ในเวลานี้ วาตานาเบะ ชินอิจิพูดกับซ่งหวั่นถิงด้วยท่าทางประจบสอพลอในทันที: “คุณซ่ง เมื่อกี้นี้คุณเย่ก็ได้พูดคุยกับผมกันอย่างลึกซึ้งแล้ว ตัวของผมเองก็เจอคุณเย่ครั้งแรกก็รู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนกันมานาน ดังนั้นผมตัดสินใจ ปรับเปลี่ยนสัญญาเงื่อนไขของพวกเราใหม่”
ซ่งหวั่นถิงประหลาดใจเล็กน้อย และรีบถามว่า: “คุณวาตานาเบะ คุณเตรียมจะปรับเปลี่ยนอย่างไรคะ?”
วาตานาเบะ ชินอิจิพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “แบบนี้ พวกเราทั้งสองฝ่ายลงทุนตามสัดส่วนห้าสิบกับห้าสิบ แต่ว่าในการมีกรรมสิทธิ์ถือหุ้น บริษัทของคุณถือหุ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์ บริษัทนิปปอนสตีของพวกเราถือหุ้นสี่สิบเปอร์เซ็นต์!”
ซ่งหวั่นถิงตกใจตะลึงจนตาค้างในทันที!
เธอไม่เข้าใจ นี่คือการกระทำอะไรของวาตานาเบะ ชินอิจิ?!
ทำไมถึงได้สละหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ให้ฟรีๆในทันที?
ในช่วงเวลาต่อมา เธอมองไปทางเย่เฉินในทันที สัญชาตญาณบอกกับเธอว่า ต้องเป็นช่วงเวลาที่ตัวเองออกไปกับนานาโกะ เย่เฉินพยายามให้ได้เงื่อนไขนี้มาจากวาตานาเบะ ชินอิจิแทนตัวเองใหม่!
ในใจของเธอตกใจอย่างไม่มีอะไรเทียบได้: “อาจารย์เย่ใช้วิธีอะไรกันแน่? ทำให้วาตานาเบะ ชินอิจิหลีกทางให้ได้มากขนาดนี้?! ด้วยแบบนี้ อาจารย์เย่เพื่อตัวเองก็จะติดค้างหนี้บุญคุณวาตานาเบะ ชินอิจิครั้งหนึ่งไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซ่งหวั่นถิงก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย
อันที่จริงเธอไม่เคยคิดที่จะเอาเปรียบบริษัทนิปปอนสตี
อันที่จริงเธอคิดว่าก็แค่ได้ถือสิทธิ์หุ้นห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์
แน่นอนว่า ถือสิทธิ์หุ้นตัวเองก็ไม่ได้เอาฟรี
ตัวเองไม่เพียงลงทุนตามสัดส่วนตามห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ ยังจัดหาที่ดินและความสัมพันธ์ในท้องถิ่น มาผลักดันการดำเนินโครงการการร่วมมือลงทุนไปถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว
แต่ทว่า ในขณะนี้ บริษัทนิปปอนสตีได้ให้ผลตอบแทนมหาศาลกับตัวเองแล้ว!
ตอนที่เธอไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี เย่เฉินเอ่ยปากพูดว่า: “หวั่นถิง ในเมื่อคุณวาตานาเบะมีความจริงใจขนาดนี้ ผมว่าตอนนี้พวกคุณก็เซ็นสัญญากันเถอะ รอพวกเรากลับประเทศจัดการเรื่องในประเทศเสร็จ ก็สามารถผลักดันการดำเนินโครงการการร่วมมือลงทุนไปถึงที่กับคุณวาตานาเบะได้แล้ว”
แต่ทว่า วาตานาเบะ ชินอิจิพูดแบบนี้ นั่นก็คืออ่อนน้อมถ่อมตนและยกย่องซ่งหวั่นถิง ท่าทางเรียกได้ว่าถ่อมตัวเป็นอย่างมาก
ในเวลานี้เย่เฉินก็พูดว่า: “หวั่นถิง เลิกโอ้เอ้ได้แล้ว ทุกคนยังรอทานข้าวอยู่ รีบเซ็นสัญญาเถอะ พวกเราก็เริ่มทานอาหารแล้ว ทานเสร็จก็เตรียมตัวสักพัก ยังต้องไปที่ขึ้นเรือที่ท่าเรือ”
เมื่อซ่งหวั่นถิงคำพูดนี้ ก็ไม่ลังเลอีกต่อไปในทันที มองไปที่เย่เฉินอย่างซาบซึ้งใจ ต่อจากนั้นพูดกับวาตานาเบะ ชินอิจิว่า: “คุณวาตานาเบะ งั้นตอนนี้พวกเราก็เซ็นสัญญากันเถอะ!”
วาตานาเบะ ชินอิจิก็ย่อมเห็นด้วยเป็นธรรมดา: “ดีๆๆๆ รีบเซ็น!”
นางาฮิโกะ อิโตะสั่งการให้ลูกน้องเตรียมเครื่องพิมพ์พกพามาหนึ่งเครื่อง ต่อจากนั้นทั้งสองคนก็เปลี่ยนข้อมูลในสัญญาที่เตรียมไว้แต่เดิมในคอมพิวเตอร์ จากนั้นพิมพ์ออกมาทั้งสองฝ่ายต่างคนต่างเซ็นสัญญา และแลกเปลี่ยนกัน
ในใจของซ่งหวั่นถิงตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะมีสัญญาฉบับนี้ ในอนาคตซ่งซื่อกรุ๊ปจะต้องก้าวหน้ารวดเร็วอย่างแน่นอน!
หากบริหารดีๆ บางทีในอนาคตก็อาจจะกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเจียงหนาน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...