ซูรั่วหลีกลัวว่าเขาจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง จึงหลบสายตาเขา ไม่กล้าตอบกลับ
เธอกลัวเย่เฉินจะรู้ว่าตัวเองเป็นลูกนอกสมรสของซูโส่วเต้า
ถ้าเป็นแบบนั้น เขาคงไม่ทำแค่ใช้เธอเป็นเครื่องมือข่มขู่พ่อและตระกูลซูอย่างเดียว แต่อาจจะถึงขั้นเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอให้สาธารณชนรู้
แม้ว่าเธอจะหวังว่าผู้เป็นพ่อจะยอมรับในตัวตนของเธอ แต่เธอเองก็รู้ ว่าถึงยังไงพ่อก็เป็นถึงผู้นำตระกูลซู แถมยังมีเมียหลวงและลูกตั้งสองคน ถ้าหากตัวตนของเธอถูกเปิดเผยออกไป คงมีผลในทางลบต่อชื่อเสียงของผู้เป็นพ่อและความสุขของครอบครัวแน่
ทั้งชีวิตนี้ซูรั่วหลีแค่อยากแบ่งเบาภาระมาจากพ่อ ไม่เคยคิดที่จะเพิ่มภาระให้พ่อเลยสักครั้ง ดังนั้นลึกในใจของเธอตอนนี้จึงเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น กลัวว่าเย่เฉินจะจับสังเกตได้
เมื่อเย่เฉินเห็นว่าซูรั่วหลีหลบสายตา เขาจึงหยุดพูดไป ในใจก็ตระหนักได้ถึงความผิดปกติ พร่ำบ่นคนเดียวว่า “ตอนนี้เธอคือนักโทษคดีหนักหมายเลขหนึ่งในญี่ปุ่น ถ้าในกรณีนี้ยังช่วยเธอออกมาได้ แปลว่าตระกูลซูก็ต้องจ่ายอย่างต่ำพันกว่าล้าน หรืออาจจะเป็นจำนวนเงินที่มากกว่านั้น ถึงจะสามารถ.....”
พูดมาถึงตรงนี้ เย่เฉินก็จ้องซูรั่วหลีเขม็ง แล้วเอ่ยเสียงเย็นว่า “วิธีจัดการของคนตระกูลซู ฉันก็พอได้ยินมาบ้าง แต่ว่าตอนนี้ซูเฉิงเฟิงไม่ได้เป็นคนใจกว้างขนาดนั้น เขาไม่มีทางยอมเสียเงินมากมายขนาดนี้เพื่อช่วยคนคนเดียวแน่นอน ถึงแม้เธอจะมีความสามารถมากแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ไม่คุ้มค่ากับเงินมากมายขนาดนี้หรอก”
พูดมาถึงตรงนี้ เย่เฉินก็จงใจลากเสียงยาวแล้วแสยะยิ้ม “นอกเสียจากว่า....เธอไม่ได้เป็นแค่ลูกน้องของตระกูลซู!”
แม้ว่าความสามารถของซูรั่วหลีจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่ในเรื่องประสบการณ์ในสังคมและจิตวิทยาเธอไม่ผ่านจริงๆ ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ เธอก็แสดงออกมาอย่างลนลาน เอ่ยพูดออกมาอย่างเผยพิรุธว่า“ไม่ใช่...ไม่ใช่อย่างที่นายคิด! ฉันเป็นลูกน้องของตระกูลซูจริงๆ...”
เย่เฉินแสยะยิ้มเย็น “ดูเหมือนว่าเธอจะขาดประสบการณ์เข้าสังคมจริงๆ แววตาของเธอตอนนี้กำลังส่งสัญญาณให้ฉันอย่างชัดเจนเลยล่ะ!”
ซูรั่วหลีเอ่ยถามอย่างลนลาน “ห๊ะ?! สัญญาณอะไร?!”
เย่เฉินยิ้ม “สัญญาณที่บอกว่าฉันเดาถูกยังไงล่ะ”
เย่เฉินหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “เอาล่ะสาวน้อย ยิ่งเธออธิบาย ก็ยิ่งเหมือนอยากปิดบัง ถ้าเธอเป็นแค่ลูกน้องของตระกูลซูจริงๆ ทำไมถึงยอมตายเพื่อผู้นำตระกูลโดยไม่สนชีวิต ทำไมต้องอธิบายอะไรออกมามากมาย แค่นี้มันก็ชัดแล้วว่ากำลังหาข้อแก้ต่างให้ตระกูลซูอยู่!”
พูดจบ เย่เฉินก็เอ่ยยั่วยุขึ้นมาว่า “ถ้าให้ฉันเดา เธอคงไม่ใช่ลูกนอกสมรสของใครในตระกูลซูหรอกใช่ไหม? พวกเขาถึงได้ลงทุนช่วยเธอออกมาขนาดนี้ ใช่หรือเปล่า?”
ซูรั่วลีตกใจกลัวจนหน้าขาวซีด ส่ายหัวอย่างสุดชีวิตจนน้ำตาไหลออกมา พูดกลั้วสะอื้นว่า “ฉันไม่ใช่ลูกนอกสมรสของตระกูลซูจริงๆนะ เชื่อฉันเถอะ....”
เย่เฉินไม่สนใจเธอ เขาพึมพำพร้อมกับส่ายหน้าว่า “แล้วเธอเป็นลูกนอกสมรสของใครล่ะ? ซูเฉิงเฟิง? ไม่น่าเป็นไปได้ หมาแก่อย่างซูเฉิงเฟิงคงตายด้านไปแล้ว ไม่น่าจะเป็นพ่อเชื้อให้กำเนิดสาวน้อยวัยละอ่อนอย่างเธอได้ อีกอย่างถ้าเธอเป็นลูกนอกสมรสของเขาจริงๆ เขาคงไม่ส่งเธอไปคุ้มกันซูโส่วเต้าหรอก ถ้าอย่างนั้น เธออาจจะถูกซูโส่วเต้าจับได้ทุกเวลา.....”
พูดมาถึงตรงนี้ เย่เฉินก็มองซูรั่วหลีอย่างประเมิน แล้วถามยิ้มๆว่า “พูดมาขนาดนี้แล้ว เธอคงแป็นลูกนอกสมรสของซูโส่วเต้าสินะ? ซูโส่วเต้าให้เธอมาเป็นบอดี้การ์ดให้ก็เพื่อตบตาคนอื่น แบบนี้ก็จะอยู่ใกล้ชิดกันได้ แถมยังไม่ถูกคนอื่นสงสัยด้วย ฉันเดาถูกไหม?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...