แม้ว่าในใจของเธอจะโกรธอย่างไม่มีอะไรเทียบได้ แต่ในเวลานี้ ให้ความกล้าเธอหนึ่งร้อยเท่า เธอก็ไม่กล้าลงมือกับจางกุ้ยเฟิน
ในเวลานี้ลูกน้องของอู๋ตงไห่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “ครั้งนี้ที่พวกเรามา เป็นคำสั่งของประธานอู๋ รื้อทรัพย์สินในคฤหาสน์หลังนี้ไปให้หมดจด ความหมายของประธานอู๋คือ ในบ้านหลังนี้จากนี้ไปนอกเหนือจากส่วนที่ตกแต่งอย่างหนัก เช่นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่อย่างเตียงและโซฟา เครื่องใช้ในบ้านอื่นๆกับของตกแต่งอันมีค่าและไวน์ชั้นดีที่เก็บไว้ในห้องเก็บของใต้ดินทั้งหมด จะต้องว่างเปล่าทั้งหมด ไม่เหลืออะไรทั้งนั้น!”
เมื่อนายหญิงใหญ่ได้ยินพูดนี้ ก็รู้สึกสิ้นหวังอย่างไม่มีอะไรเทียบได้
เดิมที เธอยังคิดถึงว่าไม่มีเงินแล้ว สามารถที่จะขายเครื่องใช้ในครัวเรือนของคฤหาสน์ได้ โดยเฉพาะไวน์ที่เก็บอยู่ในโกดังในชั้นใต้ดิน อย่างน้อยก็สามารถที่จะขายได้หนึ่งล้าน แต่คาดไม่ถึงว่า คนที่มีเงินมากมายอย่างอู๋ตงไห่ ขนาดข้าวของแค่นี้ยังคิดถึง ยังไม่ทันที่ตัวเองจะได้ลงมือ คนของเขาก็มาหาถึงที่แล้ว!
นายหญิงใหญ่เซียวพูดอย่างขมขื่นว่า: “พี่ชายน้อยหลายท่าน เครื่องใช้ในบ้านอะไรพวกคุณก็สามารถย้ายไปได้ แต่ไวน์เหล่านั้น ได้โปรดเก็บไว้ให้พวกเราด้วย เนื่องจากพวกเราก็ชอบดื่มเครื่องดื่มบ้างเป็นบางครั้ง…”
หัวหน้าคนนั้นแสยะยิ้มพูดว่า: “แมร่งจะไม่มีข้าวกินอยู่แล้ว ยังแมร่งมีกะจิตกะใจมาดื่มไวน์อีกเหรอ? มีพละกำลังนี้ พวกคุณก็ศึกษาค้นคว้าดูว่าจะหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องยังไงดีกว่านะ!”
หลังจากที่พูดจบ ก็พูดกับหลายคนที่ข้างกายในทันทีว่า: “เริ่มขนย้าย! สิ่งของมีค่าเล็กๆน้อยๆอะไรก็ตามไม่ต้องเหลือทิ้งไว้!”
“ครับ!”
ลูกน้องหลายคนรับปากในทันที ต่อจากนั้นก็เริ่มรื้อค้นในคฤหาสน์สักพัก
พวกเขาถึงขนาดยังนำรถเข็นพื้นเรียบสำหรับขนย้ายบ้านมาใช้โดยเฉพาะ เอาข้าวของที่มีค่าทั้งหมดวางลงบนรถ และเข็นออกไปทีละเล็กน้อย
นายหญิงใหญ่เซียวกล้าที่จะแผลงฤทธิ์ที่ไหนกัน ทำได้เพียงมองดูพวกเขาย้ายข้าวของในคฤหาสน์ไปอย่างไม่หยุดหย่อน ไม่เพียงแต่ขนย้ายไวน์ออกทั้งหมด แม้แต่โทรทัศน์บนกำแพงก็ถูกถอดออกไปด้วย
ที่มากเกินไปกว่านั้นคือ เครื่องใช้ในห้องครัวไม่ว่าจะเป็นหม้ออุปกรณ์ในการทานอาหาร ทั้งหมดก็ถูกพวกเขาเอาไป
นายหญิงใหญ่เซียวพูดอย่างสะอึกสะอื้นว่า: “พี่ชายน้อยหลายท่าน ยังไงก็ตามเก็บหม้อและกระทะสำหรับทำอาหารไว้ให้พวกเราด้วยนะ…”
จางกุ้ยเฟินพูดอย่างตื่นเต้นสุดขีดว่า: “โอเค! ฉันรู้แล้ว! พี่เดินทางดีๆนะ!”
หลังจากที่กลุ่มคนนี้จากไป นายหญิงใหญ่เซียวก็นั่งลงบนพื้นร้องไห้เสียงดัง: “โธ่เอ๊ยชีวิตของฉัน ทำไมถึงได้ลำบากขนาดนี้…”
เซียวเวยเวยก็ร้องไห้ออกมา และพูดว่า: “คุณย่า อู๋ตงไห่ก็มากเกินไปแล้ว เขากำลังแกล้งพวกเราอยู่ชัดๆ…”
ในเวลานี้เฉียนหงเย่นเอ่ยปากพูดว่า: “ประธานอู๋ก็ไม่ได้อยากจะแกล้งพวกเรา เดิมทีเขาอยากจะจัดเตรียมผู้ช่วยหลายคนมาให้ครอบครัวพวกเรา คาดไม่ถึงว่าย่าของลูกมาถึงก็ทำให้คนอื่นเขาขุ่นเคืองใจจะตายแล้ว ตอนนี้ไม่เพียงไม่มีผู้ช่วยแล้ว ยังมีศัตรูเพิ่มมาอีกสามคน…”
นายหญิงใหญ่เซียวถามอย่างโกรธจนยั้งอารมณ์ไว้ไม่ได้: “เฉียนหงเย่น นังผู้หญิงสารเลวที่ไม่รักษาคุณธรรมของผู้หญิงที่ดีอย่างแก กล้าวิจารณ์ฉัน!”
เฉียนหงเย่นระอากับนายหญิงใหญ่เซียวที่พูดจาหยาบคาย เมื่อเห็นนายหญิงใหญ่บันดาลโทสะใส่ตัวเอง ก็โกรธควันออกหูในทันที และด่าว่า: “อีนังแก่นี่ อย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนะ! แกคิดว่าแกยังคงเป็นนายหญิงใหญ่เซียวในปีนั้นอยู่เหรอ?! ตอนนี้แกทั้งยากจนทั้งล้าหลัง ยังแมร่งวิจารณ์ฉันอยู่อีก ฉันแมร่งติดค้างตระกูลเซียวของพวกแกเหรอ?!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...