เขาจะไม่รู้จุดจบต่อไปของตระกูลอู๋ได้อย่างไร?
เย่ฉางหมิ่นคงจะสู้สุดชีวิตกับตัวเองอย่างแน่นอน
และตระกูลเย่ ก็ต้องลุกขึ้นมาออกหน้าแทนเธออย่างแน่นอน
ตระกูลอู๋ในยุคที่รุ่งเรือง อยู่ต่อหน้าของตระกูลเย่ก็ไม่พอที่จะเป็นภัยคุกคามได้ ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลอู๋ตอนนี้ ความแข็งแกร่งก็ถูกเย่เฉินทำลายไปส่วนใหญ่แล้ว ในเวลานี้อยู่ตรงหน้าตระกูลเย่ ไม่นับว่าเป็นมดตัวหนึ่งด้วยซ้ำ…
อู๋ตงไห่ถึงกับรู้สึกว่า ไม่แน่ตระกูลเย่อาจจะทรมานตัวเองจนบ้านแตกสาแหรกขาด…
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขารีบพูดอ้อนวอนอย่างสะอื้นว่า: “คุณชายเย่กับคุณผู้หญิงเย่ เป็นเพราะผมมีตาหามีแววไม่และไม่ระวังล่วงเกินคุณทั้งสอง คุณทั้งสองได้โปรดให้อภัยผมด้วยนะครับ…”
เย่ฉางหมิ่นเกลียดชังเย่เฉินเข้ากระดูกดำ แต่ก็ไม่กล้าออกฤทธิ์มากเกินไป ดังนั้นจึงเอาความโกรธทั้งหมดไปลงกับอู๋ตงไห่ และกัดฟันด่าว่า: “ไอ้สกุลอู๋ เรื่องราวของในวันนี้ ฉันเย่ฉางหมิ่นไม่มีทางปล่อยแกไปแน่! แกรอดูได้เลย ฉันจะทำให้แกตายโดยไร้ที่กลบฝังอย่างแน่นอน”
เมื่ออู๋ตงไห่ได้ยินเช่นนี้ แทบจะอกแตกตาย
ชื่อเสียงของตระกูลเสียหายทรัพย์สินที่หดตัวเหล่านี้ กัดฟันยังสามารถยอมรับได้
แต่ทว่า ถ้าหากตระกูลเย่จะต่อกรกับตัวเองจนถึงที่สุด ตัวเองจะรับมือได้ที่ไหน…
ถึงเวลาถ้าบ้านแตกสาแหรกขาดจริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็จะจบเห่ทั้งหมดแล้ว!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขามองไปทางเย่เฉินด้วยตาที่แดง และพูดอ้อนวอนพร้อมกับร้องไห้: “คุณชายเย่ คุณได้โปรดช่วยด้วย ครั้งนี้เป็นความเข้าใจผิดจริงๆ ถ้าตระกูลเย่สามารถที่จะให้อภัยผมได้ ผมก็จะมอบหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของกิจการทั้งหมดให้ถึงมือ! ขอเพียงแค่คุณและคุณผู้หญิงเย่สามารถที่จะเข้าใจแล้วยกโทษให้!”
เย่ฉางหมิ่นกัดฟันพูดว่า: “อย่าว่าแต่หุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของนาย ต่อให้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วยังไง? ก็ไม่มีค่าอะไรในสายตาของฉันอยู่ดี!”
เย่เฉินโบกมือ: “ไม่นะ ในสายตาของคุณไม่มีค่าอะไรเลย แต่ในสายตาของผมยังมีค่า”
แต่ทว่า นั่นก็เป็นแค่นักเลงสองคนเท่านั้น ต่อให้ตัวเองฆ่าพวกเขาทั้งครอบครัวแล้วยังไง?
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เธอตะคอกด้วยความโกรธว่า: “เย่เฉิน! หาเรื่องเขาไม่หรือหาเรื่อง ไม่ใช่ว่านายเป็นใหญ่ ฉันเป็นใหญ่! คุณปู่ของนายเป็นใหญ่ต่างหาก!”
เย่เฉินพูดอย่างราบเรียบว่า: “เรื่องนี้ผมได้ให้วิธีแก้ปัญหากับอู๋ตงไห่ไปแล้ว ตราบใดที่เขาตกลง พวกคุณใครคัดค้านก็เปล่าประโยชน์”
ขณะที่พูด เย่เฉินมองไปทางเย่ฉางหมิ่น ทันใดนั้นเสียงก็เพิ่มขึ้นสูง และก็พูดได้อย่างเลือดเย็นอำมหิตที่สุดว่า: “อีกอย่าง! คุณอย่าคิดว่าผมไม่ได้อยู่ในตระกูลเย่มาหลายปีขนาดนี้ ก็จะปล่อยให้คนของตระกูลเย่อย่างพวกคุณทำอะไรก็ได้ อย่าได้คิดเพ้อเจ้อลมๆแล้งๆเอาผมไปเป็นคู่แต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีและให้ผมกลับไปช่วยตระกูลเย่ไปเกาะคนมีอำนาจอื่น ผมไม่มีทางให้โอกาสนี้กับตระกูลเย่เด็ดขาด!”
“ดังนั้น ถ้าหากคราวหน้า พวกคุณกล้าเล่นงานผมลับหลังอีก ก็อย่าหากว่าผมไม่เห็นแก่ความผูกพันทางสายเลือด! ไม่ว่าจะเป็นคุณ หรือว่าคนอื่นในตระกูลเย่ ผมไม่ปล่อยไว้แม้แต่คนเดียว!”
เย่ฉางหมิ่นถูกสายตาและน้ำเสียงของเย่เฉินทำให้กลัวจนวิตกกังวลอย่างฉับพลัน แต่กลับฝืนแผดเสียงคำรามอย่างไม่มีอะไรเทียบได้ว่า: “เย่เฉิน! แกคิดว่าตอนนี้แกมีความสามารถที่จะท้าทายตระกูลเย่ได้เหรอ? ตี้เหากรุ๊ปของแกกับเงินสดหนึ่งหมื่นล้านของแก ทั้งหมดนี้ตระกูลเย่ก็เป็นคนให้ไม่ใช่เหรอ?! ตระกูลเย่สามารถยกระดับแกขึ้นมาได้ ก็สามารถเหยียบแกลงไปได้! ถ้าหากไม่มีตระกูลเย่ แกก็แค่ยาจกที่ไม่มีรากฐานอะไรทั้งนั้น! ด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลเย่ ทำลายแก ง่ายดายกว่าทำลายอู๋ตงไห่สิบเท่าถึงหนึ่งร้อยเท่า!”
เย่เฉินมองดูท่าทางที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ของเธอ เลิกคิ้ว และถามอย่างยียวนว่า: “อ๋อ? งั้นเหรอ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...