หลังจากที่ชะงัก ซ่งเทียนหมิงก็พูดต่อไปว่า: “ยิ่งไปกว่านั้นสไตล์การทำงานของซ่งหวั่นถิงแกก็รู้ ตัวของนังเด็กคนนี้เองก็ไม่ได้ไขว่คว้าหาคุณภาพชีวิตที่สูงมากเกินไป ดังนั้นก็ตั้งอกตั้งใจอยากที่จะพัฒนามาตราส่วนอย่างสุดชีวิต และผลกำไรที่ซ่งซื่อกรุ๊ปทำได้ เธอแทบรอไม่ไหวที่จะลงทุนทุกอย่างให้กับขยายตัวใหม่ทั้งหมด ทุกคนถูกเธอกระทำแบบนั้น ไม่ได้เงินอะไรเลยด้วยซ้ำ ในใจใครบ้างที่ไม่โกรธ?”
พูดแล้ว ซ่งเทียนหมิงแสยะยิ้ม: “ถ้าหากฉันสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลของตระกูลซ่ง ฉันจะเสนอให้แยกบ้าน อาทั้งหลายของแกนั้นไม่มีทางที่จะปฏิเสธ ถึงเวลานั้นฉันก็จะได้ส่วนแบ่งที่ค่อนข้างใหญ่ ที่เหลือแบ่งให้พวกเขา พวกเขาก็ไม่มีอะไรที่จะคัดค้าน”
ซ่งหรงวี่อดไม่ได้ที่จะถามว่า: “ถ้าหากพวกเขาคัดค้านล่ะ? ถ้าหากพวกเขาต้องการให้แบ่งเท่าๆกันตามจำนวนในครอบครัวล่ะ? ถึงเวลานั้นพวกเราทำอะไรที่ยากลำบากมากมายขนาดนี้ ทั้งหมดก็เพื่อประโยชน์สุขให้กับพวกเขาไม่ใช่เหรอ”
ซ่งเทียนหมิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “แกวางใจเถอะ ปัญหาเหล่านี้ฉันไตร่ตรองมาตั้งนานแล้ว รอหลังจากที่จัดการไอ้แก่แล้ว ฉันจะให้ทางเลือกแก่พวกเขาสองทาง!”
“ทางเลือกแรก คือให้ฉันเป็นผู้นำตระกูลต่อไป ต่อจากนั้นฉันก็จะเหมือนกับซ่งหวั่นถิง เอาทุ่มเทพลังทั้งหมดไปกับการขยายแผนที่ธุรกิจ แบบนี้ พวกเขาก็อย่าได้คิดที่จะแบ่งเงินจากซ่งซื่อกรุ๊ปชั่วเวลาเดี๋ยวเดียว ถึงเวลานั้นพวกเขาไม่มีเงิน รักษาชีวิตที่เย่อหยิ่งมั่วโลกีย์ของพวกเขาให้อยู่ต่อไป ก็ย่อมเป็นทุกข์เป็นธรรมดา;”
“สำหรับทางเลือกที่สอง ก็คือพวกเขาสมัครใจยอมสละส่วนแบ่งของส่วนหนึ่งให้ฉันเอง แบบนี้ ฉันก็ตกลงที่จะขายทรัพย์สินของตระกูลทั้งหมดให้เป็นเงินสด แบบนี้ พวกเขาก็สามารถที่จะได้เงินเร็วขึ้นหน่อยและไปใช้ชีวิตตามที่พวกเขาต้องการ”
“รวมทรัพย์สินทั้งหมดของซ่งซื่อกรุ๊ปตอนนี้ มีประมาณสองหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อที่จะแสวงหาการลงมือที่รวดเร็ว ขายทีเดียวทั้งหมดสองหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ปัญหายังไม่ใหญ่ ความต้องการของฉันก็ไม่มาก ไม่ว่าจะขายได้เท่าไหร่ ครอบครัวพวกเราเอาครึ่งหนึ่ง ที่เหลือแบ่งให้พวกเขา เชื่อว่าพวกเขาไม่มีทางปฏิเสธ”
ซ่งหรงวี่คิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเห็นด้วยว่า: “สิ่งที่พ่อพูดนั้นสมเหตุสมผล สำหรับพวกเขาแล้ว สามพันล้านดอลลาร์ต่อหนึ่งคน กับห้าพันล้านดอลลาร์ต่อหนึ่งคน โดยพื้นฐานแล้วไม่มีอะไรที่แตกต่างกัน ถึงยังไงเงินมากขนาดนี้ ตลอดชีวิตนี้พวกเขาก็ใช้ไม่หมด”
พูดแล้ว ซ่งเทียนหมิงก็กำชับว่า: “หรงวี่ ตัวแปรเดียวในตอนนี้ ไม่ใช่ตระกูลอิโตะ แต่เป็นเย่เฉิน บุคคลปริศนานี้ยิ่งไปกว่านั้นก็ร้อยเล่ห์ แกต้องห้ามไม่ให้เขามองพิรุธอะไรก็ตามออกอย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น แกอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นคนเดียว เกิดเขาจะลงมือกับแก พ่ออยู่ไกลมากขนาดนี้ ก็เกินความสามารถที่จะช่วยได้นะ!”
ซ่งหรงวี่รีบพูดว่า: “พ่อวางใจเถอะ ผมระมัดระวังตัวเป็นอย่างมากแล้ว อยู่ตรงหน้าเย่เฉิน ผมพยายามทำให้ตัวเองดูเหมือนปกติมากที่สุดมาโดยตลอด ยิ่งไปกว่านั้นรอบๆห้องนอนของผม คนที่พักอยู่ก็ล้วนแต่เป็นคนกันเอง ในห้องก็ได้เตรียมการป้องกันการดักฟังไว้เรียบร้อย คงจะไม่มีทางให้เย่เฉินมองพิรุธอะไรออกอย่างแน่นอน!”
ซ่งเทียนหมิงหัวเราะเสียงดัง: “งั้นก็ดี! งั้นก็ดีมาก! แกก็รอข่าวดีของฉันอยู่ที่โรงแรมอย่างสบายๆเถอะ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...