เมื่อเห็นเซียวฉางควนและหม่าหลันก็จะทะเลาะกันขึ้นมา เซียวชูหรันก็รีบออกมาไกล่เกลี่ยว่า: “โธ่เอ๊ยพ่อค่ะแม่ค่ะ พวกคุณอย่าพูดจากันก็ทะเลาะกันได้มั้ย? เย่เฉินเพิ่งจะกลับมา ยิ่งไปกว่านั้นรั่งหลินก็อยู่ด้วย อย่าให้คนอื่นเขาดูเรื่องตลก...”.
เซียวฉางควนมองไปที่หม่าหลัน และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “เห็นแก่หน้าของลูกสาว ฉันก็จะไม่ถือสาคุณ!”
หม่าหลันพูดด้วยความไม่พอใจว่า: “ดูคำพูดนั้นของแก ก็เหมือนกับว่าฉันอยากจะถือสาแก”
จากนั้น หม่าหลันเชิดหน้าไปข้างหนึ่ง ไม่มองเซียวฉางควนอีก
ในเวลานี้ ต่งรั่งหลินพูดกับเซียวชูหรันด้วยความกระอักกระอ่วนว่า: “ใช่แล้วชูหรัน เดือนหน้ากู้ชิวอี๋มาเปิดคอนเสิร์ตที่เมืองจินหลิง ถึงเวลานั้นพวกเราไปดูด้วยกันมั้ย?”
เซียวชูหรันรีบพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “เย่เฉินบอกจะไปกับฉัน เขารู้จักกับกู้ชิวอี๋ บอกว่าสามารถซื้อตั๋วสำหรับแถวหน้าได้”
ต่งรั่งหลินแกล้งทำเป็นตกใจมองไปทางเย่เฉิน และถามว่า: “เย่เฉิน คุณรู้จักกับกู้ชิวอี๋ด้วยงั้นเหรอ?!”
เมื่อเย่เฉินเห็นท่าทีของต่งรั่งหลิน อดไม่ได้ที่จะแปลกใจเล็กน้อย
ครั้งก่อนไปที่เย่นจิง ตอนที่กู้ชิวอี๋ลากตัวเองไปสเกตน้ำแข็งที่ทะเลสาบโห้วไห่ ก็บังเอิญเจอต่งรั่งหลินอยู่ที่ทะเลสาบโห้วไห่
เธอรู้ว่าตัวเองรู้จักกับกู้ชิวอี๋ ทำไมตอนนี้ได้ยินเซียวชูหรันบอกว่าตัวเองรู้จักกับกู้ชิวอี๋ กลับยังแกล้งทำท่าทางตกใจมาก?
ในเวลานี้ต่งรั่งหลินก็กะพริบตาใส่เย่เฉิน เย่เฉินก็เข้าใจในทันที
ดูเหมือนว่า ต่งรั่งหลินก็คำนึงถึงตัวเอง ไม่อย่างนั้นเกิดพูดเรื่องที่ตัวเองไปเล่นสเกตน้ำแข็งกับกู้ชิวอี๋ เซียวชูหรันก็ต้องเข้าใจผิดอย่างแน่นอน
ดังนั้น เขาก็เป็นไปตามคำพูดของต่งรั่งหลิน และพยักหน้าพูดว่า: “คุณกู้เป็นหนึ่งในลูกค้าของผม เมื่อก่อนผมช่วยเธอดูฮวงจุ้ยมาก่อน”
ต่งรั่งหลินอ้าปากพูดว่า: “พระเจ้า ดีขนาดนั้นเลยเหรอ?! งั้นคุณคงจะสนิทกับคุณกู้มากแน่ๆ ช่วยหาตั๋วแถวหน้าให้ฉันด้วยได้หรือเปล่า? ถึงเวลานั้นฉันจะจ่ายเงินให้คุณสองเท่า!”
จากนั้น ต่งรั่งหลินกลัวเย่เฉินไม่ตกลง พนมมือทั้งสองและพูดอ้อนวอนว่า: “เย่เฉิน ฉันก็เหมือนกันกับชูหรัน ชื่นชอบกู้ชิวอี๋มานานมากแล้ว อยากจะนั่งแถวหน้าดูคอนเสิร์ตของเธอเป็นพิเศษ…”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ต่งรั่งหลินก็ถอนหายใจ และพูดว่า: “แต่บัตรคอนเสิร์ตแถวหน้าของเธอซื้อได้ยากมากจริงๆ ตราบใดที่เธอเปิดคอนเสิร์ต ทายาทเศรษฐีจากทั่วประเทศจะรุมเหมือนแมลงวัน ที่นั่งดีๆทั้งหมดก็จะถูกแย่งหมดเกลี้ยงในชั่วพริบตา ฉันแย่งมาหลายครั้งก็ไม่สำเร็จ ดังนั้นก็ทำได้เพียงขอร้องให้คุณช่วยเหลือแล้ว…”
“ตอนนั้นเย่เฉินบอกว่า เหตุผลที่เขารู้จักกับกู้ชิวอี๋ เป็นเพราะปีนั้นในบ้านของกู้ชิวอี๋อยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจินหลิง ได้จัดตั้งกลุ่มช่วยเหลือการกุศลกับเขา…”
“พูดตรงๆ ตอนที่เย่เฉินยังเป็นเด็กอาศัยความช่วยเหลือของตระกูลกู้มาทั้งหมด ตัวเองก็คงจะติดค้างหนี้บุญคุณตระกูลกู้มากมายแน่ๆ ถ้าหากให้เขาช่วยตัวเองไปขอตั๋วกับกู้ชิวอี๋ งั้นก็ต้องทำให้เย่เฉินติดค้างหนี้บุญคุณมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน ฉันไม่อยากให้เย่เฉินเพื่อช่วยขอตั๋วแต่ถูกคนดูถูก!”
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เธอก็รีบพูดว่า: “ไม่เป็นไรๆ งั้นฉันคิดหาทางเอง ถ้าไม่ได้ตั๋วแถวหน้าสุด ถึงเวลานั้นฉันซื้อก่อนหน้าห้าแถวใบหนึ่ง ก็พึงพอใจแล้ว”
เมื่อเย่เฉินได้ยินแบบนี้ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจเล็กน้อย
เขาคิดว่า ถ้าหากตัวเองไม่สามารถหักห้ามให้ต่งรั่งหลินไปดูคอนเสิร์ตได้ ถ้าอย่างนั้นถึงเวลานั้นต่งรั่งหลินนั่งห่างไกลกับตัวเองและภรรยาเล็กน้อย ก็เป็นเรื่องที่ดี
อย่างน้อย ถึงเวลานั้นความกดดันของตัวเองก็สามารถน้อยลง
เย่เฉินรู้ดีว่า ถ้าหากตัวเองไปขอตั๋วสามใบกับกู้ชิวอี๋ ถ้าอย่างนั้นเธอไม่มีทางปฏิเสธอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นจะให้สามที่นั่งติดกันอย่างแน่นอน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...