แต่ไหนแต่ไรมานายหญิงใหญ่เซียวไม่เคยเป็นอย่างวันนี้มาก่อน กับการแค่กินอาหารมื้อเดียวจะต้องดีใจจนถึงขนาดตัวสั่นไปทั้งตัว
เธอทำตามที่หัวหน้างานบอก วุ่นอยู่กับงานที่ซุปเปอร์มาเก็ต กระทั่งเวลาหนึ่งทุ่ม ในที่สุดเธอก็ได้คูปองอาหารที่เธอเฝ้ารอคอยอยู่ตลอดเวลา
แม้ว่าตอนกลางวันเธอจะพยายามกินอาหารกลางวันจนอิ่มหนึ่งมื้อแล้ว แต่ว่าอาหารเย็นมื้อนี้ นายหญิงใหญ่เซียวก็กินอาหารราวกับสุนัขที่อดอาหารมาสามวัน กินอาหารที่โรงอาหารจนท้องกลมโต กินจนลุกไม่ขึ้น
กินจนกระทั่งไม่สามารถยัดอาหารเข้าไปได้อีกแล้ว หลังจากที่เธอนั่งพักอยู่ที่เดิมในโรงอาหารครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็ใช้สองมือพยุงที่โต๊ะอาหาร และพยายามลุกขึ้นอย่างอิดออด
เมื่อกินอิ่มแล้ว ดื่มเพียงพอแล้ว ก็ทำให้เธอดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
นายหญิงใหญ่เซียวใช้หลังมือลูบที่ริมฝีปาก และใช้ฝ่ามือลูบที่ท้อง พูดความรู้สึกลึกๆของตนอย่างพึงพอใจว่า :“คิดไม่ถึงเลยว่า หลังจากออกแรงทำงานนี้แล้วจะกินข้าวอร่อยขนาดนี้!วันนี้กินคุ้มจริงๆ!”
ทันใดนั้นนายหญิงใหญ่ก็มองดูเวลา และพบว่าตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว จึงวางแผนที่จะรีบกลับบ้านโดยเร็ว
แม้ว่าเธอจะเป็นคนเห็นแก่ตัวมาโดยตลอด แต่หลังจากที่เธอได้สัมผัสช่วงเวลาที่ยากลำบากต่างๆนานาในช่วงระยะเวลานี้ ก็ทำให้เธอใส่ใจลูกชายและหลานชายขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย
เมื่อนึกถึงลูกชายและหลานชายที่นอนอยู่บนเตียงอย่างหิวโหย นายหญิงใหญ่เซียวจึงรีบไปยังช่องหน้าต่างของโรงอาหาร เอ่ยปากถามพนักงานที่กำลังเตรียมเลิกงานคนนั้นว่า:“รบกวนถามหน่อยนะคะว่า กับข้าว หมั่นโถวและข้าวที่เหลือของพวกเรายังต้องการอีกไหม?”
คู่สนทนามองมาที่เธอ พลางพูดขึ้นด้วยสีหน้าจนปัญญาว่า:“คงไม่มั่งนายหญิงใหญ่เซียว คุณคนเดียวกินข้าวเท่ากับปริมาณคนสามคนกิน ยังไม่อิ่มอีกเหรอ?”
นายหญิงใหญ่เซียวเช็ดปากอย่างเขินอาย ยิ้มและพูดอย่างเกรงใจว่า:“เฮ้อ ตัวฉันเองอิ่มแล้ว แต่เด็กๆที่บ้านยังหิ้วท้องรออยู่เลยคุณไม่รู้หรอกว่าพวกเขาไม่ได้กินอะไรเลยมาเกือบสองวันสองคืนแล้ว”
คู่สนทนาถามขึ้นด้วยความตื่นตะลึงว่า:“จริงเหรอ?นี่มันสมัยไหนแล้วยังมีคนที่ไม่มีข้าวจะกินอีกเหรอ?”
สีหน้าของนายหญิงใหญ่เซียวร้อนผ่าวพักหนึ่ง พลางพูดขึ้นอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่า:“เฮ้อ คุณไม่รู้หรอกว่าช่วงเวลานี้ที่บ้านของฉันเกิดเรื่องขึ้นบางอย่าง สะใภ้ใหญ่ของครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม พอตรวจเจอก็พบว่าเป็นระยะสุดท้าย ตอนนี้ใกล้จะตายแล้ว เพื่อที่จะรักษาโรคให้กับหล่อน ลูกชายคนโตของฉันใช้เงินทั้งหมดของครอบครัวไปหมดแล้ว...”
นายหญิงใหญ่เซียวพูดขึ้นด้วยสีหน้าโศกเศร้าว่า:“เดิมทีสะใภ้รองก็เป็นโรคยูรีเมียอยู่แล้ว ต้องอาศัยการล้างไตในการมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อไม่นานขณะที่กำลังเดินทางไปล้างไตที่โรงพยาบาลกลับถูกรถชน อวัยวะส่วนล่างตั้งแต่ตูดลงมาต้องตัดทิ้งออกหมด...”
พนักงานตกใจจนกลายเป็นคนโง่:“นี่...อนาถขนาดนี้เลยเหรอ?”
นายหญิงใหญ่เซียวสีหน้าบึ้งตึง:“นี่ไม่ขนาดนั้นหรอก?เรื่องที่น่าอนาถกว่านั้นคือเรื่องที่จะพูดต่อจากนี้!”
พนักงานซักต่อว่า:“ยังมีอะไรที่น่าอนาถกว่านีอีกเหรอ?”
นายหญิงใหญ่เซียว พูดขึ้นอย่างทอดถอนหายใจว่า:“สะใภ้รองคนนั้นของฉันแม้ว่าจะไม่มีขาแล้ว แต่ก็ยังต้องไปฟอกไต เดิมทีก็น่าอนาถมากแล้ว แต่สุดท้ายกลับเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง ตอนนี้วันๆได้แต่ปากเบี้ยวและมีอาการชักอยู่บ่อยๆ!”
ขณะที่พูดถึงหม่าหลัน นายหญิงใหญ่เซียวก็ยิ่งอยู่สึกว่าความเกลียดที่อยู่ในใจได้รับการปลดปล่อย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...