ซ่งหวั่นถิงหัวเราะออกมา ลูบรอยช้ำบริเวณหูและขมับ จากนั้นก็เอ่ยพูดว่า “ตอนแรกก็เหนื่อยมากๆเลยล่ะ อยากนอนให้เต็มอิ่มด้วย แต่ว่าทนรับแรงสั่นสะเทือนจากคลื่นไม่ไหวจริงๆ เลยขึ้นมาสูดอากาศสักหน่อย”
เย่เฉินเอ่ยถามอย่างห่วงใย “เมาเรือเหรอ?”
ซ่งหวั่นถิงพยักหน้า พูดยิ้มๆว่า “ยังได้อยู่ค่ะ ไม่ค่อยรุนแรงเท่าไหร่”
เธอพูดพร้อมกับเดินมาหยุดอยู่ข้างๆเย่เฉิน เอนพิงที่กั้นเรือ มองดูดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้น เอ่ยพูดอย่างเพ้อๆว่า “ดวงอาทิตย์ขึ้นในทะเลสวยจัง โตมาขนาดนี้ ฉันเพิ่งเคยได้เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลเป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย”
เย่เฉินเห็นความกังวัลและความประหม่าปรากฏอยู่ระหว่างคิ้วของเธอ จึงเอ่ยเรียกเธออย่างอดไม่ได้ว่า “หวั่นถิง....”
ซ่งหวั่นถิงรีบหันกลับมามองเย่เฉิน “อาจารย์เย่ จะพูดอะไรเหรอคะ?”
เย่เฉินเอ่ยถามเธอ “เธอมีอะไรในใจหรือเปล่า?”
ซ่งหวั่นถิงลังเลอยู่สักพัก ก็พยักหน้ายอมรับเบาๆ จากนั้นก็เอ่ยพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันเป็นห่วงอาการของคุณปู่ในตอนนี้ อีกอย่างไม่รู้เลยว่าหลังจากที่กลับไป ควรที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ยังไงดี....”
เย่เฉินเอ่ยพูดอย่างจริงจังว่า “กลับไปแล้วต้องจัดการยังไง เรื่องนี้เธอไม่ต้องกังวล ฉันจะช่วยเธอจัดการให้เรียบร้อย ส่วนอาการของคุณท่านซ่งในตอนนี้...”
เย่เฉินหยุดไปสักพัก จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “เอาอย่างนี้แล้วกัน เรากลับเข้าไปในเรือก่อน ฉันจะใช้วิทยุดาวเทียมโทรหาหงห้าให้เขาถามให้”
ซ่งหวั่นถิงรีบพยักหน้า “ได้ค่ะอาจารย์เย่!”
ทั้งสองคนกลับเข้ามาในเรือ หลังจากที่กัปตันเรือเอาวิทยุดาวเทียมมาให้ เย่เฉินก็ต่อสายหาหงห้า
เมื่อหงห้ารับสาย ก็เอ่ยถามขึ้นมาว่า “สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าใครโทรมาครับ?”
หงห้าเอ่ยพูดว่า “เหมือนจะเป็นวันมะรืนช่วงสิบโมง จัดประชุมที่ซ่งซื่อกรุ๊ป อีกอย่างเวลาสิบเอ็ดโมงพวกเขาก็จะจัดงานแถลงข่าวเพื่อประกาศผลการตัดสินของการประชุม แถมยังเชิญนักข่าวหลายสำนักมาเป็นพยานด้วยนะครับ”
เย่เฉินรู้ดี ว่าตอนนี้ซ่งเทียนหมิงกำลังอาศัยวิธีการที่สมเหตุสมผลเพื่อให้ได้ตำแหน่งผู้นำและผู้บริหารของซ่งซื่อกรุ๊ปมาครอบครองอย่างเปิดเผย
ในมุมมองของซ่งเทียนหมิง ต่อให้อยู่หรือตายก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อีกอย่างเปอร์เซ็นต์มีชีวิตรอดยยังต่ำมากอีกด้วย ความน่ายำเกรงก็มีแค่ริบหรี่
ในเมื่อตอนนี้คุณท่านซ่งกลายเป็นคนความจำเสื่อมไปแล้ว สำหรับเขาจึงไม่มีความเกรงกลัวใดๆทั้งสิ้น
ในสถานการณ์อย่างนี้ ควรถือโอกาสคว้าซ่งซื่อกรุ๊ปมาไว้ในมือ และขายทรัพย์สินแลกเป็นเงินสดให้เร็วที่สุด สิ่งนี้ถึงจะเป็นสิ่งที่สองพ่อลูกให้ความสำคัญที่สุด
คิดมาถึงตรงนี้ เย่เฉินก็ยิ้มออกมานิ่งๆ แล้วเอ่ยพูดว่า “หงห้า นายช่วยไปขอบัตรเชิญเข้างานกับซ่งเทียนหมิงให้ฉันสักสองสามใบหน่อยสิ บอกเขาว่าถึงตอนนั้นฉันจะไปเข้าร่วมด้วยตัวเอง!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...