองถ่านหินดำและใช้แรงงานไปตลอดชีวิตก็ได้?!"
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หม่าหลันก็ร้องไห้ออกมาทันที
ในเวลานี้ อู๋ตงไห่จ้องมองเย่ฉางหมิ่นและพูด:"ถ้าคุณเป็นคนของตระกูลเย่จริงๆ งั้นฉันขอถามคุณหน่อย คุณมีหลักฐานอะไรมายืนยันเหรอ?"
เย่ฉางหมิ่นรีบพูดทันที:"ในกระเป๋าของฉันมีสมุดเช็คเล่มหนึ่งและมีตราประทับส่วนตัวของฉัน คุณสามารถเปิดดูได้!"
อู๋ตงไห่มองไปที่เซียวไห่หลงและพูด:"กระเป๋าของเธอละ?"
เซียวไห่หลงรีบวิ่งกลับไปที่รถตู้ นำกระเป๋าแบรนด์เนมHermesออกมา
เมื่อเห็นกระเป๋าใบนี้ หัวใจของอู๋ตงไห่ก็สะดุ้งทันที
หม่าหลันไม่รู้จักสินค้าแบรนด์เนม และไม่รู้ว่ากระเป๋าใบนี้ราคาเท่าไร แต่เขารู้จักกระเป๋าแบรนด์เนมใบนี้
ในตอนนั้น เซวหย่าฉินที่เป็นภรรยาของเขาได้เข้าร่วมงานHermesฤดูร้อน ในเวทีรันเวย์โชว์นั้น กระเป๋าใบนี้คือสินค้าตัวสุดท้ายที่เดินโชว์บนรันเวย์
นอกจากนี้ ตามคำแนะนำอย่างเป็นทางการของHermes กระเป๋าใบนี้ทำขึ้นด้วยช่างฝีมือระดับแนวหน้าของHermes และเป็นของแฮนด์เมดทั้งชิ้น และมันมีเพียงใบเดียวเท่านั้น และราคาสูงมากๆ
ตอนนั้นเซวหย่าฉินชอบกระเป๋าใบนี้มากๆ และจะซื้อกระเป๋าใบนี้ให้ได้ แต่น่าเสียดาย ทางHermesก็ได้แจ้งว่ากระเป๋าใบนี้ถูกจองโดยไฮโซคนหนึ่งของเย่นจิงไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถขายกระเป๋าใบนี้ให้ใครอีก
"แม่งเอ๊ย ทำไมตัวเองถึงซวยขนาดนี้!วันนี้พ่อลูกตระกูลเซียวต้องการประจบประแจงฉัน บอกว่าจะทำร้ายหม่าหลัน เพราะความเกลียดชังที่ตัวเองมีต่อเย่เฉิน ทำให้เขาอยากมาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น..."
"แต่ใครจะไปคาดคิด ไอ้สารเลวอย่างพ่อลูกตระกูลเซียวจับลูกสาวคนโตของตระกูลเย่มาด้วย!"
"เธอคือคนของตระกูลเย่นะ! ไม่ต้องพูดถึงว่าไอ้สวะพ่อลูกคู่นี้เอาความกล้ามาจากไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือ คนที่มีฐานะระดับสูงขนาดนี้ ทำไมถึงโดนพ่อลูกคู่นี้ลักพาตัวมาได้ง่ายๆ? ข้างๆเย่ฉางหมิ่นไม่มีบอดี้การ์ดค่อยปกป้องเลยเหรอ?!"
ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิด เซียวไห่หลงก็ใช้สองมือยื่นกระเป๋าของเย่ฉางหมิ่นมาให้อู๋ตงไห่ด้วยความเคารพ และพูดอย่างประจบประแจง:"ประธานอู๋ ฉันคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องเชื่อคำโกหกของผู้หญิงคนนั้น ตอนที่พวกเราไปจับตัวหม่าหลัน ผู้หญิงคนนี้กำลังทะเลาะกับผู้หญิงอารมณ์ร้ายปากจัดอย่างหม่าหลันอยู่ และเธอก็ถูกหม่าหลันนั่งทับและตบหน้าอยู่ ถ้าเธอเป็นคนที่มีฐานะสูงจริงๆ ข้างๆเธอทำไมถึงไม่มีบอดี้การ์ดไว้ปกป้องตัวเองละ?"
เย่ฉางหมิ่นรีบพูดทันที:"ฉันพามาด้วย! ฉันพาบอดี้การ์ดสองคนและเลขาส่วนตัวหนึ่งคนมาด้วย แต่ตอนนั้นฉันไปหาหม่าหลันที่ร้านเสริมสวยเพื่อพูดคุยเรื่องของเย่เฉิน และไม่อยากให้หม่าหลันรู้ว่าฐานะของฉัน และไม่อยากให้เธอมาแบล็กเมล์ตระกูลเย่ของพวกเรา ดังนั้นฉันก็เลยให้บอดี้การ์ดรออยู่ที่หน้าประตู..."
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เย่ฉางหมิ่นก็พูดด้วยความโกรธ:"แต่ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่าเจ้าของร้านเสริมสวยนั้น จะเป็นพวกเดียวกับคุณ!"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...